การคุกคามเสรีภาพสื่อของรัฐบาลกัมพูชา

08 สิงหาคม 2568
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ

ในปี 2017 ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาในขณะนั้น ได้เริ่มก่อสงครามต่อเสรีภาพสื่อสารมวลชน การปราบปรามสื่ออิสระของเขายังคงดำเนินต่อเนื่องผ่านทาง ฮุน มานัต ลูกชายของเขา ที่เข้ามามีอำนาจตั้งแต่ปี 2023


ดัชนีเสรีภาพสื่อของ Reporters Without Borders ปี 2025 พบว่า กัมพูชาติดอันดับที่ 161 จากทั้งหมด 180 ประเทศ โดยปีนี้มีนักข่าวถูกจำคุกในกัมพูชาไปแล้ว 4 ราย

ในระหว่างปี 1992 ถึง 2023 มีนักข่าว 12 คนในกัมพูชาเสียชีวิต


ข้อมูลสมาคมนักข่าวกัมพูชาปี 2020 รายงานว่า มีนักข่าว 72 ราย ถูกคุกคามรวมกัน 35 ครั้ง

การกวาดล้างสื่ออิสระก่อนการเลือกตั้ง 2018

ในเดือนสิงหาคมปี 2017 รัฐบาลกัมพูชาภายใต้การนำของ ฮุน เซน ได้ระงับไม่ให้สถานีวิทยุในประเทศออกอากาศรายการของสำนักข่าว Voice of America และ Radio Free Asia


ในวันที่ 4 กันยายน 2017 Cambodia Daily หนังสือพิมพ์อิสระที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศถูกสั่งปิด โดยเกิดขึ้นหนึ่งวันหลังผู้นำฝ่ายค้านถูกจับกุมในข้อหากบฏ

ต่อมาในพฤษภาคม 2018 Phnom Penh Post หนังสือพิมพ์อิสระในกัมพูชาที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ถูกขายกิจการให้กับนักลงทุนชาวมาเลเซียที่มีความสัมพันธ์กับฮุน เซน ทำให้สูญเสียความเป็นอิสระและเข้าข้างรัฐบาลมากขึ้น จนพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ชนะการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนกรกฎาคม 2018

การกวาดล้างสื่ออิสระก่อนการเลือกตั้ง 2023

ในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 เว็บไซต์สื่อออนไลน์ Voice of Democracy (VOD) หนึ่งในสื่ออิสระสุดท้ายในกัมพูชา ถูกสั่งปิดโดยรัฐบาลกัมพูชา

นำไปสู่การก่อตั้ง Kamnotra เว็บไซต์ข่าวซึ่งเกิดจากการปิดตัวของ VOD แต่ไม่สามารถอยู่ได้นาน เนื่องจากถูกบล็อกการเข้าถึงเว็บไซต์โดยรัฐบาล ฮุน เซน

จนพรรค CPP ชนะการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนกรกฎาคม 2023 ส่งผลให้ ฮุน มาเน็ต สืบทอดตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อจากบิดาได้สำเร็จ

สื่อในมือของตระกูล ฮุน เซน

ธุรกิจสื่อมวลชนในกัมพูชา ล้วนประกอบการโดยผู้ใกล้ชิดกับ ฮุน เซน อาทิ

ฮุน มานา ลูกสาวคนโตของ ฮุน เซน เป็นผู้อำนวยการใหญ่สถานีโทรทัศน์ Bayon Television และยังเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์รายวันภาษาเขมร ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในประเทศ พร้อมด้วยสื่ออื่น ๆ อย่างนิตยสาร และเว็บไซต์ข่าวท้องถิ่น

Apsara TV มีเจ้าของร่วมระหว่างรัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อมจากพรรค CPP ลูกชายของเลขานุการพรรค CPP และลูกชายของรองนายกรัฐมนตรีพรรค CPP

แม้เจ้าหน้าที่จากพรรค CPP อ้างว่า ไม่มีความเชื่อมโยงระหว่างสถานีโทรทัศน์กับรัฐ แต่ ชิม ยิป สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค CPP เคยกล่าวว่า “เราจ่ายเงินสำหรับการออกอากาศของโทรทัศน์ เพื่อ แสดงความสำเร็จของเรา”

เนื่องจากสื่อดั้งเดิมทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาล ชาวกัมพูชาจึงหันไปพึ่งพาสื่อออนไลน์ผ่านโทรศัพท์มือถือ แต่ข้อมูลเหล่านั้นก็อยู่ภายใต้การควบคุมโดยอัลกอริทึมที่อยู่เบื้องหลัง Facebook ซึ่งมักจะนำเสนอเนื้อหาที่เป็นการสนับสนุนรัฐบาล

หนึ่งในสำนักข่าวออนไลน์ที่เป็นกระบอกเสียงให้กับรัฐบาล ฮุน เซน ได้แก่ Fresh News ซึ่งบทบาทสำคัญในการเผยแพร่ข่าวปลอมหลายชิ้นระหว่างวิกฤตการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา 2025

นอกจากนี้ รัฐบาลกัมพูชายังมีความตั้งใจที่จะก่อตั้ง National Internet Gateway เพื่อปิดกั้นข้อมูลแบบเบ็ดเสร็จ แต่ยังไม่สำเร็จเนื่องจากรัฐบาลไม่มีทรัพยากรปิดกั้นข้อมูลอย่างเต็มรูปแบบ ตราบใดที่ชาวกัมพูชายังสามารถรับข้อมูลจากต่างประเทศได้ การปิดกั้นความเห็นต่างต่อรัฐบาลอย่างสมบูรณ์จึงยังไม่เกิดขึ้น

การคุกคามสื่อของรัฐบาลกัมพูชา

ในปี 1992 กัมพูชาเคยให้สัตยาบันต่อสนธิสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิการเมือง และได้บังคับใช้กฎหมายที่รับรองการปฏิบัติการทำข่าวอย่างเสรี

ในกัมพูชามีกฎหมายการสื่อสารมวลชนปี 1995 อนุญาตให้มีการยุติคดีหมิ่นประมาทด้วยความยินยอม

อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติ เจ้าหน้าที่มักใช้ประมวลกฎหมายอาญาเกี่ยวกับการ “ยุยงให้เกิดอาชญากรรม” เพื่อดำเนินคดีและจับกุมนักข่าวที่ทำการสืบสวนรัฐบาล ซึ่งเป็นการจับกุมโดยไม่จำเป็นต้องมีหมายจับ

ในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 ฮุน เซน ฉวยโอกาสออกกฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉิน อนุญาตให้เขาเซ็นเซอร์เนื้อหาทางสื่อทั้งหมดที่เป็นภัยต่อรัฐบาล และใช้อำนาจฉุกเฉินจับกุมผู้สนับสนุนฝ่ายค้านและนักวิจารณ์รัฐบาลในข้อหาเผยแพร่ข่าวปลอม

โดยปี 2022 รัฐบาลกัมพูชาหมายหัวสื่อออนไลน์ที่ต่อต้านรัฐบาลว่าเป็นพวก Media Spreads Propaganda โดยกล่าวหาว่า ข่าวจริง เหล่านั้นเป็น โฆษณาชวนเชื่อ ที่อันตรายเกินกว่าจะปล่อยให้นำเสนอในช่วงก่อนการเลือกตั้งเดือนกรกฎาคม 2023

ตั้งแต่การปราบปรามในปี 2017 มีนักข่าวถูกจับกุมและถูกขังในคุกนานเป็นเดือน ๆ ด้วยข้อกล่าวหาที่รัฐบาลอุปโลกน์ขึ้น เช่น การก่อการร้าย หรือ เผยแพร่สื่อลามก

แม้แต่การทำข่าวด้านสิ่งแวดล้อมในกัมพูชาก็ถือเป็นสิ่งอันตราย ในเดือนธันวาคม 2024 นักข่าวชื่อ โชเอือง เชง ผู้รายงานข่าวเกี่ยวกับประเด็นสิ่งแวดล้อมให้กับสำนักข่าว Kampuchea Aphiwat News ถูกสังหารด้วยการถูกลอบยิง โดยผู้ต้องสงสัยที่เป็นนักลักลอบตัดไม้ในจังหวัดเสียมเรียบ

จึงสรุปได้ว่า การทำข่าวการทุจริตที่เกี่ยวข้องกับนายกรัฐมนตรีหรือผู้ใกล้ชิดกลายเป็นเรื่องเกือบเป็นไปไม่ได้ในกัมพูชา

บทบาทนานาชาติต่อเสรีภาพสื่อในกัมพูชา

บทวิเคราะห์ของ East Asia Forum สื่อที่จับตาความเคลื่อนไหวของประเทศเอเชียแปซิฟิก ให้มุมมองว่า

การกระทำของนานาชาติจะไม่สามารถขัดขวางรัฐบาล ฮุน เซน จากการปิดกั้นสื่อ เนื่องจากความช่วยเหลือจากทางการจีน ที่ให้ความช่วยเหลือโดยไม่ผูกพันกับข้อกำหนดเรื่องสิทธิมนุษยชน ทำให้ ฮุน เซน สามารถรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและรัฐบาลของเขาได้ แม้จะมีการคว่ำบาตรเพิ่มเติมจากสหรัฐฯ และพันธมิตร แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้

แทนที่จะเน้นการประณามรัฐบาล ฮุน เซน เพียงอย่างเดียว สหรัฐฯ และพันธมิตรควรให้การสนับสนุนสื่อมวลชนภาคประชาสังคมที่ทำงานในกัมพูชา พวกเขาควรสนับสนุนการนำเสนอข่าวที่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและหาวิธีที่สร้างสรรค์ที่จะนำข้อเท็จจริงเหล่านั้นเข้าสู่พื้นที่ข้อมูลของกัมพูชา

แม้ว่าสื่อมวลชนภาคประชาสังคมจะไม่สามารถต่อสู้กับอำนาจของรัฐบาล ฮุน เซน ได้ แต่พวกเขาสามารถต่อสู้กับข้อมูลเท็จและโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลในสื่อสังคมออนไลน์ได้ เพื่อให้ประกายความหวังในประชาธิปไตยของชาวกัมพูชา ยังคงไม่ดับมอดไป

ข้อมูลอ้างอิง :

https://rsf.org/en/country/cambodia
https://eastasiaforum.org/2023/05/02/hun-sens-fight-to-control-the-cambodian-infosphere/
https://en.wikipedia.org/wiki/Hun_Sen#Control_of_media

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. โผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด

กทม. 28 ส.ค.-ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. หลัง “ภูมิธรรม” ถกลับ ผบ.ตร. นานหลายชั่วโมง เหตุมีหนังสือร้องเรียนจำนวนมาก ทำโผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. เป็นประธานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 7/2568 ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 มีระเบียบวาระการประชุม 5 วาระ ประกอบด้วย วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ /วาระที่ 2 รับรองรายงานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 6/2568 /วาระที่ 3 เรื่องที่เสนอเพื่อทราบ เรื่องที่ 1 รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.สืบสวนสอบสวน ที่ ก.ตร. มอบหมายให้ทำการแทน […]

กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา เขต อ.อรัญประเทศ

สระแก้ว 23 ส.ค.-กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา จุดแรกบริเวณหลักเขตที่ 50-51 เขต อ.อรัญประเทศ ระยะทาง 10 กม. เชื่อเริ่มดำเนินการได้เป็นรูปธรรมภายในปีนี้ พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยพร้อมคณะลงพื้นที่เพื่อสำรวจแนวชายแดนตั้งแต่หลักเขตที่สี่ 48 ต่อเนื่องถึง 51 บริเวณพื้นที่บ้านป่าไร่ ถึงบ้านท่าข้าม ในเขต อ.อรัญประเทศ โดยการสำรวจดังกล่าวเพื่อเตรียมสร้างแนวกำแพงแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นบริเวณหลักเกณฑ์ที่ห้า 50 และ 51 ซึ่งไทยและกัมพูชาเห็นตรงกันแล้วในเรื่องเขตแดน จะสร้างเป็นรั้วถาวรเป็นจุดแรกระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ขณะบริเวณอื่นๆ ซึ่งยังมีการอ้างสิทธิ และยังไม่มีข้อสรุปเรื่องเขตแดนที่ชัดเจน เบื้องต้นก็จะสร้างเป็นแนวรั้วชั่วคราวด้วยวิธีการตัดถนนเลียบตลอดแนวชายแดนและวางรั้วลวดหนามหีบเพลงสามชั้น พร้อมติดกล้องวงจรปิดในจุดที่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ในการเคลื่อนย้ายกำลัง รวมไปถึงการลาดตระเวนตรวจตรา นอกจากนี้การปรับพื้นที่ให้โล่งก็จะทำให้การลักลอบผ่านแดนตามช่องทางธรรมชาติยากขึ้น ซึ่งถือเป็นการสกัดกั้นทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และปัญหาสแกมเมอร์ ได้ โดยการดำเนินการจะเริ่มต้นทันทีที่นำเรื่องเข้าขออนุมัติจากสภาความมั่นคงแห่งชาติและไม่ได้ติดขัดในเรื่องงบประมาณแต่อย่างใด เชื่อว่าภายในปีนี้น่าจะเห็นแนวรั้วกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มต้นเกิดขึ้นได้ ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้จะมีการลงในรายละเอียดพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนตามแนวชายแดนที่บางส่วนอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็เชื่อว่าประชาชนพร้อมที่จะเสียสละเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของส่วนรวม พลตรี วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำรั้วตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาเกิดขึ้นจากข้อเรียกร้องของประชาชน […]

เด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว

สุรินทร์ 28 ส.ค.-รองผู้ว่าฯ สุรินทร์ เผยเด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว หากพิสูจน์ไม่ได้ว่าน้องเป็นคนไทย น้องยังต้องได้รับสิทธิตามอนุสัญญาหลักสิทธิเด็ก เข้ารับการศึกษาต่อไป นายประภาส ศรีจันทร์เวียง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยว่า ขณะนี้ พมจ.สุรินทร์ ตม.สุรินทร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กำลังดูแลน้องอายุ 13 ปี ที่มีแม่เป็นชาวกัมพูชาและทั้งคู่ถูกแจ้งจับเนื่องจากเป็นคนต่างด้าวอยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมายและไม่มีใบอนุญาต ได้รับรายงานว่า เด็กชาย อายุ 13 ปีรายนี้ เกิดที่ จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ส่วนแม่ทำงานในบ่อนการพนันที่ช่องสะงำ จากนั้นก็ได้เดินทางกลับประเทศโดยถูกกฎหมาย และคลอดน้องที่ประเทศกัมพูชา ก่อนจะกลับมาประเทศไทยอีกครั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต และลอบอยู่ในประเทศไทย โดยน้องได้รับการศึกษาในประเทศไทยตั้งแต่ ป.1 จนกระทั่งปัจจุบันคือ ม.1 ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการพาน้องอายุ 13 ปี ตรวจดีเอ็นเอ เนื่องจาก พมจ.สุรินทร์ ได้รับข้อมูลจากฝ่ายแม่เด็กว่า พ่อที่แท้จริงของน้องคือ ชายไทยที่อยู่ด้วยกันในปัจจุบัน แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันความจริงได้ นอกจากการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น เพื่อดำเนินการทางกฎหมายในขั้นตอนต่อไป เช่น หากพิสูจน์ได้ว่า น้องมีบิดา […]

มติสภาประชุมลับญัตติด่วน MOU43-44 ฝ่ายค้านชี้ปิดหูปิดตา ปชช.

28 ส.ค. – สภาฯ ถกญัตติด่วน “MOU 43-44” เพื่อไทยขอประชุมลับ หวั่นอภิปรายเนื้อหาล้ำเส้น กังวลกัมพูชารู้ทาง ด้านฝ่ายค้านยันต้องเปิดเผย ไม่ใช่ปิดหูปิดตาประชาชน สุดท้ายเปิดเผยเฉพาะผู้เสนอญัตติ ส่วนผู้อภิปรายเป็นประชุมลับ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯคนที่หนึ่งเป็นประธานการประชุม หลังพิจารรณากระทู้ถามทั่วไปแล้วได้มีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา 5 ฉบับ ได้แก่ 1. น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใทย เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 ระหว่างไทยกัมพูชา 2.นายกรวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เสนอให้สภาฯทำการศึกษาบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 แก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย กัมพูชา 3.นายสฤษพงศ์ ​เกี่ยวข้องสส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าเนื่องจากตนได้เสนอญัตติดังกล่าวเป็นหนังสือไว้แล้ว ก็ขอให้นำมาอยู่ในวาระด่วนเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นเรื่องทำนองเดียวกัน 4.นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอเรื่องขอให้สภาฯพิจารณาศึกษMOU 43 และ44 […]