ออสเตรเลียประท้วงกฎหมายเพิ่มอำนาจมุขมนตรี
ชาวออสเตรเลียหลายพันคนเดินขบวนประท้วงกฎหมายเพิ่มอำนาจให้มุขมนตรีออกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19
ชาวออสเตรเลียหลายพันคนเดินขบวนประท้วงกฎหมายเพิ่มอำนาจให้มุขมนตรีออกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19
เมลเบิร์น 14 พ.ย.- ออสเตรเลียเตรียมฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้แก่เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี โดยคาดว่าจะเริ่มได้ตั้งแต่เดือนมกราคมปีหน้า นายเกร็ก ฮันต์ รัฐมนตรีสาธารณสุขออสเตรเลียเผยกับบรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงออสเตรเลียหรือเอบีซี (ABC) วันนี้ว่า หน่วยงานทางการแพทย์ยังอยู่ระหว่างการทบทวนข้อมูลด้านสุขภาพและความปลอดภัยของวัคซีนที่จะฉีดให้แก่เด็กวัย 5-11 ขวบ คาดว่าจะยังไม่ได้ข้อสรุปภายในปีนี้ แต่หวังว่าจะได้ในต้นเดือนมกราคมปีหน้า ด้านผู้บัญชาการหน่วยเฉพาะกิจโรคโควิด-19 ของออสเตรเลียเผยกับหนังสือพิมพ์ดิเอจว่า ออสเตรเลียได้ซื้อวัคซีนสำหรับฉีด 2 เข็ม และฉีดเข็มกระตุ้นให้แก่เด็กเล็กแล้ว ก่อนหน้านี้ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) เพิ่งแนะนำให้ฉีดวัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทคให้แก่เด็กวัย 5-11 ขวบ ตามที่สำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) อนุมัติ กระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลียแจ้งว่า กลุ่มคนอายุ 16 ปีขึ้นไปฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้วเกินร้อยละ 90 และฉีดครบ 2 เข็มแล้วร้อยละ 83 ส่วนเด็กกลุ่มอายุ 12-15 ปีฉีดวัคซีนแล้วร้อยละ 57.7 อัตราการฉีดวัคซีนสูงทำให้ออสเตรเลียเปิดประเทศแล้วในเดือนนี้ หลังจากปิดพรมแดนมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 และถึงแม้ไวรัสสายพันธุ์เดลตายังคงระบาด จนทำให้ต้องล็อกดาวน์ 2 เมืองใหญ่ที่สุดของประเทศคือนครซิดนีย์และนครเมลเบิร์นนานหลายเดือน แต่ยอดติดเชื้อสะสมทั้งประเทศมีเพียง […]
ธุรกิจบางอย่างในออสเตรเลียกำลังเผชิญภาวะขาดแคลนพนักงานมีทักษะ หลังจากปิดประเทศมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 จึงใช้โบนัสและการขึ้นเงินเดือนเป็นวิธีจูงใจคนทำงาน
แคนเบอร์รา 10 พ.ย. – ตำรวจออสเตรเลียเผยวันนี้ว่า ได้ปฏิบัติการช่วยเหลือชายคนหนึ่งที่ติดอยู่บนต้นไม้เป็นเวลากว่า 6 ชั่วโมง หลังรถยนต์ของเขาถูกกระแสน้ำท่วมที่เพิ่มระดับสูงขึ้นพัดพาไปบนถนนในย่านชนบทในดินแดนนอร์เทิร์นเทร์ริทอรีของออสเตรเลีย บรรษัทกระจายเสียงออสเตรเลีย หรือเอบีซี รายงานว่า ชายออสเตรเลีย วัย 33 ปี กำลังขับรถยนต์บนถนนใกล้แม่น้ำทอดด์ในเมืองอลิซสปริงส์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสามของดินแดนนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี ในขณะที่กระแสน้ำท่วมที่เพิ่มระดับสูงขึ้นได้พัดรถยนต์ไหลไปตามทาง หลังจากที่เมืองดังกล่าวมีปริมาณน้ำฝนเกือบ 100 มิลลิเมตรในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของดินแดนนอร์เทิร์นเทร์ริทอรีเผยกับเอบีซีว่า ชายคนดังกล่าวหาทางออกมาจากรถยนต์ที่ถูกกระแสน้ำพัดได้ด้วยตัวเองและรีบปีนขึ้นไปอยู่บนต้นไม้เพื่อรอความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้เวลากว่า 6 ชั่วโมงในการช่วยเหลือชายคนดังกล่าว เนื่องจากต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยเป็นพิเศษ โดยตัดสินใจใช้วิธีการโหนสลิงจากต้นไม้ ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ช่วยชายที่ติดอยู่บนต้นไม้ไว้ได้แล้ว และในเบื้องต้นเขาไม่มีอาการบาดเจ็บ แต่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจอาการต่อไป.-สำนักข่าวไทย
บริสเบน 10 พ.ย. – ชายชาวออสเตรเลีย วัย 60 ปี รอดพ้นคมเขี้ยวจระเข้ตัวยักษ์ราวปาฏิหาริย์ด้วยการใช้มีดพกกระหน่ำแทงหัวจระเข้นับครั้งไม่ถ้วนในขณะมันกำลังลากเขาลงไปในแม่น้ำ หน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมของรัฐควีนส์แลนด์ในออสเตรเลียระบุในแถลงการณ์วันนี้ว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ชายคนดังกล่าวไปตกปลาในที่ดินของเขาใกล้เมืองโฮปเวล ซึ่งใช้เวลาขับรถยนต์ประมาณ 5 ชั่วโมงจากเมืองแคนส์ และได้ไล่วัวตัวหนึ่งออกไปจากริมฝั่งแม่น้ำเพื่อใช้พื้นที่ดังกล่าว ทันใดนั้น จระเข้น้ำเค็มตัวใหญ่ ซึ่งเชื่อว่ามาดักรอโจมตีวัวเพื่อเป็นอาหาร ก็พุ่งเข้าจู่โจมชายคนนี้ โดยที่เขาระบุว่าเห็นจระเข้เพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่มันจะพุ่งใส่และชนเขาล้มลงพื้นในตอนที่เขากำลังเหวี่ยงคันเบ็ด เขาจับกิ่งไม้ต้นโกงกางไว้เพื่อไม่ให้ถูกจระเข้ลากลงแม่น้ำในขณะที่มันใช้คมเขี้ยวงับรองเท้าบู๊ตที่เขาสวมอยู่ อย่างไรก็ดี ในช่วงที่จระเข้กำลังลากเขาลงแม่น้ำ เขาตัดสินใจหยิบมีดพกที่คาดไว้ตรงเข็มขัดออกมากระหน่ำแทงหัวจระเข้จนกระทั่งมันปล่อยเขาและหนีลงน้ำไป แถลงการณ์ดังกล่าวยังระบุว่า หลังเหตุการณ์สุดระทึกจบสิ้นลง ชายคนนี้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้กับจระเข้ก็ตะเกียกตะกายขึ้นฝั่งและขับรถยนต์ไปโรงพยาบาลคุกทาวน์เพื่อรับการรักษา หลังจากนั้น เขาถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลแคนส์เป็นเวลาอีก 1 สัปดาห์ ทั้งนี้ จระเข้น้ำเค็มในออสเตรเลีย ซึ่งตัวโตเต็มวัยอาจมีลำตัวยาวถึง 7 เมตรและมีน้ำหนักกว่า 1 ตัน มีจำนวนพุ่งสูงขึ้นนับตั้งแต่ได้รับการประกาศให้เป็นสัตว์คุ้มครองในปี 2514 และเหตุการณ์ระทึกขวัญในครั้งนี้ก็ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการหาทางควบคุมพวกมัน.-สำนักข่าวไทย
โซล 9 พ.ย.- เกาหลีใต้ส่งเครื่องบินบรรทุกน้ำมันของกองทัพไปออสเตรเลียในสัปดาห์นี้ เพื่อนำสารละลายยูเรียที่ใช้ลดการปล่อยมลพิษในเครื่องยนต์ดีเซลจำนวน 27,000 ลิตร มาบรรเทาภาวะขาดแคลนที่เสี่ยงทำให้การขนส่งเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมในประเทศหยุดชะงัก กองทัพเกาหลีใต้แจ้งวันนี้ว่า ได้สารละลายยูเรียจากออสเตรเลียลอตแรกแล้ว และเตรียมนำสารละลายยูเรียในคลังทหารครึ่งหนึ่งจากที่มีอยู่ทั้งหมด 445 ตันให้ยืมใช้ทางพลเรือน นอกจากนี้ยังได้ยูเรียจากเวียดนามแล้ว 200 ตัน และกำลังเจรจาซื้อยูเรียจากประเทศอื่นอีก 10,000 ตัน มากพอที่จะผลิตสารละลายยูเรียได้ 30,000 ตัน คนขับรถเครื่องยนต์ดีเซลในเกาหลีใต้แห่ซื้อสารละลายยูเรีย หลังจากจีนซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่เข้มงวดการส่งออกตั้งแต่เดือนก่อนเพื่อนำไปใช้ในประเทศ กระทรวงการค้าเกาหลีใต้เผยว่า 9 เดือนแรกของปีนี้นำเข้าสารละลายยูเรียจากจีนเกือบร้อยละ 97 ของทั้งหมด ภาวะขาดแคลนสารละลายนี้เสี่ยงทำให้รถบรรทุกในเกาหลีใต้ต้องพากันจอด กระทบต่อการลำเลียงน้ำมันไปยังสถานีบริการน้ำมัน และจะทำให้ต้นทุนราคาสินค้าแพงขึ้น รัฐบาลเกาหลีใต้ออกมาตรการบังคับให้ยานยนต์ดีเซลที่ผลิตตั้งแต่ปี 2558 ต้องติดตั้งระบบควบคุมการปล่อยมลพิษที่จะฉีดสารละลายยูเรียเข้าไปลดค่าไนโตรเจนออกไซด์ในไอเสีย มีผลกับยานยนต์ในปัจจุบันร้อยละ 40 หรือประมาณ 2 ล้านคันที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล ส่วนใหญ่เป็นรถบรรทุก นอกจากนี้การขาดแคลนสารละลายยูเรียยังอาจกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้ที่ต้องใช้สารละลายนี้ลดการปล่อยมลพิษเช่นเดียวกัน กระทรวงสิ่งแวดล้อมเผยว่า ปีที่แล้วเกาหลีใต้นำเข้ายูเรีย 835,000 ตัน ร้อยละ 34.7 ใช้ในอุตสาหกรรม ร้อยละ 9.8 ใช้กับยานยนต์ ที่เหลือใช้ผลิตปุ๋ย.-สำนักข่าวไทย
คำสั่งห้ามชาวออสเตรเลียที่ยังไม่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เข้าสถานที่สาธารณะ ส่งผลให้มีเว็บไซต์และแอปพลิเคชันเสนอขายใบรับรองปลอมผุดขึ้นมากมาย
เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียสั่งปิดชายหาดพอร์ต บีช เมืองนอร์ธ เฟรแมนเทิล และชายหาดอื่นๆ ในพื้นที่รัฐเวสเทิร์น ออสเตรเลีย เพื่อค้นหาชายชาวออสเตรเลียที่ถูกฉลามโจมตีขณะลงว่ายน้ำในทะเล
เพิร์ท 4 พ.ย.- ชายวัย 36 ปีผู้ต้องสงสัยลักพาตัวเด็กหญิงออสเตรเลียวัย 4 ขวบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เนื่องจากทำร้ายตัวเองขณะอยู่ระหว่างถูกตำรวจออสเตรเลียควบคุมตัว ตำรวจรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียเผยกับสถานีวิทยุในเมืองเพิร์ทว่า ผู้ต้องสงสัยบาดเจ็บไม่ถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชีวิต ขณะนี้ถูกส่งตัวกลับไปยังสถานีตำรวจในเมืองคาร์นาร์วอนแล้ว และกำลังให้ความร่วมมือในการสอบปากคำ คาดว่าจะถูกตั้งข้อหาภายในวันนี้ จากนั้นจะถูกนำตัวขึ้นศาลแขวงคาร์นาร์วอนต่อไป ตำรวจไม่ขอเปิดเผยข้อหา แต่เชื่อว่าเขากระทำการเพียงคนเดียว และไม่ได้วางแผนล่วงหน้า ตำรวจพบเด็กหญิงคลีโอ สมิธวัย 4 ขวบกำลังเล่นของเล่นอยู่ในบ้านหลังหนึ่งที่ถูกล็อคไว้ในเมืองคาร์นาร์วอน รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียช่วงเช้าตรู่วันพุธ ห่างจากจุดตั้งแคมป์ที่ถูกลักพาตัวเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อนเพียง 48 กิโลเมตร ตำรวจยังไม่ได้สอบถามเด็กหญิง โดยให้เป็นหน้าที่ของคณะผู้เชี่ยวชาญจากเมืองเพิร์ทที่เดินทางไปถึงแล้ว ด้านนายมาร์ แมคโกแวน มุขมนตรีรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียเผยว่า ได้พบเด็กหญิงและครอบครัวแล้ว เด็กหญิงเล่นและกินนอนได้ตามปกติ.-สำนักข่าวไทย
เพิร์ท 3 พ.ย.- ตำรวจออสเตรเลียพบเด็กหญิงวัย 4 ขวบที่ถูกลักพาตัวจากที่ตั้งแคมป์เมื่อ 18 วันก่อนแล้ว เด็กหญิงปลอดภัยดีอยู่ในบ้านที่ถูกล็อกไว้ และบอกชื่อตัวเองกับตำรวจได้ ตำรวจรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียเผยว่า พบเด็กหญิงคลีโออยู่คนเดียวในบ้านที่ถูกล็อกไว้ในเมืองคาร์นาร์วอน ไม่ไกลจากจุดที่เธอหายไปจากเต็นท์ที่ครอบครัวพาไปพักค้างแรม ทางตอนเหนือของเมืองเพิร์ทเมื่อเดือนก่อน และเมื่อตำรวจถามชื่อ เธอก็ตอบได้อย่างถูกต้อง ตำรวจบุกเข้าไปในบ้านหลังดังกล่าวเมื่อเวลา 01:00 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น และควบคุมตัวชายต้องสงสัยวัย 36 ปี ด้านนางเอลลี สมิธ มารดาของคลีโอโพสต์อินสตาแกรมใต้รูปบุตรสาวว่า ครอบครัวได้กลับมาพร้อมหน้ากันอีกครั้ง นางสมิธแจ้งขอความช่วยเหลือว่า เธอตื่นมาในเช้าวันที่ 16 ตุลาคมแล้วพบว่า เต็นท์ที่พักถูกรูดซิปเปิด และคลีโอ บุตรสาวคนโตหายไป ทางการออสเตรเลียระดมกำลังร่วมร้อยนายตามหาทั้งทางบก ทางน้ำและทางอากาศ ตำรวจรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียเผยว่า นักสืบบางคนร้องไห้ด้วยความโล่งใจที่เด็กหญิงปลอดภัย ตำรวจใช้ข้อมูลจากข่าวกรอง ภาพจากกล้องวงจรปิด และการวิเคราะห์ทางนิติวิทยาศาสตร์ตามหา พร้อมกับตั้งเงินรางวัลผู้ให้เบาะแส 1 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 24 ล้าน 8 แสนบาท) ขณะที่อาสาสมัครจำนวนหนึ่งก็ช่วยตระเวนหาเบาะแสในพื้นที่ใกล้เคียง.-สำนักข่าวไทย
นายกรัฐมนตรีของออสเตรเลีย เผยการตัดสินใจยกเลิกข้อตกลงซื้อเรือดำน้ำของฝรั่งเศส เป็นการทำเพื่อผลประโยชน์ของชาติ ขณะที่ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ระบุออสเตรเลียไม่ได้แจ้งล่วงหน้าว่าจะยกเลิกสัญญา
ประธานาธิบดีเอลมานูว์แอล มาครงของฝรั่งเศสระบุว่า นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันของออสเตรเลียโกหกเขาในเรื่องการยกเลิกข้อตกลงต่อเรือดำน้ำเมื่อเดือนกันยายน และชี้ว่าออสเตรเลียจำเป็นต้องพยายามมากกว่านี้ในการกอบกู้ความไว้วางใจระหว่างสองประเทศ