กทม.สั่งลงโทษเจ้าหน้าที่ ใช้ภาพตัดต่อรายงานผล Traffy Fondue

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – กทม.สั่งลงโทษเจ้าหน้าที่ ใช้ภาพตัดต่อรายงานผล Traffy Fondue พร้อมประสานด่วน สวทช.พัฒนาระบบกรองภาพปลอม เร่งฟื้นความเชื่อมั่นประชาชน


นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยกรณีมีการร้องเรียนผ่านแอปพลิเคชัน Traffy Fondue เกี่ยวกับการจอดรถจักรยานยนต์บนทางเท้า บริเวณซอยจรัญสนิทวงศ์ 77/1 แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เทศกิจที่รับผิดชอบเรื่องดังกล่าว กลับใช้ภาพตัดต่อหรือภาพที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงในการตอบกลับประชาชน ส่งผลให้เพจ “ฟุตบาทไทยสไตล์” นำประเด็นดังกล่าวมาเผยแพร่บนโลกออนไลน์ จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในขณะนี้ โดยสำนักงานเขตบางพลัดได้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง และมีคำสั่งลงโทษเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวตามกระบวนการทางวินัย

นายเอกวรัญญู กล่าวว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่เทศกิจสำนักงานเขตบางพลัด ใช้ AI ลบภาพที่ประชาชนร้องเรียน เพื่อแสดงว่าได้ดำเนินการเสร็จสิ้น ทั้งที่ความจริงยังไม่มีการแก้ไข ผู้บริหารกรุงเทพมหานครได้สั่งการให้ ผู้อำนวยการเขตบางพลัดเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยด่วน พร้อมเตรียม ออกหนังสือเวียนแจ้งแนวปฏิบัติไปยังทุกเขตอย่างเคร่งครัด หนังสือเวียนดังกล่าวจะกำหนดให้ ห้ามเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานปลอมแปลง หรือตัดต่อภาพ หรือใช้ข้อมูลเท็จใด ๆ ในการปิดเรื่องข้อร้องเรียนของประชาชนเป็นสถานะ “เสร็จสิ้น” โดยเด็ดขาด หากพบว่าหน่วยงานใดฝ่าฝืน ให้ดำเนินการลงโทษตามควรแก่กรณีต่อไป


โฆษกของกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เพื่อป้องกันปัญหาซ้ำรอย กรุงเทพมหานครได้ประสานกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ในฐานะผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม Traffy Fondue เร่งพัฒนา ระบบคัดกรองภาพปลอม ทั้งจากประชาชนและเจ้าหน้าที่ เพื่อป้องกันการนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบ โดยระบบจะสามารถตรวจจับและสั่งระงับภาพปลอมได้ทันที พร้อมย้ำกรุงเทพมหานครไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมยกระดับระบบให้ โปร่งใส ตรวจสอบได้ และตอบสนองประชาชนได้อย่างเที่ยงตรงและรวดเร็ว เพื่อเรียกคืนความเชื่อมั่นในการร้องเรียนผ่านระบบดิจิทัลของเมือง

โฆษกของกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอขอบคุณเพจ “ฟุตบาทไทยสไตล์” ที่ช่วยเป็นกระบอกเสียงให้คนกรุงเทพฯ พร้อมขออภัยอย่างสูงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ผู้ตอบเรื่องร้องเรียนได้ยอมรับผิดแล้ว และจะถูกดำเนินการทางวินัยตามขั้นตอนของกฎหมาย ทั้งนี้ สำนักงานเขตบางพลัดได้ดำเนินการตรวจสอบใหม่ทันทีตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค. 68 และส่งหนังสือแจ้งผู้กระทำผิดเพื่อดำเนินการตามกฎหมายอีกครั้ง หากประชาชนพบการ “ปิดเรื่องปลอม” หรือข้อมูลไม่ถูกต้องในระบบ Traffy Fondue สามารถกดเปิดเรื่องใหม่ได้ทันที

“กทม. ไม่ได้นิ่งเฉย เพราะความไว้วางใจของประชาชนคือหัวใจของ Traffy Fondue ดังที่ผู้ว่าฯ กทม. ย้ำกับผู้ปฏิบัติงานเสมอ ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เราได้รับความไว้วางใจให้แก้ไขปัญหากว่า 1 ล้านเรื่อง และประชาชนพึงพอใจในระบบกว่า 80% เราน้อมรับข้อผิดพลาดครั้งนี้ พร้อมเร่งแก้ไขเพื่อเรียกคืนความเชื่อมั่น และยกระดับการทำงานให้โปร่งใสและตรวจสอบได้ยิ่งขึ้น” โฆษกของกรุงเทพมหานคร กล่าว


ด้านสำนักงานเขตบางพลัด ยืนยันว่า การจอดรถจักรยานยนต์บนทางเท้า ซึ่งเป็นกรณีที่ได้รับการร้องเรียนผ่านระบบ Traffy Fondue เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 17 (2) ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท ตามมาตรา 56 แห่งพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดฯ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยได้ออกหนังสือแจ้งเจ้าของหรือผู้ครอบครองรถให้เข้ามาชี้แจงต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทศกิจ ภายใน 15 วันทำการ หากเพิกเฉยโดยไม่มีเหตุผลอันควร เขตจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้จนถึงขณะนี้ เจ้าของรถยังไม่มาติดต่อ ซึ่งสำนักงานเขตฯ จะติดตามเรื่องต่อไปอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างจริงจังและเท่าเทียม.-417-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว

สุรินทร์ 28 ส.ค.-รองผู้ว่าฯ สุรินทร์ เผยเด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว หากพิสูจน์ไม่ได้ว่าน้องเป็นคนไทย น้องยังต้องได้รับสิทธิตามอนุสัญญาหลักสิทธิเด็ก เข้ารับการศึกษาต่อไป นายประภาส ศรีจันทร์เวียง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยว่า ขณะนี้ พมจ.สุรินทร์ ตม.สุรินทร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กำลังดูแลน้องอายุ 13 ปี ที่มีแม่เป็นชาวกัมพูชาและทั้งคู่ถูกแจ้งจับเนื่องจากเป็นคนต่างด้าวอยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมายและไม่มีใบอนุญาต ได้รับรายงานว่า เด็กชาย อายุ 13 ปีรายนี้ เกิดที่ จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ส่วนแม่ทำงานในบ่อนการพนันที่ช่องสะงำ จากนั้นก็ได้เดินทางกลับประเทศโดยถูกกฎหมาย และคลอดน้องที่ประเทศกัมพูชา ก่อนจะกลับมาประเทศไทยอีกครั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต และลอบอยู่ในประเทศไทย โดยน้องได้รับการศึกษาในประเทศไทยตั้งแต่ ป.1 จนกระทั่งปัจจุบันคือ ม.1 ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการพาน้องอายุ 13 ปี ตรวจดีเอ็นเอ เนื่องจาก พมจ.สุรินทร์ ได้รับข้อมูลจากฝ่ายแม่เด็กว่า พ่อที่แท้จริงของน้องคือ ชายไทยที่อยู่ด้วยกันในปัจจุบัน แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันความจริงได้ นอกจากการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น เพื่อดำเนินการทางกฎหมายในขั้นตอนต่อไป เช่น หากพิสูจน์ได้ว่า น้องมีบิดา […]

มติสภาประชุมลับญัตติด่วน MOU43-44 ฝ่ายค้านชี้ปิดหูปิดตา ปชช.

28 ส.ค. – สภาฯ ถกญัตติด่วน “MOU 43-44” เพื่อไทยขอประชุมลับ หวั่นอภิปรายเนื้อหาล้ำเส้น กังวลกัมพูชารู้ทาง ด้านฝ่ายค้านยันต้องเปิดเผย ไม่ใช่ปิดหูปิดตาประชาชน สุดท้ายเปิดเผยเฉพาะผู้เสนอญัตติ ส่วนผู้อภิปรายเป็นประชุมลับ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯคนที่หนึ่งเป็นประธานการประชุม หลังพิจารรณากระทู้ถามทั่วไปแล้วได้มีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา 5 ฉบับ ได้แก่ 1. น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใทย เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 ระหว่างไทยกัมพูชา 2.นายกรวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เสนอให้สภาฯทำการศึกษาบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 แก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย กัมพูชา 3.นายสฤษพงศ์ ​เกี่ยวข้องสส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าเนื่องจากตนได้เสนอญัตติดังกล่าวเป็นหนังสือไว้แล้ว ก็ขอให้นำมาอยู่ในวาระด่วนเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นเรื่องทำนองเดียวกัน 4.นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอเรื่องขอให้สภาฯพิจารณาศึกษMOU 43 และ44 […]

เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด

แม่ฮ่องสอน 28 ส.ค. – เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด คอสะพานห้วยโป่งถูกน้ำป่าซัดเสียหายกว้างกว่า 80 เมตร คาด 1 ก.ย.นี้ สามารถเปิดเส้นทางสัญจรได้ สภาพความเสียหายของพื้นที่ริมทางหลวง 108 บริเวณห้วยบ้านตำข่อน บ้านแม่จ๋า บ้านผาบ่องเหนือ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน หลังระดับน้ำลดลงเป็นปกติ ยังคงมีท่อนไม้ ต้นไม้กองทับถมอยู่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนำรถและเครื่องจักรใหญ่เข้าเคลียร์ท่อนไม้ เศษไม้ที่กีดขวาง สามารถเปิดให้รถสัญจรไปมาได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลาก เส้นทางหมายเลข 108 บริเวณสะพานห้วยโป่ง ต.ห้วยโป่ง ข้ามลำน้ำแม่จ๋า ซึ่งคอสะพานถูกน้ำป่าซัดได้รับความเสียหายเป็นแนวกว้าง ทำให้การสัญจรถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง จึงประสานศูนย์สร้างและบูรณะสะพานจังหวัดพิจิตร เพื่อขอสนับสนุนสะพานแบริ่ง หรือสะพานเหล็กสำเร็จรูป สำหรับใช้งานชั่วคราว ขณะที่วิศวกรจากศูนย์ฯ จะเข้าตรวจสอบความเสียหายของสะพานห้วยโป่ง เพื่อดำเนินการติดตั้งสะพานแบริ่ง หากไม่มีอุปสรรคคาดว่าสะพานจะพร้อมใช้งานและเปิดให้สัญจรได้อีกครั้งในวันจันทร์ที่ 1 กันยายนนี้ น้ำที่ท่วม 13 หมู่บ้านรวมทั้งตัว อ.แม่แจ่ม เริ่มลดลงส่วนที่ จ.เชียงใหม่ […]

จนท.ตรึงกำลังเข้มบ้านหนองจาน หวั่นเผชิญหน้า

สระแก้ว 28 ส.ค. – คนไทยรวมพลบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว แสดงพลังปกป้องแผ่นดินไทย เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเข้ม หวั่นเหตุเผชิญหน้า หลังชาวกัมพูชาท้าทาย ขณะที่ “กัน จอมพลัง” ขนรถดูดส้วม 14 คัน เสิร์ฟเขมร.-สำนักข่าวไทย