โฆษณา ‘กางเกงยีนส์’ สะเทือนการเมืองอเมริกัน

นิวยอร์ค 6 ส.ค. – แคมเปญโฆษณากางเกงยีนส์ของแบรนด์ “อเมริกัน อีเกิล” (American Eagle) ที่มี ซิดนีย์ สวีนีย์ นางเองชื่อดังสุดฮ็อตมาเป็นนางแบบ สร้างกระแสฮือฮาไปทั่วโลกออนไลน์ แม้กระทั่งผู้นำสหรัฐฯ ยังต้องออกมาแสดงความเห็นในเรื่องนี้ด้วย คลิปโฆษณาความยาว 30 วินาทีที่ออกอากาศเมื่อสัปดาห์ก่อน ซิดนีย์ สวีนีย์ นางเอกสาวปรากฏตัวในชุดกางเกงยีนส์แบรนด์ American Eagle พร้อมพูดประโยคว่า “ยีนถูกถ่ายทอดมาจากพ่อแม่ เช่น สีผม นิสัย สีดวงตา แต่กางเกงยีนส์ของฉันสีน้ำเงิน” เนื้อหาตั้งใจเล่นคำสนุก ๆ ระหว่าง “jeans” (ยีนส์) กับ “genes” (ยีนพันธุกรรม) พร้อมเน้นรูปลักษณ์ของเธอ ซึ่งเป็นหญิงสาวผิวขาว ผมบลอนด์ ตาสีฟ้า รูปร่างเซ็กซี่ จนกลายเป็นกระแสไวรัลอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ดี หลายคนมองว่าโฆษณาชิ้นนี้ไม่ได้เป็นเพียงโฆษณาแฟชั่นธรรมดา แต่ซ่อนเนื้อหาที่มีนัยยะเชิงเชื้อชาติ และส่งเสริมอุดมการณ์ความเหนือกว่าทางพันธุกรรมของคนผิวขาว เพราะสื่อว่า ผู้หญิงแบบ ซิดนีย์ สวีนีย์ คือร่างกายที่ดี ใส่กางเกงยีนส์แล้วออกมาสวยเพราะพันธุกรรมดี […]

“อนุทิน” ย้ำมั่นใจปมที่ดินเขากระโดง ทำถูกต้องตามกฎหมาย

บุรีรัมย์ 2 ส.ค.-“อนุทิน” ย้ำมั่นใจปมที่ดินเขากระโดง ที่ผ่านมาทำถูกต้องตามกฎหมาย คำพิพากษาศาลทุกประการ บอกใครทำอะไรต้องรับผิดชอบผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 2 ส.ค. ที่ จ.บุรีรัมย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีต รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีกระทรวงมหาดไทย แถลงผลสอบที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ว่าเป็นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยให้ยึดตามคำสั่งศาลฎีกา-ศาลปกครอง พร้อมสั่งเพิกถอนที่ดิน 5 พันไร่ตั้งแต่ 2 ส.ค.นี้ ว่าจะส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวต้องถูกเพิกถอนสิทธิ์ด้วยหรือไม่ ว่า ที่ผ่านมาเรื่องนี้มีการดำเนินการตามกฎหมายอย่างถูกต้องทุกประการแล้ว อย่างไรก็ตาม วันนี้ถ้าตนยังพูดเรื่องนี้จะเหมือนเป็นการไปปกป้องใคร ซึ่งเรามั่นใจว่าสิ่งที่ผู้เกี่ยวข้องทุกคนได้ทำไป เป็นการปฏิบัติตามระเบีบบ กฎหมาย และตามคำพิพากษาศาลทุกประการ ดังนั้น เราจึงมีความมั่นใจอยู่ ส่วนใครจะทำอะไรถือว่าเป็นคนละยุคคนละสมัย ต้องรับผิดชอบผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น “ขอให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎหมาย อย่าเอามาเป็นเรื่องการเมือง ภารกิจหลักวันนี้คือการดูแลปกป้องบ้านเมือง ปกป้องอธิปไตย ดูแลความปลอดภัยชาวบ้าน และให้กำลังใจผู้ที่รักษาบ้านเมืองของเรา“ นายอนุทิน ระบุ เมื่อถามว่า ต้องการให้โฟกัสเรื่องชายแดนมากกว่าเรื่องการเมืองใช่หรือไม่ นายอนุทิน […]

“ธรรมนัส” ชี้การเมืองไม่มีมิตรแท้-ศัตรูถาวร

ชลบุรี 12 ก.ค.-“ธรรมนัส” ชี้การเมืองไม่มีมิตรแท้ ไม่มีศัตรูที่ถาวร ลั่นพรรคกล้าธรรมไม่เคยสร้างศัตรู มั่นใจหากพรรคร่วมสามัคคี องค์ประชุมสภาฯ ไม่มีปัญหา มอง “อนุทิน” มีโอกาสนั่งนายกฯ หากรวมเสียงข้างมากได้ มอบ “ไผ่ ลิกค์” คุยพรรคร่วมเรื่องเก้าอี้รองประธานสภาฯ พรรคมีสิทธิเสนอบุคคล ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม กล่าวถึงการเลือกผู้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ว่า เป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยกัน ส่วนเรื่องเสียงพรรคร่วมรัฐบาลปริ่มน้ำ ได้หยิบยกชี้ให้เห็นว่ายุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขณะนั้นก็เสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนเองได้คุมเสียงในสภาไม่มีปัญหาอะไร ผ่านมาได้ หากพรรคร่วมรัฐบาลสามัคคีและนำตัวเลขมาคุยกันเชื่อว่าองค์ประชุมจะรอดไปได้ “ถ้าคนอยู่ในแวดวงการเมืองมานาน เริ่มมาตั้งแต่ปี 2541 สมัยพรรคไทยรักไทยเห็นอะไรมาเยอะ สถานการณ์การเมือง ณ เวลานี้ ผมอยู่วงในผมรู้ รู้ว่าสถานการณ์การเมืองตอนนี้เอาอยู่ หรือไม่เอาอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เรากับพรรคร่วมจะต้องคุยกัน ถามว่าสถานการณ์อย่างนี้ มีเสถียรภาพหรือไม่ มันอยู่ที่พรรคร่วมรัฐบาลถ้าจับมือกันก็มีเสถียรภาพ” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว เมื่อถามว่าในตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร พรรคกล้าธรรมว่าจะเสนอบุคคลดำรงตำแหน่งหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสระบุว่า พรรคกล้าธรรมมีสิทธิเสนอ โดยจะให้ […]

การเมือง-สงครามการค้า กดดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำสุดในรอบ 28 เดือน

กรุงเทพฯ 9 ก.ค. – ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิถุนายน ปรับตัวลดลงทุกรายการต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และต่ำสุดในรอบ 28 เดือน จากความกังวลเสถียรภาพของรัฐบาลและสงครามการค้า ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและหอการค้า แถลงผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคประจำเดือนมิถุนายน 2568 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวลดลงทุกรายการต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และอยู่ในระดับที่ต่ำสุดในรอบ 28 เดือนนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2566 เป็นต้นมา เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของรัฐบาลและการเมืองของไทยและสงครามการค้าจากนโยบาย Trump 2.0 และรู้สึกว่าเศรษฐกิจไทยกำลังชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ารัฐบาลจะออกมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทยได้ใช้นโนบายการเงินผ่อนคลายจากการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายตั้งแต่ต้นปีมาแล้ว 2 ครั้งรวม 0.5% อยู่ที่ 1.75% แต่ผู้บริโภครู้สึกว่าเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวได้ช้าและการเข้าถึงสินเชื่อลำบาก ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวม และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ระดับ 46.7, 50.6 และ 60.9 ตามลำดับ ปรับตัวลดลงทุกรายการต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 โดยปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับดัชนีในเดือนพฤษภาคม ที่อยู่ในระดับ 48.1, 51.9 และ 62.7 ตามลำดับ การที่ดัชนียังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ (ที่ระดับ 100) แสดงว่า […]

“กรวีร์” บอกอดสงสัยไม่ได้ โยกข้าราชการระดับสูง เป็นการเมืองหรือไม่

รัฐสภา 9 ก.ค.-“กรวีร์” บอกอดสงสัยไม่ได้ โยกข้าราชการระดับสูง หลัง รัฐมนตรีเพิ่งรับตำแหน่งไม่นาน เป็นเรื่องการเมืองหรือไม่ ขออย่าเป็นเพราะล้างแค้นทางการเมือง ชี้ต้องพิสูจน์ว่าย้ายแล้วจะดีขึ้นจริง นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การปกครองสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงมหาดไทยได้มีคำสั่งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง ว่า เป็นอำนาจที่ทางรัฐมนตรีสามารถเสนอคณะรัฐมนตรีได้ ซึ่งตนเห็นตามข่าว ว่ารัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์ว่า ต้องการคนที่สนองนโยบาย หรือตรงไหนที่ไม่ได้ตอบโจทย์ ในการบริหารงาน ก็จำเป็นต้องปรับเปลี่ยน “แต่อดตั้งคำถามไม่ได้ว่า ท่านเพิ่งจะมีการโปรดเกล้าฯ และเพิ่งได้รับตำแหน่ง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้นสัปดาห์ก็โยกย้าย ตำแหน่งอธิบดี ทำให้อดคิดไม่ได้ ว่าเป็นประเด็นการเมืองหรือไม่ ซึ่งตรงนี้ท่านรัฐมนตรีต้องเป็นคนตอบคำถาม” นายกรวีร์ กล่าว นายกรวีร์ กล่าวต่อว่า ตนได้ติดตามว่าเหตุสำคัญในการโยกย้ายเป็นเรื่องอะไร ซึ่งรัฐมนตรีก็บอกว่าเป็นเรื่องของการทำงาน ดังนั้น คงต้องให้รัฐมนตรีเป็นผู้พิสูจน์ ว่าหลังจากที่โยกย้ายแล้วการทำงานจะดีขึ้นจริงหรือไม่ ทั้งเรื่องปราบปรามยาเสพติด หรือการผลักดันนโยบายต่างๆ ของกระทรวงมหาดไทย เป็นไปตามที่รัฐมนตรีว่าไว้หรือไม่ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดมองถึงฝ่ายการเมืองโดยเฉพาะตัวรัฐมนตรีเอง การปรับโยกย้ายในเรื่องแบบนี้ เป็นสัญญาณที่ส่งผล กระทบอย่างยิ่งโดยเฉพาะข้าราชการระดับสูง อยากให้เป็นการโยกย้ายด้วยความเป็นธรรม และประสิทธิภาพในการทำงาน ไม่ใช่ตอบสนอง […]

กมธ.ปกครอง ถกปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

รัฐสภา 9 ก.ค.-กมธ.ปกครอง ถกความคืบหน้าปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา บอกความสัมพันธ์ของ 2 รัฐ ควรวางการเมือง เอาประเทศชาติไว้ก่อน เชื่อมือฝ่ายความมั่นคง พิจารณารอบคอบ นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการการปกครอง กล่าวถึงการประชุมวันนี้ในประเด็นปัญหาไทย-กัมพูชา ว่าเป็นการติดตามความคืบหน้ากับกระทรวงกลาโหมฝ่ายความมั่นคง และกระทรวงการต่างประเทศว่าสถานการณ์ปัจจุบันไปถึงไหนอย่างไร และมีแผนที่จะเจรจาร่วมกันอีกครั้งเมื่อไหร่ รวมถึงทางกระทรวงมหาดไทยเตรียมความพร้อมในเรื่องการดูแลประชาชนบริเวณชายแดนอย่างไรด้วย โดยวันนี้เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เดินทางมาแทน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งจะมีการสอบถามถึง การบริหารจัดการ ในทีมไทยแลนด์ ที่รัฐมนตรีได้ตั้งไว้ ว่าการมีส่วนร่วมทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์และส่วนที่เกี่ยวข้องได้มีการพิจารณาถึงผลกระทบที่จะตามมาจากการปิดด่านหรือมาตรการที่ฝ่ายความมั่นคงทำหรือไม่ เมื่อถามว่า มีการเชื่อมโยงระหว่างการแก้ปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา กับรัฐบาล ของทั้งสองฝ่าย กลายเป็นเงื่อนไขสำคัญในการเจรจา นายกรวีร์กล่าวว่า เชื่อมือฝ่ายความมั่นคง หวังว่าฝ่ายความมั่นคงจะเอาประเด็นต่างๆ มาพิจารณาอย่างรอบคอบ และเมื่อพูดถึงฝ่ายความมั่นคง อธิปไตยของไทย ตนคิดว่าเราควรจะวางเรื่องการเมืองไว้ก่อนและเอาเรื่องของประเทศชาติไว้ก่อน ส่วนท่าทีรัฐบาลไม่ได้ตอบโต้กัมพูชามากนัก มีเพียงการปิดด่าน แต่มาตรการอื่นๆ ที่จะช่วยประชาชนในพื้นที่ก็ไม่ได้มีออกมา นายกรวีร์ กล่าวว่า วันนี้ก็จะได้มาพูดคือกันถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น ว่าการปิดด่านเป็นอย่างไรเจตนาที่เราจะกดดันชาวกัมพูชาหรือมีภัยเรื่องความมั่นคงอย่างไรรวมถึงผลกระทบที่จะตามมาที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนบริเวณชายแดนด้วยจะแก้ปัญหาอย่างไร.-315.-สำนักข่าวไทย

จับตาการเมืองกระทบเศรษฐกิจ?

6 ก.ค. – ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี ม.หอการค้าไทย มองกรณีการเจรจามาตรการภาษีไทย-สหรัฐ ยังไม่บรรลุผล จะเป็นปัจจัยทางเศรษฐกิจที่น่ากังวลหรือไม่ รวมถึงปัจจัยทางการเมืองในขณะนี้จะกระทบเศรษฐกิจครึ่งปีหลังแค่ไหน.-สำนักข่าวไทย

“จุลพันธ์” ยืนยัน “แพทองธาร” ไม่ผิด คลิปหลุดคุย “ฮุนเซน”

รัฐสภา 30 มิ.ย.- “จุลพันธ์” ยืนยัน “แพทองธาร” ไม่ผิด คลิปหลุดยกหูคุย “ฮุนเซน” ชี้ผู้นำระดับประเทศยกหูหากันเป็นเรื่องปกติ หวังผลพิจารณาศาล รธน. จะเป็นบวก มั่นใจไม่เกิดเดดล็อกทางการเมือง หากนายกฯ ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ เมินโพล “แพทองธาร” อยู่อันดับ 5 เหตุทำโพลในวันคลิปหลุด อารมณ์คนอ่อนไหว นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึง การพูดคุยกันภายในพรรค ถึงผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ที่ สว. ยื่นเรื่องถอดถอนนายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่ง ซึ่งอาจจะส่งผลให้นายกรัฐมนตรีอาจถูกสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ว่า ไม่ต้องพูดคุย เพราะมั่นใจ สิ่งที่เคยให้สัมภาษณ์ไปแล้วก็ยังคงยืนยัน ว่าสิ่งที่นายกรัฐมนตรีเจรจากับสมเด็จฮุน เซน ไม่ได้เป็นสิ่งผิดปกติเพราะการพูดคุยกันในระดับประเทศผู้นำก็ยกหูถึงกันตามปกติ เมื่อวันก่อนนายกรัฐมนตรี ก็ยกหูหา ประธานาธิบดีมา ครง ซึ่งเป็นเรื่องเดียวกันก็ใช้กลไกในการพูดคุย เพื่อที่จะหาแนวร่วม และหาความคืบหน้าในด้านเศรษฐกิจและสังคม เป็นเรื่องธรรมชาติเป็นเรื่องธรรมดา และสิ่งที่พูดไปก็ไม่ได้มีผลร้ายผลเสียกับประเทศ ก็ต้องดูว่าประเทศไทยสูญเสียอะไรไปไหมในเรื่องของดินแดน และไม่ได้มีผลกระทบกับสิทธิ จึงไม่มีอะไรที่น่าห่วง ส่วนเรื่องกระบวนการ ยื่นตรวจสอบก็เป็นสิทธิที่ทำได้ตามรัฐธรรมนูญ […]

“วันนอร์” โยนวิป 2 ฝ่ายถกดันนิรโทษกรรมให้ทุกฝ่ายยอมรับ

จีน​ 28 มิ.ย. – ประธานวันนอร์ โยนวิป 2 ฝ่ายถกดันนิรโทษกรรม ให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย เชื่อ หากพลักดันสำเร็จจะสร้างความปรองดองให้กับคนในประเทศ แต่หากไม่สำเร็จจะมีผู้ที่เดือดร้อน ชี้ม็อบการเมืองเป็นเรื่องธรรมดา แต่หากการเมืองไม่นิ่งก็จะส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจ-ความเชื่อมั่น ตามมา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่สภาผู้แทนราษฎรมีแนวคิดที่จะผลักดัน การพิจารณาเรื่องนิรโทษกรรม ว่าขณะนี้ยังอยู่ในชั้นกรรมาธิการพิจารณาปรับปรุงก่อนเสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยจะต้องมีการหารือกับวิปทุกฝ่ายก่อนที่จะนำเข้าสู่วาระพิจารณาของสภาฯ ส่วนในเนื้อหาของการนิรโทษกรรมยังมีความเห็นต่างกันอยู่ของผู้พิจารณา คาดว่าจะต้องมีการปรับปรุงและรัฐบาลจะต้องรับฟังเพื่อให้ทุกฝ่ายยอมรับตรงกัน พร้อมชี้ว่าเรื่องร่างกฎหมายนิรโทษกรรมเป็นร่างกฎหมายที่เป็นประโยชน์ ซึ่งหากผลักดันได้สำเร็จก็สามารถสร้างความปรองดองให้กับประเทศได้ในระดับหนึ่ง แต่หากกฎหมายไม่สำเร็จก็อาจจะมีผู้ที่ได้รับผลกระทบเดือดร้อน จากความเห็นทางการเมืองที่ไม่ตรงกัน หากทำให้คนเรานั้นสามารถจะดำรงชีวิตอยู่ได้ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขให้ได้ก็จะช่วยให้การเมืองเดินไปได้มากยิ่งขึ้น ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการชุมนุมทางการเมืองในวันนี้ ว่าในฐานะประธานรัฐสภาไม่ต้องการที่จะให้ความเห็นหรือคาดการณ์เกี่ยวกับการชุมนุม ทางการเมือง โดยเฉพาะเรื่องการเมืองเป็นเรื่องธรรมดาที่มีปัญหา พร้อมกับหยิบยกการเมืองในประเทศจีนที่พัฒนาได้ เพราะการเมืองของจีนค่อนข้างเป็นระบบ แต่ถ้าหากการเมืองไม่นิ่งก็ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจตามมาการลงทุนก็มีปัญหา เพราะคนขาดความเชื่อมั่นว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไปที่จะพิจารณามาลงทุน นักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวประเทศไทยถ้าประเทศไทยยังเป็นปัญหาเช่นการประท้วงอะไรต่างๆ รัฐบาลมีความไม่มั่นคงนักท่องเที่ยวจะเลือกไปประเทศอื่นก็ได้ แล้วเสียโอกาสระดับหนึ่ง แต่เราก็ต้องเข้าใจว่าประชาธิปไตยก็เป็นเช่นนี้ -สำนักข่าวไทย

“ธนาธร” เห็นด้วยกับพรรคประชาชน รัฐบาลต้องยุบสภา

รัฐสภา 25 มิ.ย.-“ธนาธร” เรียกร้องการเมืองกลับสู่สภาวะปกติ ชี้เส้นทางประเทศตีบตัน ไม่เห็นความหวังเท่าไหร่ เห็นด้วยพรรคประชาชนบอกรัฐบาลต้องยุบสภา ในสภาวะฝุ่นตลบ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการถ่ายโอนธุรกิจของกองทัพไปอยู่ในความดูแลของหน่วยงานอื่น หรือย้ายไปสถานที่อื่นที่เหมาะสม สภาผู้แทนราษฎร เดินทางมาร่วมประชุมกรรมาธิการประจำสัปดาห์ ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ขอสัมภาษณ์ประเด็นการเมือง แต่นายธนาธร ระบุว่า ไม่สะดวก พร้อมยกมือไหว้ขอโทษ และขอให้เป็นไปตามแนวทางที่พรรคประชาชนแถลง ตนไม่อยากละลาบละล้วงพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวจึงพยายามสอบถาม ว่าหากพูดในนามพรรค มองภาพใหญ่การเมืองตอนนี้อย่างไร นายธนาธร กล่าวว่า ตนเห็นเหมือนกับประชาชนส่วนใหญ่ว่าการเมืองมีความวุ่นวาย รู้สึกว่าเส้นทางของประเทศในการเดินไปข้างหน้าค่อนข้างตีบตัน ดูแล้วไม่ค่อยมีความหวังเท่าไหร่ ตนอยากเห็นประเทศดีขึ้น ซึ่งประเทศจะดีขึ้นได้การเมืองต้องกลับไปสู่ภาวะปกติให้ได้ ส่วนรัฐบาลต้องยุบสภามากกว่าไปต่อใช่หรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า ตนเชื่อเหมือนพรรคประชาชนที่ได้นำเสนอมา ว่าการยุบสภาให้ประชาชนตัดสินใหม่ เป็นทางออกที่ดีที่สุดในภาวะฝุ่นตลบเช่นนี้ ต้องกลับไปถามประชาชนอีกรอบหนึ่งว่าจะให้ประเทศเดินหน้าไปในทิศทางไหน ทั้งนี้ มีความกังวลเรื่องการชุมนุมในวันที่ 28 มิ.ย. จะบานปลายหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า ไม่กังวล.-315.-สำนักข่าวไทย

“สมศักดิ์” ยันอนาคตกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดแน่นอน

ทำเนียบ 24 มิ.ย.-“สมศักดิ์” ยันอนาคตกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดแน่นอน ชี้ขอใหม่-ต่อใบอนุญาตต้องทำกฎกระทรวงเพิ่ม มอง พ.ร.บ.ควบคุมกัญชาเสร็จในรัฐบาลนี้เป็นความฝัน ปัดกวาดล้างกัญชาเป็นเป็นการเมือง บอกเป็นปัญหาเรื้อรังมายาวนาน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงนโยบายการนำกัญชาให้กลับไปเป็นยาเสพติด ว่าในอนาคตควรกลับไปเป็นยาเสพติด เพราะวันนี้ยังมีอะไรที่พะรุงพะรังอยู่กับการดำเนินการที่ผ่านมาในอดีต เช่นกรณีมีการประกาศเป็นสมุนไพรควบคุม ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย ซึ่งมีการประกาศให้ตั้งร้านจำหน่ายกัญชาหรือการเก็บเกี่ยวและส่วนต่างๆ แต่ไม่เคยพูดถึงการดำเนินการทางการแพทย์ ซึ่งไม่ได้เน้นทางการแพทย์จนกระทั่งนายกรัฐมนตรีมีบัญชาให้ตนและที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีประชุมพูดคุยกันโดยมีการดำเนินการตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ว่ากัญชาต้องเพื่อการแพทย์เท่านั้น หลังจากนั้นก็ได้รับฟังความเห็นของประชาชน ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม -10 มิถุนายน ซึ่งประชาชนให้การยอมรับในแนวทางนี้ และเมื่อวานนี้ (23 มิ.ย.) ตนก็ได้ลงนามประกาศให้กัญชาเพื่อการแพทย์เท่านั้น คนที่จะไปซื้อกัญชาต้องมีใบสั่งจากแพทย์รวมถึงใบรับรองแพทย์ประการว่ามีการเจ็บไข้ได้ป่วยประการใด และในเรื่องของใบอนุญาตผู้ประกอบการรายใหม่ ที่จะมีการขอหรือมีการต่อใบอนุญาตนั้น ตนจะต้องทำกฎกระทรวงขึ้นใหม่อีกฉบับหนึ่ง รวมถึงมีข้อกำหนดว่าต้องมีแพทย์ประจำร้าน หรือ หากมีการตรวจทุกเดือน แล้วมีความผิดไม่ปฏิบัติตาม 2 ครั้ง เราจะมีการยึดใบประกาศและใบอนุญาต แต่การทำจะไม่ง่ายเหมือนการออกประกาศ โดยจะเป็นอำนาจของรัฐมนตรี ที่ต้องฟังความเห็นของประชาชน และที่ผ่านมาใช้เวลา 45 วัน ตั้งแต่นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ซึ่งขณะนี้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ส่วนที่พรรคภูมิใจไทยต้องการผลักดัน […]

แนะ 5 วิธีรับมือภาวะเครียดจากการเมืองอย่างสร้างสรรค์

ทำเนียบฯ 22 มิ.ย. – รองโฆษกรัฐบาล แนะ 5 วิธี รับมือภาวะเครียดจากการเมืองอย่างสร้างสรรค์ พร้อมเผยวิธีดูแลใจ สร้างภูมิคุ้มกันทางอารมณ์ ชีวิตดีมีความสุข นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่มีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น รัฐบาลขอความร่วมมือจากประชาชนทุกคนร่วมดูแลสุขภาพจิตของตนเองและคนรอบข้าง โดยเฉพาะในช่วงที่กระแสข่าวสารและความคิดเห็นในสื่อสังคมออนไลน์มีความหลากหลายและรุนแรงมากขึ้น รัฐบาลโดยกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกประกาศเตือนให้ระวัง “ภาวะเครียดจากสถานการณ์การเมือง” หรือ Political Stress Syndrome (PSS) ซึ่งอาจเกิดขึ้นกับบุคคลที่ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด หรือมีความโน้มเอียงไปทางความคิดเห็นใดทางหนึ่งมากเกินไป จนอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งทางร่างกาย จิตใจ และความสัมพันธ์กับผู้อื่น ภาวะ PSS ไม่ใช่โรคทางจิตเวชโดยตรง แต่เป็นปฏิกิริยาทางอารมณ์ที่สะท้อนความตึงเครียดที่ผู้คนมีต่อสถานการณ์รอบตัว โดยมีลักษณะสำคัญ 3 ด้าน ได้แก่ ทั้งนี้ การสื่อสารที่รุนแรงอาจสร้างผลกระทบต่อบุคคล 3 กลุ่ม ได้แก่ 1) ผู้ส่งสาร ที่อาจพลาดพลั้งใช้ถ้อยคำรุนแรงโดยไม่ตั้งใจ 2) ผู้รับสาร ที่อาจรู้สึกเครียดหรือวิตกกังวล และ 3) สังคมโดยรวม […]

1 2 3 35
...