“อัจฉริยะ” แจ้งความดำเนินคดี พนง.สอบสวน สภ.นนทบุรี

กรุงเทพฯ 21 เม.ย.- นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เดินทางเข้าพบตำรวจ ป.ป.ป. แจ้งดำเนินคดีกับคณะพนักงานสอบสวน สภ.นนทบุรี ตามคำสั่งแต่งตั้งของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ในฐานละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ จากการสืบสวนสวนสวนคดี แตงโม ภัทรธิดา ตกเรือเสียชีวิต 


หลังเมื่อวาน นายอัจฉริยะ เปิดหลักฐานแฉขบวนการสร้างหลักฐานเท็จคดีแตงโม และอ้างว่าแตงโมไม่ได้ตกเรือที่บริเวณด้านท้ายเรือ มั่นใจว่าคดีดังกล่าวเป็นการฆาตกรรมไม่ใช่เกิดจากอุบัติเหตุแน่นอน

ล่าสุดวันนี้ (21 เม.ย.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้าพบตำรวจ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ป.) เพื่อแจ้งดำเนินคดีกับคณะพนักงานสอบสวน สภ.นนทบุรี ตามคำสั่งแต่งตั้งของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ในฐานละเว้นการปฎิบัติหน้าที่จากการสืบสวนสอบสวนคดี แตงโม ภัทรธิดา ตกเรือเสียชีวิต 


นายอัจฉริยะ เผยว่า สาเหตุที่มายื่นเรื่องดังกล่าว ส่วนตัวมองว่า คณะทำงานชุดนี้ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เช่น กรณีการไม่รักษาพยานหลักฐานในคดี เช่นเรือของกลางที่เกิดเหตุ ในช่วงแรกไม่มีการเก็บรักษา ปล่อยให้บุคคลภายนอกเข้าถึงวัตถุพยานได้โดยง่าย รวมทั้งกองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจไม่พบเส้นผมสามเส้นของแตงโมตั้งแต่ครั้งแรก แต่กลับตรวจพบในการตรวจครั้งที่ 4 จึงไม่มีความน่าเชื่อถือ โดยเชื่อว่าน่าจะมีการสร้างพยานหลักฐานเท็จขึ้นมา

ขณะที่ในวันอังคารที่ 26 เมษายนนี้ เวลา 13.00 น. ทางพนักงานสอบสวนเตรียมแถลงปิดคดีการเสียชีวิตของแตงโม ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี แล้วจะนำตัวผู้ต้องหาพร้อมสำนวนความเห็นสั่งฟ้อง ทำการส่งฟ้องต่ออัยการ ในบ่ายวันเดียวกัน โดยมั่นใจว่าพยานหลักฐานที่มีในขณะนี้ว่าสามารถเอาผิดผู้ต้องหาทั้งหมดทุกคนและในทุกคดี 

ซึ่งในวันที่ 26 จะมีการชี้แจงทุกประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจและสงสัย  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเหตุการณ์, การเก็บวัตถุพยานหลักฐาน ลายนิ้วมือบนเรือ เรือมีกี่ลำ, ความผิด, อัตราโทษ, ข้อเท็จจริง, ไปจนถึงประเด็นการปัสสาวะ ขณะนี้พยานหลักฐานที่รวบรวมได้ บ่งชี้ได้ว่าเป็นความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย และบาดแผลที่ขาของแตงโมพิสูจน์แล้วเข้าได้กับใบพัดเรือ จึงมีความเห็นสรุปสำนวนเช่นนี้ และมั่นใจว่าสามารถชี้แจงให้ประชาขนหายสงสัยได้ 


คดีนี้มีผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีข้อหากระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 3 ราย คือ ปอ, โรเบิร์ต และแซน ส่วนกระติก ถูกดำเนินคดีฐานให้การเท็จและทำลายพยานหลักฐาน ซึ่งได้ให้การรับสารภาพข้อหาให้การเท็จ ส่วนจ๊อบ ถูกดำเนินคดีข้อหาทำลายหลักฐานและความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.เดินเรือฯ.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้กำกับโจ้เสียชีวิต

ราชทัณฑ์ แจงชัดเหตุ “ผู้กำกับโจ้” เสียชีวิตในเรือนจำ

ราชทัณฑ์ ออกเอกสารชี้แจงกรณี “ผู้กำกับโจ้” เสียชีวิตในเรือนจำกลางคลองเปรม ด้าน จนท.พิสูจน์หลักฐาน เตรียมเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ธ.ก.ส. ออก “สินเชื่อเกษตรวิวัฒน์” หนุนคนใกล้เกษียณทำเกษตร

กรุงเทพฯ 6 มี.ค.- ธ.ก.ส. เปิดตัว “สินเชื่อเกษตรวิวัฒน์” ให้กู้เพื่อซื้อที่ดินทำการเกษตรคู่ขนาน รองรับการเข้าสู่ Aging Society สูงสุด 8 ล้านบาท ธ.ก.ส. จัดสินเชื่อเกษตรวิวัฒน์ ส่งเสริมการดึงคนกลับเข้าสู่ภาคการเกษตร กรอบวงเงินรวม 3.75 หมื่นล้านบาท สานฝันบุคลากรภาครัฐและเอกชนที่มีรายได้ประจำอายุ 50 – 59 ปี สร้างรายได้คู่ขนานจากการทำการเกษตร และกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาสินค้าเกษตรไปสู่เกษตร มูลค่าสูง วงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 8 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยต่ำ 5 ปีแรก MRR – 2 และปีที่ 6 เป็นต้นไป เท่ากับ MRR แจ้งความประสงค์ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ผู้มีรายได้ประจำเป็นรายเดือน สามารถวางแผนการสร้างรายได้คู่ขนานจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรม หรืออาชีพที่เกี่ยวกับการเกษตรในวัยก่อนและหลังเกษียณ รองรับการก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) เพิ่มการเกษตรที่มีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น-อากาศร้อนในตอนกลางวัน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอุณหภูมิจะสูงขึ้น กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน และมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง

ราชทัณฑ์เปิดภาพผ้าเช็ดตัว-ผังห้องขังหมายเลข 50

กรมราชทัณฑ์ เปิดภาพและขนาดผ้าเช็ดตัวที่จัดสรรแจกให้ผู้ต้องขังชาย-หญิง ในเรือนจำ พร้อมข้อมูลแดน 5 และผังห้องขังหมายเลข 50

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน