ชัวร์ก่อนแชร์

ปวดศีรษะแบบคลัสเตอร์ คือ โรคแบบใด อาการเป็นอย่างไร ใครมีความเสี่ยงจะเป็น และหากเป็นแล้ว จะดูแลรักษาอย่างไร ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ อ.นพ.ประกิต อนุกูลวิทยา อายุรแพทย์โรคระบบประสาท คลินิกโรคปวดศีรษะ สาขาวิชาประสาทวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กรรมการชมรมศึกษาโรคปวดศีรษะ ภายใต้สมาคมประสาทวิทยาแห่งประเทศไทย ปวดศีรษะแบบคลัสเตอร์ (Cluster Headache) ผู้ป่วยปวดแล้วจะทรมานมาก บางคนดิ้นทุรนทุราย เอาศีรษะโขกกับของแข็งค่อนข้างรุนแรงมาก เป็นอาการปวดศีรษะข้างเดียว ตำแหน่งที่ปวดบริเวณเบ้าตา เหนือเบ้าตา และขมับ ระยะเวลาที่ปวดประมาณ 15 นาที ถึง 3 ชั่วโมง ขณะที่ผู้ป่วยมีอาการปวดศีรษะก็จะมีอาการทางระบบประสาทอัตโนมัติที่อยู่บนใบหน้าร่วมด้วย เช่น น้ำตาไหล ตาแดง คัดจมูก หรือหนังตาตก ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ปวดมักจะปวดช่วงใดช่วงหนึ่งของปี หรือช่วงใดช่วงหนึ่งของวัน เช่น ปวดเดือนกุมภาพันธ์ทุกปี หรือปวดตอนกลางคืนทุกวันของช่วงเวลานั้น ปวดศีรษะแบบคลัสเตอร์ เหมือน หรือ แตกต่างจากปวดศีรษะทั่วไปหรือไม่ ? มีอาการปวดศีรษะเหมือนกัน ผู้ป่วยปวดศีรษะแบบคลัสเตอร์ จะปวดอยู่ข้างเดียวข้างนั้นตลอด การสั่งการของระบบประสาทอัตโนมัติ […]

บนสื่อสังคมออนไลน์แชร์ 5 อาการสัญญาณโรคไอกรน มีทั้งไอแห้งรุนแรง 2-3 สัปดาห์ ไข้ต่ำ 38 องศาเซลเซียส มีน้ำมูกและอาเจียน มีเลือดออกบริเวณตาขาว และหายใจเข้ามีเสียง “วู้ป” จริงหรือ ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ รศ.ดร.นพ.นพพร อภิวัฒนากุล หัวหน้าหน่วยโรคติดเชื้อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล สัญญาณโรคไอกรน 5 อย่างเป็นเรื่องจริง แต่บางคนติดเชื้อไอกรนก็ไม่ได้มีอาการครบ 5 อย่าง สัญญาณข้อที่ 1. ไอแห้งรุนแรงติดต่อกัน 2-3 สัปดาห์ จริงหรือ ? จริง… ถ้าเป็นไอแห้ง อาจจะเป็นไอกรน หรือโรคอื่นก็ไอแบบนี้ได้ เช่น หอบหืด หรือวัณโรค ถ้ามีอาการไอแห้งเกิน 2 สัปดาห์ แพทย์จะต้องตรวจแล้วว่าเป็นโรคอะไรกันแน่ ถ้าเป็นโรคไอกรนจริงและไม่ได้รับการรักษา อาการไออาจจะยืดเยื้อออกไปมากกว่า 2-3 สัปดาห์ หรือบางคนอาจจะไอมากกว่า 1-3 เดือน อย่างที่คนจีนเรียกว่า […]

โรคไอกรน มีส่วนป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน แต่วัคซีนป้องกันไอกรนมีกี่ชนิด เคยฉีดแล้ว ต้องฉีดอีกหรือไม่ เมื่อใด และใครบ้างที่ควรฉีด 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ รศ.ดร.นพ.นพพร อภิวัฒนากุล หัวหน้าหน่วยโรคติดเชื้อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล “วัคซีนไอกรน” อยู่ในแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข เด็กไทยอายุ 2 เดือน จะได้รับการฉีดวัคซีนพื้นฐาน ดังนี้ วัคซีนคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน ตับอักเสบบี-ฮิบ [DTP-HB-Hib1 (Haemophilus influenzae type b)] วัคซีนไอกรนเป็นวัคซีน “เชื้อตาย” หลังจากฉีดวัคซีนเข้าไปแล้วตัววัคซีนจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน (Antibody) อยู่ในกระแสเลือดของเรา เมื่อมีแบคทีเรียไอกรน (Bordetella pertussis : B. pertussis) เข้าสู่ร่างกาย แบคทีเรียไอกรนจะปล่อย “สารพิษที่” ทำให้เกิดโรค ถ้าเคยฉีดวัคซีนไอกรนมาก่อนภูมิคุ้มกันก็จะไปจับกับสารพิษนั้น สารพิษก็จะไม่ออกฤทธิ์เราก็จะไม่เป็นโรค วัคซีนไอกรนในท้องตลาดมี 2 ชนิด (เป็นเชื้อตาย) ได้แก่ (1.)ทำจากแบคทีเรียทั้งตัว (2.)ทำจากโปรตีนส่วนหนึ่งของเชื้อ เรียกว่าSubunit Vaccine […]

บนสื่อสังคมออนไลน์มีการแชร์เตือน ห้ามนำใบก้ามปูสดไปปลูกต้นไม้ เพราะจะไปแย่งไนโตรเจน และทำให้ต้นไม้ตายได้ แต่หากจะใช้ต้องผ่านการหมักด้วยจุลินทรีย์ก่อน ต้นไม้ถึงจะเจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์ จริงหรือ ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ผศ.ดร.ทัศไนย จารุวัฒนพันธ์ อาจารย์ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในทางเกษตร การนำใบไม้สดมาปลูกต้นไม้ทันทีไม่เหมาะ ต้นไม้ที่ไม่แข็งแรงรากพืชอาจจะตายได้ ถ้าเป็นไม้ยืนต้นอาจจะพอทนได้ แต่การเจริญเติบโตของพืชชะงักลงได้ การนำใบก้ามปูสดผสมกับวัสดุปลูก จะเกิดการย่อยสลายตามธรรมชาติโดยจุลินทรีย์ที่อยู่ในดินอยู่แล้ว เมื่อเกิดกระบวนการย่อยสลายจะมีความร้อนสูงมาก อุณหภูมิมีโอกาสสูง 50-80 องศาเซลเซียส เป็นอันตรายต่อพืชได้ ที่บอกว่านำใบก้ามปูสดปลูกต้นไม้ จะทำให้ต้นไม้ถูกแย่ง “ไนโตรเจน” จริงมั้ย ? กระบวนการย่อยสลายใบไม้โดยจุลินทรีย์ มีการใช้ไนโตรเจนด้วย การปลูกพืชโดยนำใบไม้สดมาผสมวัสดุปลูกจำนวนมาก จะมีการแย่งไนโตรเจนในดิน ทำให้พืชที่ปลูกขาดไนโตรเจนได้ ก่อนนำใบก้ามปูสดผสมวัสดุปลูก ควรนำใบก้ามปูสดหมักด้วยจุลินทรีย์ เมื่อได้ปุ๋ยหมักใบก้ามปูแล้วจึงนำมาใช้ปลูกต้นไม้ ดังนั้น ทุกครั้งก่อนนำใบไม้สดจากต้นไม้ทุกชนิดมาผสมวัสดุปลูก จะต้องหมักด้วยจุลินทรีย์จนกระทั่งใบไม้ย่อยสลายเป็นปุ๋ยหมัก ไม่ใช่เฉพาะใบไม้เท่านั้นที่แย่งไนโตรเจนขณะเกิดกระบวนการย่อยสลาย แม้แต่ “ฟางข้าว” และ/หรือ ใบไม้ชนิดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่พืชวงศ์ถั่วก็เช่นกัน เมื่อเกิดกระบวนการย่อยของจุลินทรีย์จะมีการแย่งไนโตรเจนจากดินทำให้พืชขาดไนโตรเจนได้ ดินใบก้ามปูที่จำหน่ายทั่วไป ใช้ได้หรือไม่ ? ทุกครั้งที่ซื้อดินใบก้ามปูมาใช้ปลูกต้นไม้ […]

บนสื่อสังคมออนไลน์มีข้อสงสัยเกี่ยวน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ ว่ามีที่มาอย่างไร มีกี่ชนิด แต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ สุรมิส เจริญงาม นักทดสอบและผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยียานยนต์ น้ำมันเบนซิน (GASOLINE) และแก๊สโซฮอล์ (GASOHOL) ในประเทศไทยต้องเป็นไปตามมาตรฐานของกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน ที่กำหนดว่าน้ำมันเบอร์อะไรจะต้องมีประสิทธิภาพอย่างไรบ้าง ในอดีต ตลาดน้ำมันโลกยุคก่อนมีเฉพาะ “น้ำมันเบนซิน” อย่างเดียว เริ่มตั้งแต่ออกเทน (Octane) 87 91 95 (มีบ้าง) และข้ามไป 98 เลย สำหรับในประเทศไทย มีการนำเชื้อเพลิงธรรมชาติเอทานอล (Ethanol) 99.5% มาผสมกับเบนซิน เกิดเป็นเชื้อเพลิงที่เรียกว่าแก๊สโซฮอล์ น้ำมันแต่ละชนิดที่จำหน่ายในประเทศไทย มีอะไรบ้าง ? ชนิดของน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีจำหน่ายในประทศไทย มีค่าออกเทนเป็นตัวกำหนดมาตรฐาน หรือ RON : Research Octane Number ได้แก่ 1. น้ำมันเบนซิน 95 คือ น้ำมันเบนซินที่มีค่าออกเทน 95  ไม่มีส่วนผสมของเอทานอล มีราคาค่อนข้างสูง […]

สายตายาวตามอายุจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แก้ไข หรือชะลอปัญหาสายตายาวได้อย่างไรบ้าง ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ รศ.นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ ประธานวิชาการ ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย “สายตายาวตามวัย” มักพบในคนที่อายุเกิน 40 ปีขึ้นไป ความสามารถในการเพ่งมองใกล้ลดลง แต่การมองไกลยังชัดดีอยู่ แต่เมื่อวัตถุอยู่ในระยะใกล้ ๆ เช่น มือถือ แท็บเล็ต หรือการอ่านหนังสือ ก็จะทำให้มองใกล้ไม่ชัด จึงเรียกว่าสายตายาวตามวัย ทำไมสายตายาวเริ่มเมื่ออายุ 40 ปี ? โดยทั่วไปความสามารถในการเพ่งของมนุษย์จะค่อย ๆ ลดลง และทุก ๆ 4 ปี สายตาจะลดลงประมาณ 1 ไดออปเตอร์ สายตาลดลงไปจนถึงอายุ 40 ปี จะเป็นจังหวะที่ธรรมชาติให้ความสามารถในการเพ่งลดลงเหลือต่ำกว่ามาก ประมาณไม่ถึง 5-6 ไดออปเตอร์ ซึ่งเป็นปริมาณความสามารถในการเพ่งที่จำเป็นต่อการใช้สายตาในระยะใกล้ที่มนุษย์ถนัดอยู่ ความสามารถในการเพ่งที่ค่อย ๆ ลดลง เกิดจาก 2 กลไก 1. ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อควบคุมเลนส์ตาลดลง ทำให้ความสามารถในการหดตัวเพ่งมองสิ่งต่าง […]

ควรเริ่มตัดแว่นเพื่อแก้ไขปัญหาสายตาเมื่อไหร่ และสัญญาณใดที่เป็นตัวบ่งบอกว่าควรตัดแว่นใหม่ ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ รศ.นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ ประธานวิชาการ ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย แว่นตาเป็นอุปกรณ์แก้ปัญหาสายตาผิดปกติอย่างหนึ่ง สายตาผิดปกติมีหลายอย่าง เช่น สายตาสั้น ยาว เอียง รวมถึงสายตายาวตามวัย (คนที่อายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป) “หน่วยการวัดค่าสายตา” คืออะไร ? หน่วยการวัดค่าสายตา เรียกว่า ไดออปเตอร์ (Diopter หรือ D.) ค่าความสามารถในการมองเห็น วัดจากกำลังของกระจกตาและเลนส์ตารวมกัน  ค่าสายตา 1 ไดออปเตอร์ คือ ความสามารถของเลนส์แว่นตา ที่จะโฟกัสภาพที่ระยะ 1 เมตร แต่มักเรียกจุดทศนิยมเป็นตัวเลข เช่น 1.00 ไดออปเตอร์ ก็จะเรียกสายตาสั้น “100” เพื่อการสื่อสารสำหรับประชาชนทั่วไป ดังนั้น ถ้ามีภาวะสายตาผิดปกติ เช่น สายตาสั้น 100 แปลว่า วัตถุที่อยู่ห่างเกิน 1 เมตร จะมองไม่ชัด […]

บนสื่อสังคมออนไลน์มีการแชร์โฆษณายานวัตกรรมสูตรใหม่ มีชื่อว่า “Oclarizin” ในยาแคปซูลสูตรเดียวเป็นยาที่จะช่วยฟื้นฟูสายตา ปรับการมองเห็น ลดอาการพร่ามัว ปวดตา และลดความเสี่ยงโรคต้อได้ จริงหรือ ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ รศ.นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ ประธานวิชาการ ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย การโฆษณาว่ากินยาชนิดใดชนิดหนึ่งแล้วสามารถรักษาโรคตา โรคต้อ ได้หลายชนิด ทั้งหมดเป็นการหลอกลวง เพราะว่าไม่มียาหรืออาหารเสริมชนิดใดที่จะรักษาโรคตาทุกโรคได้อย่างครอบจักรวาล หน่วยงานที่ถูกอ้างถึงคือ “สมาคมจักษุแพทย์สากล” ไม่มีอยู่จริง รวมถึงชื่อแพทย์ด้วยที่แพทยสภาตรวจสอบแล้วไม่มีตัวตนอยู่จริง ซึ่งทั้งหมดเป็นตัวละครที่ถูกอุปโลกน์ขึ้นมาเพื่อหลอกลวงประชาชนทั้งสิ้น มีการอ้างถึงคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อวันที่ 12 เดือนเมษายน พ.ศ. 2565 เว็บไซต์ของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ออกแถลงการณ์ ดังนี้ “ตามที่มีการโฆษณาทางสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับในประเด็นเรื่องคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยคลินิก ขายผลิตภัณฑ์ Oclarizin เพื่อแก้ปัญหาสายตา ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ จากกรณีที่มีการโฆษณาชวนเชื่อผลิตภัณฑ์ Oclarizin เพื่อแก้ปัญหาสายตา ค้นพบวิธีฟื้นฟูสายตากลับมาเป็นปกติ วิธีการใหม่ที่จะแก้ปัญหาสายตาสำหรับผู้สูงวัยโดยไม่ต้องผ่าตัด จากคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยคลินิก ทางคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล […]

ไข้เลือดออกเป็นซ้ำแล้วเสี่ยงเสียชีวิตจริงหรือไม่ และควรป้องกันไข้เลือดออกด้วยวิธีใดจึงจะดีที่สุด ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ  รศ.ดร.นพ.นพพร อภิวัฒนากุล หัวหน้าหน่วยโรคติดเชื้อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล อดีต มีความเชื่อกันว่า “โรคไข้เลือดออก” เป็น “โรคของเด็ก” ปัจจุบัน โรคไข้เลือดออกเป็นได้ทุกกลุ่มอายุ ตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่วัยทำงาน ผู้สูงอายุ ปี พ.ศ. 2566 ประเทศไทยมีการระบาดใหญ่ของโรคไข้เลือดออกสูงสุดในรอบ 10 ปี กลุ่มผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกที่พบมากที่สุดคือ เด็ก ตามด้วยวัยรุ่น และผู้ใหญ่ตอนต้น ส่วนผู้สูงอายุพบน้อยที่สุด อัตราการเสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออก ในเด็กพบน้อยมาก ๆ ทว่าวัยรุ่นและผู้ใหญ่ตอนต้นที่มีอัตราการติดเชื้อน้อยกว่าเด็ก แต่ว่าเสียชีวิตสูงกว่า เพราะติดเชื้อไข้เลือดออกและเป็นโรคที่มีอาการรุนแรงมากกว่า อัตราการเสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออกของวัยรุ่นและผู้ใหญ่ตอนต้นสูงกว่าเด็ก เพราะอะไร ?  สาเหตุที่วัยรุ่นและผู้ใหญ่ตอนต้นป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกแล้วเสียชีวิต มีหลายกรณี เช่น 1. ตัวผู้ป่วยไม่คิดว่าตัวเองเป็นโรคไข้เลือดออกเพราะเป็นผู้ใหญ่ แต่คิดว่าไข้เลือดออกเป็นโรคของเด็ก จึงไม่ได้ระมัดระวังตัว 2. กินยาบางอย่างที่ไม่ควรกิน หรือไม่ได้ไปรับการรักษาในเวลาที่เหมาะสม 3. ด้วยกลไกของภูมิคุ้มกันโรคระหว่างเด็กและผู้ใหญ่ต่างกัน เช่น […]