สำรวจถนน กทม. หลังสร้างโครงการใหญ่หน่วยงานรัฐไม่ประสานเก็บงาน

กทม. 5 พ.ค. – หลังเกิดเหตุชายพลัดตกท่อเสียชีวิต บริเวณปากซอยลาดพร้าว 49 มีคำถามตามมาหลายประเด็น โดยเฉพาะการประสานงานระหว่างหน่วยงานรัฐ ที่จะช่วยทำให้พื้นที่เมืองปลอดภัย


การเสียชีวิตของนายกำธร ซึ่งตกท่อร้อยสายไฟ การไฟฟ้านครหลวง เสียชีวิต บริเวณเกาะกลางถนน ลาดพร้าว 49 ซึ่งเป็นที่ทราบดีว่า ถนนลาดพร้าวเพิ่งมีการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ คือโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ซึ่งโครงการเปิดบริการมาเป็นปีแล้ว แต่ยังมีการเก็บงานในพื้นที่ เพื่อให้ถนน เขตทางมีความปลอดภัย ซึ่งการดำเนินงานล่าช้ามาก เพราะบ้านเรา เวลาก่อสร้าง จะมีทั้งงานโยกธาของ กทม. งานท่อสายไฟ การไฟฟ้า และงานท่อประปา ต่างๆ แต่การประสานงานล่าช้า อย่างเคสของนายกำธร มีการแจ้งร้องเรียน ผ่านทราฟฟี่ฟองดูว์ของ กทม. แต่ไม่มีการเข้าไปดำเนินการแก้ไข

ยังมีถนนอีกหลายสาย วันนี้ ทีมข่าวลงไปสำรวจ ถนนแจ้งวัฒนะ ก่อนข้ามไปจังหวัด นนทบุรี เพิ่งมีการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า สายสีชมพู เสร็จไป เปิดบริการไปแล้ว แต่มีการร้องเรียนมากว่า ผิวถนนมีการเอาแผ่นปืนมาประกอบปิดผิวถนนไว้ ไม่เรียบ เวลารถวิ่งผ่าน  ต้องเจอหลุมบ่อเป็นระยะ ไม่หนำซ้ำ หากเป็นมอเตอร์ไซค์ หากมาเร็ว อาจล้มคว่ำได้ รวมทั้งในเวลากลางคืนก็เปิดซ่อมงานใต้แผ่นปูนในผิวจราจร รถติดไม่หยุดหย่อนจากค่ำถึงดึก   


นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า จากกรณีชายตกท่อกลางถนน บริเวณปากซอยลาดพร้าว 49 จนเสียชีวิต นั้น แม้จะสรุปเป็นโครงการของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ที่จะนำสายไฟฟ้าลงดิน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเกิดในพื้นที่ กทม. และ กทม. คงจะไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบที่เกิดขึ้นร่วมกันได้

โดยกรณีนี้หลังเกิดเหตุ กทม. ได้เร่งประสาน กฟน. ในเรื่องการเร่งช่วยเหลือเยียวยา และ กทม. จะเร่งตรวจสอบฝาท่อทั่วกรุงเทพ โดยระบบการร้องเรียนทราฟฟี่ฟองดูว์ พบว่ามีร้องเรียนเรื่องฝาท่อเข้ามาจำนวนมาก ทั้งหมดวิ่งเข้ามาผ่านระบบ ซึ่ง กทม. มีหน้าที่ต้องส่งต่อข้อร้องเรียนออกไป แบ่งเป็นสองส่วน คือ 1. ฝาท่อที่อยู่ภายใต้การดูแลของกทม. และ 2. ฝาท่อที่หน่วยงานอื่นๆ ดูแล

โดยหลังจากนี้ สำนักการโยธา กทม. จะประชุมหารือ เพราะจากกรณี ที่ประชาชนร้องเรื่องท่อ หรือเรื่องสาธารณูปโภคต่างๆ หากเกี่ยวข้องกับหน่วยงานอื่น เมื่อแจ้งไปแล้ว แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้ดำเนินการแก้ไขตามมาตรฐานจะทำอย่างไร เพราะตามระบบเมื่อมีผู้ร้องเรียนเข้ามาจะมีการให้แจ้งพิกัดปักหมุดโลเคชั่น ซึ่งหากเป็นความรับผิดชอบของหน่วยงานอื่น กทม. จะส่งต่อและประชาชน จะได้ทราบว่าเป็นความรับผิดชอบของหน่วยงานไหน ซึ่ง กทม. ได้พัฒนาระบบให้ประชาชนสามารถฟีดแบคว่าพอใจการแก้ไขหรือไม่ หากไม่พอใจ และเป็นส่วนของ กทม. จัดการ ก็สามารถลงไปแก้ไขซ้ำได้


แต่หากเป็นหน่วยงานอื่น กทม. ก็ทำได้เพียงส่งหนังสือไปย้ำ ก็เป็นโจทย์สำคัญที่จะต้องมานั่งคุยกันเพิ่มเติม ถึงระบบหลังบ้านทราฟฟี่ฟองดูว์ ว่าหากเป็นเรื่องที่อยู่ในอำนาจหน่วยงานอื่นแก้ไข หากไม่ได้มาตรฐานจะทำอย่างไร โดย กทม. ทำได้ด้วยการขอความร่วมมือ และแจ้งให้เร่งรัดจัดการจากการประสานทำงานร่วมกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

“อัศนี” ประกาศชัยชนะนายกเล็กเชียงใหม่ หลังนับคะแนนผ่านไป 78%

เชียงใหม่ 11 พ.ค. – “อัศนี บูรณุปกรณ์” ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย ประกาศชัยชนะ หลังนับคะแนนผ่านไปกว่า 78% ทิ้งห่างคู่แข่งจากพรรคประชาชน 4,000 คะแนน นายอัศนี บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย พร้อมผู้สนับสนุน ต่างปรบมือแสดงความดีใจ หลังการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการผ่านไปเกินร้อยละ 78 ได้คะแนนกว่า 17,000 คะแนน ทิ้งห่างนายธีรวุฒิ แก้วฟอง จากพรรคประชาชน กว่า 4,000 คะแนน พร้อมประกาศชัยชนะ โดยขอบคุณทุกคะแนนเสียง รวมทั้งพรรคเพื่อไทย และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าชัยชนะครั้งนี้มาจากความใกล้ชิดประชาชนในพื้นที่ ยืนยันเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ไม่ใช่เก้าอี้ที่สืบทอดของบ้านใหญ่บูรณุปกรณ์ แต่มาจากการทำงานใกล้ชิดประชาชนจนมีความเชื่อมั่น ยืนยันพร้อมเดินหน้านโยบายเร่งด่วนใน 100 วันแรก เร่งป้องกันปัญหาน้ำท่วม เพราะเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เมื่อถามว่า หนักใจกับการถูกร้องเรียนหลังเลือกตั้งหรือไม่ นายอัศนี ยืนยันว่า ทีมงานของตนมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และพร้อมจะดูแลพี่น้องประชาชนต่อไป.-713-สำนักข่าวไทย

เฮลั่น “ธัญญก้าวหน้า” ชนะยกทีม เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี

ปทุมธานี 11 พ.ค. – นับคะแนนเสร็จสิ้นแล้วอย่างไม่เป็นทางการ เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี จ.ปทุมธานี “นายกเบี้ยว” ประกาศลั่น “ธัญญก้าวหน้า” คว้าชัยชนะยกทีม “ยุพเยาว์” นั่งนายกเทศมนตรี ส่วน “ลูกพีช” ได้เป็น สท. -สำนักข่าวไทย

กกต.พอใจภาพรวมเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศ

11 พ.ค. – กกต.พอใจภาพรวมการเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หวังมีผู้มาใช้สิทธิตามเป้า 70% พร้อมกำชับ จนท.ขานคะแนนให้ชัด และเตรียมแผนเผชิญเหตุกรณีฝนตก-ไฟดับ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจดูการใช้สิทธิของประชาชน ในการใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี พื้นที่เพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะที่สถานการณ์ทั่วประเทศที่ได้รับรายงานพบบางจังหวัดมีข่าวซื้อเสียงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ ไม่พบตามที่มีการแจ้ง และไม่น่าจะส่งผลกระทบให้ต้องเลือกตั้งใหม่ ประธาน กกต. เผยในการเลือกตั้งตรวจดูตามหน่วยเลือกตั้ง ได้กำชับกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเรื่องการนับคะแนน เพื่อหลีกเลี่ยงการร้องเรียนว่าขานคะแนนไม่ชัด หรือไม่ได้ยิน แสงสว่างน้อย จึงขอให้ขานคะแนนช้าๆ ชัดๆ เพื่อไม่ให้ผู้สังเกตการณ์เกิดความสงสัย และหากมีฝนตกก็ต้องมีแผนเผชิญเหตุ โดยเฉพาะหากไฟฟ้าดับ ส่วนผู้ใช้สิทธิจะมากกว่าครั้งที่แล้ว โดยครั้งนี้ตังเป้าไว้ร้อยละ 70 เพราะดูจากการมาใช้สิทธิตลอดทั้งวันเป็นไปด้วยความคึกคัก แต่ในแต่ละจังหวัดจะไม่เท่ากัน ขณะที่การนับคะแนน หลังปิดการลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง โรงเรียนหัวหินวิทยาคม ซึ่งมี 6 หน่วยเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่แจ้งหมดเวลาปิดการลงคะแนน และเริ่มการนับคะแนนทันที โดยเป็นการนับคะแนนนายกเทศมนตรี และมานับคะแนนสมาชิกสภาเทศบาล ท่ามกลางตัวแทนผู้สมัครมาเฝ้าสังเกตการณ์ สำหรับการเลือกตั้งเทศบาลมีจำนวน 2,463 แห่ง และหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]