3 คนบนเรือ-กุนซือเอ็ม รับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มคดีแตงโม

นนทบุรี 21 พ.ค.- โซเชียลร้อนระอุ! หลังมีบุคคลปริศนาโพสต์รูปพร้อมข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวของแตงโม นิดา ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่ชัดเจนว่าใครเป็นคนทำ ด้าน 3 คนบนเรือ-กุนซือเอ็ม รับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเเล้วในคดีเเตงโม 


มหากาพย์คดีแตงโม หลังอัยการนนทบุรี สั่งให้ตำรวจสอบพฤติกรรม 5 คนบนเรือและ 1 กุนซือ รวมทั้งเพิ่มข้อหาปรากฏว่ากระติก จ๊อบ เบิร์ต ย่องพบพนักงานสอบสวนรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ขณะที่กระติกเข้าให้การกรณีแจ้งความเอาผิด “จิน -สามีหนิง” ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา

เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ผ่านมา นายนิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร หรือ จ๊อบ พร้อมทนายความ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อให้ปากคำและรับทราบข้อกล่าวหา คดีการเสียชีวิตของแตงโม นิดา หลังอัยการจังหวัดนนทบุรี มีความเห็นให้แจ้งข้อหาเพิ่ม ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตำรวจใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนเดินออกจากห้องสอบสวน ด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่ยอมตอบคำถามสื่อมวลชน และเดินขึ้นรถตู้ที่จอดรอหน้าโรงพักออกไปทันที 


สำหรับกระติก หรือ น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ เข้าให้ปากคำ และรับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน ตั้งแต่บ่ายวันที่ 19 พฤษภาคมแล้ว ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี โดยอ้างเหตุผลว่า วันนี้ติดธุระไม่สามารถเดินทางมาได้จึงขอเข้าให้ปากคำและรับทราบข้อกล่าวหาก่อนนัด 1 วัน 

ขณะที่นายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ หรือโรเบิร์ต ซึ่งอัยการให้เรียกมาสอบเพิ่มเติมในหลายประเด็นที่สอบปากคำไปแล้ว โดยให้สอบลงรายละเอียดเพิ่มขึ้นและรัดกุม ได้เข้ามาพบพนักงานสอบสวน ตั้งแต่  07.30 น. ใช้เวลาสอบปากคำเกือบ 3 ชั่วโมง 

สำหรับนายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือ ปอ อัยการให้แจ้งข้อหาเพิ่ม ข้อหาเสพวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 2 ได้ประสานกับพนักงานสอบสวน จะเข้ามาให้ปากคำพรุ่งนี้ และเมื่อเวลา 14.30 น. นายนายภีม หรือเอ็ม ธรรมธีรศรี กุนซือคนบนเรือ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม ตามหนังสือสั่งการของอัยการจังหวัดนนทบุรี   


คนสุดท้ายนายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือ แซน แจ้งว่าติดโควิด-19 อยู่ในช่วงรักษาตัวไม่สามารถเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาได้ ซึ่งพนักงานสอบสวนจะประชุมหาข้อสรุปกันอีกครั้งว่าจะใช้วิธีใดในการสอบปากคำ เพื่อให้ส่งสำนวนการสอบปากคำเพิ่มเติมกับอัยการจังหวัดได้ทันการสั่งฟ้อง 27 พฤษภาคมนี้

และเมื่อช่วงเวลา 14.10 น.ที่ผ่านมา น.ส.อิจศรินทร์ หรือ กระติก เดินทางไปที่ สน.มีนบุรี เข้าให้การกรณีแจ้งความดำเนินคดีนายจรินทร์ ธรรมวัฒนะ หรือจิน สามีของ น.ส.ปณิตา ธรรมวัฒนะ หรือหนิง ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กรณีแสดงความคิดเห็นในอินสตาแกรมของ น.ส.ปณิตา ที่โพสต์ภาพ นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน ซึ่งถ่ายรูปคู่กับ น.ส.อิจศรินทร์ พร้อมนำพยานบุคคลทั่วไป ที่อ่านโพสต์ดังกล่าว เข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน เพิ่มอีก 1 คน แม้จะมีคนมองว่าพยานคนนี้ อาจเป็นฝ่ายเดียวกับผู้ถูกกล่าวหา แต่สามารถกระทำได้ เนื่องจากต้องไปพิสูจน์ข้อเท็จจริงในชั้นศาลจึงไม่มีความกังวล

กระติกยังกล่าวถึงการเดินทางไปรับทราบข้อหาร่วมกันประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองนนทบุรีว่า ได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และจะให้การในชั้นศาลอีกครั้ง  

ขณะที่ในโซเชียลกลับมาร้อนระอุอีกครั้ง เมื่อมีบุคคลลึกลับโพสเฟซบุ๊กของแตงโม “Happy Melon Patcharaveerapong” แบบรัวๆ หลังโพสต์ครั้งสุดท้ายเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ โดยมีการโพสต์เมื่อเวลา 11.23 น. วันนี้ เป็นภาพหญิงสาวสวมกระโปรงยาว กำลังหันหลังโบกมือ 2 ข้าง พร้อมระบุข้อความ “หนูถูกทำร้ายจากเพื่อนที่เรารักแล้วไว้ใจ พร้อมอิโมจิหน้าสงสัย ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ชัดเจนว่าใครเป็นคนโพสต์ภาพและข้อความดังกล่าว หรือเป็นการแฮกเข้ามาปั่นกระแสหรือไม่”

และล่าสุด เมื่อเวลา 16.01 น. เพจของแตงโม กลับมาโพสต์รูปและข้อความ ครั้งที่ 2 ของวัน เป็นรูปถ่ายหมู่ที่แตงโมกำลังเซลฟี่บนเรือ ที่มีฉากหลังเป็นกลุ่มเพื่อนที่ตกเป็นผู้ต้องหา ทั้งปอ กระติก แซน พร้อมระบุข้อความ เรายังไม่ไปไหน เรายังรอความจริงจากปากทั้ง 5 คนอยู่ แต่ถ้ายังไม่พูดความจริง เราจะเปิดความจริงให้ทุกคนได้รับรู้พร้อมกัน ว่าเหตุเกิดบนเรือคืออะไร ลบข้อมูลมือถือ อย่าคิดว่ากู้คืนไม่ได้หรือ ไอ้เพื่อนรัก 

ซึ่งในเรื่องนี้ กระติก ยอมรับว่าหญิงสาวที่หันหลังคือภาพของตัวเอง แต่ไม่ได้เป็นคนโพสต์ แตงโมเป็นคนถ่ายในช่วงขากลับ หลังไปทานข้าว คนที่จะมีรูปนี้ต้องมีโทรศัพท์แตงโม ซึ่งตำรวจได้คืนโทรศัพท์ของกลางไปเป็นสัปดาห์แล้ว ไม่ทราบว่าโทรศัพท์อยู่กับใคร แต่ยืนยันว่าไม่ได้อยู่กับตัวเอง เพราะไม่ใช่ทรัพย์สมบัติส่วนตัว มีเพื่อนมาบอกว่าเห็นบัญชีคลับเฮ้าส์ของแตงโมขึ้นออนไลน์ แสดงว่ามีคนใช้โทรศัพท์ของแตงโม ขณะที่นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของแม่แตงโม ก็ปฏิเสธว่าแม่ของแตงโม ไม่ได้เล่นเฟซบุ๊คของลูกสาว แต่เท่าที่อ่านข้อความในโพสต์ พบว่าเป็นการกล่าวหาตนในลักษณะยุยงปลุกปั่นให้ได้รับความเสื่อมเสียชัดเจน จึงจะขอรวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินคดีภายหลัง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

พระปรางค์วัดอรุณ

ข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ข่าวดีของคนไทย “พระปรางค์วัดอรุณ ราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ได้รับการบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก (Tentative List) ของยูเนสโกแล้วค่ะ ดิฉันได้รับรายงานจากคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส แจ้งว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการยกระดับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์ในอนาคต กระทรวงวัฒนธรรมมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดทำเอกสารเสนอชื่อ (Nomination Dossier) ควบคู่กับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการพื้นที่ตามหลักสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ขั้นตอนต่อไป ความคืบหน้านี้เป็นมากกว่าการอนุรักษ์สถานที่ แต่คือการยืนยันอัตลักษณ์ไทยที่งดงามและทรงคุณค่าในสายตาชาวโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่นี้” .-316 สำนักข่าวไทย

ตรวจสอบรายรับรายจ่ายวัดใหญ่จอมปราสาท

สมุทรสาคร 13 ก.ค. – เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดใหญ่จอมปราสาท นำมาเทียบกับเส้นเงินของของเจ้าอาวาสที่หนีไป หลังตรวจพบโอนเงินให้สีกา ก. กว่า 1 ล้านบาท ที่วัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำคณะเข้าพบ พระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดน้อยนางหงษ์ คณะพระสงฆ์ (พระลูกวัด) วัดใหญ่จอมปราสาท ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการวัด เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ระบบการเงินในวัดใหญ่จอมปราสาท เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ตรวจพบว่าได้โอนเงินกว่า 1 ล้านบาทไปให้สีกา ก. แต่ยังไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ประเด็นที่ต้องการทราบเพิ่มเติมคือ เงินที่โอนให้สีกาเป็นเงินส่วนไหน แล้วเงินวัดมีรายรับจากที่ใดบ้าง มีรายจ่ายอย่างไร รวมถึง เงินวัดนั้นเข้าบัญชีใคร มีไวยาวัจกรณ์เบิกจ่ายหรือไม่ หรือใครเป็นผู้ทำหน้าที่รับและเบิกจ่ายเงินทั้งหมด ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงว่า ทางวัดยังไม่มีไวยาวัจกรวัดคนใหม่ หลังจากคนเก่าลาออกไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ส่วนเงินวัดนั้นเจ้าอาวาสเป็นผู้บริหารแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเงินวัดก็จะมีรายรับมาจากให้ที่จอดเรือบริเวณหน้าวัด ประมาณเดือนละ […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]