08 สิงหาคม 2568
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ในปี 2017 ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาในขณะนั้น ได้เริ่มก่อสงครามต่อเสรีภาพสื่อสารมวลชน การปราบปรามสื่ออิสระของเขายังคงดำเนินต่อเนื่องผ่านทาง ฮุน มานัต ลูกชายของเขา ที่เข้ามามีอำนาจตั้งแต่ปี 2023

ดัชนีเสรีภาพสื่อของ Reporters Without Borders ปี 2025 พบว่า กัมพูชาติดอันดับที่ 161 จากทั้งหมด 180 ประเทศ โดยปีนี้มีนักข่าวถูกจำคุกในกัมพูชาไปแล้ว 4 ราย
ในระหว่างปี 1992 ถึง 2023 มีนักข่าว 12 คนในกัมพูชาเสียชีวิต
ข้อมูลสมาคมนักข่าวกัมพูชาปี 2020 รายงานว่า มีนักข่าว 72 ราย ถูกคุกคามรวมกัน 35 ครั้ง
การกวาดล้างสื่ออิสระก่อนการเลือกตั้ง 2018
ในเดือนสิงหาคมปี 2017 รัฐบาลกัมพูชาภายใต้การนำของ ฮุน เซน ได้ระงับไม่ให้สถานีวิทยุในประเทศออกอากาศรายการของสำนักข่าว Voice of America และ Radio Free Asia
ในวันที่ 4 กันยายน 2017 Cambodia Daily หนังสือพิมพ์อิสระที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศถูกสั่งปิด โดยเกิดขึ้นหนึ่งวันหลังผู้นำฝ่ายค้านถูกจับกุมในข้อหากบฏ
ต่อมาในพฤษภาคม 2018 Phnom Penh Post หนังสือพิมพ์อิสระในกัมพูชาที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ถูกขายกิจการให้กับนักลงทุนชาวมาเลเซียที่มีความสัมพันธ์กับฮุน เซน ทำให้สูญเสียความเป็นอิสระและเข้าข้างรัฐบาลมากขึ้น จนพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ชนะการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนกรกฎาคม 2018
การกวาดล้างสื่ออิสระก่อนการเลือกตั้ง 2023
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 เว็บไซต์สื่อออนไลน์ Voice of Democracy (VOD) หนึ่งในสื่ออิสระสุดท้ายในกัมพูชา ถูกสั่งปิดโดยรัฐบาลกัมพูชา
นำไปสู่การก่อตั้ง Kamnotra เว็บไซต์ข่าวซึ่งเกิดจากการปิดตัวของ VOD แต่ไม่สามารถอยู่ได้นาน เนื่องจากถูกบล็อกการเข้าถึงเว็บไซต์โดยรัฐบาล ฮุน เซน
จนพรรค CPP ชนะการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนกรกฎาคม 2023 ส่งผลให้ ฮุน มาเน็ต สืบทอดตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อจากบิดาได้สำเร็จ
สื่อในมือของตระกูล ฮุน เซน
ธุรกิจสื่อมวลชนในกัมพูชา ล้วนประกอบการโดยผู้ใกล้ชิดกับ ฮุน เซน อาทิ
ฮุน มานา ลูกสาวคนโตของ ฮุน เซน เป็นผู้อำนวยการใหญ่สถานีโทรทัศน์ Bayon Television และยังเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์รายวันภาษาเขมร ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในประเทศ พร้อมด้วยสื่ออื่น ๆ อย่างนิตยสาร และเว็บไซต์ข่าวท้องถิ่น
Apsara TV มีเจ้าของร่วมระหว่างรัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อมจากพรรค CPP ลูกชายของเลขานุการพรรค CPP และลูกชายของรองนายกรัฐมนตรีพรรค CPP
แม้เจ้าหน้าที่จากพรรค CPP อ้างว่า ไม่มีความเชื่อมโยงระหว่างสถานีโทรทัศน์กับรัฐ แต่ ชิม ยิป สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค CPP เคยกล่าวว่า “เราจ่ายเงินสำหรับการออกอากาศของโทรทัศน์ เพื่อ แสดงความสำเร็จของเรา”
เนื่องจากสื่อดั้งเดิมทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาล ชาวกัมพูชาจึงหันไปพึ่งพาสื่อออนไลน์ผ่านโทรศัพท์มือถือ แต่ข้อมูลเหล่านั้นก็อยู่ภายใต้การควบคุมโดยอัลกอริทึมที่อยู่เบื้องหลัง Facebook ซึ่งมักจะนำเสนอเนื้อหาที่เป็นการสนับสนุนรัฐบาล
หนึ่งในสำนักข่าวออนไลน์ที่เป็นกระบอกเสียงให้กับรัฐบาล ฮุน เซน ได้แก่ Fresh News ซึ่งบทบาทสำคัญในการเผยแพร่ข่าวปลอมหลายชิ้นระหว่างวิกฤตการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา 2025
นอกจากนี้ รัฐบาลกัมพูชายังมีความตั้งใจที่จะก่อตั้ง National Internet Gateway เพื่อปิดกั้นข้อมูลแบบเบ็ดเสร็จ แต่ยังไม่สำเร็จเนื่องจากรัฐบาลไม่มีทรัพยากรปิดกั้นข้อมูลอย่างเต็มรูปแบบ ตราบใดที่ชาวกัมพูชายังสามารถรับข้อมูลจากต่างประเทศได้ การปิดกั้นความเห็นต่างต่อรัฐบาลอย่างสมบูรณ์จึงยังไม่เกิดขึ้น
การคุกคามสื่อของรัฐบาลกัมพูชา
ในปี 1992 กัมพูชาเคยให้สัตยาบันต่อสนธิสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิการเมือง และได้บังคับใช้กฎหมายที่รับรองการปฏิบัติการทำข่าวอย่างเสรี
ในกัมพูชามีกฎหมายการสื่อสารมวลชนปี 1995 อนุญาตให้มีการยุติคดีหมิ่นประมาทด้วยความยินยอม
อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติ เจ้าหน้าที่มักใช้ประมวลกฎหมายอาญาเกี่ยวกับการ “ยุยงให้เกิดอาชญากรรม” เพื่อดำเนินคดีและจับกุมนักข่าวที่ทำการสืบสวนรัฐบาล ซึ่งเป็นการจับกุมโดยไม่จำเป็นต้องมีหมายจับ
ในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 ฮุน เซน ฉวยโอกาสออกกฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉิน อนุญาตให้เขาเซ็นเซอร์เนื้อหาทางสื่อทั้งหมดที่เป็นภัยต่อรัฐบาล และใช้อำนาจฉุกเฉินจับกุมผู้สนับสนุนฝ่ายค้านและนักวิจารณ์รัฐบาลในข้อหาเผยแพร่ข่าวปลอม
โดยปี 2022 รัฐบาลกัมพูชาหมายหัวสื่อออนไลน์ที่ต่อต้านรัฐบาลว่าเป็นพวก Media Spreads Propaganda โดยกล่าวหาว่า ข่าวจริง เหล่านั้นเป็น โฆษณาชวนเชื่อ ที่อันตรายเกินกว่าจะปล่อยให้นำเสนอในช่วงก่อนการเลือกตั้งเดือนกรกฎาคม 2023
ตั้งแต่การปราบปรามในปี 2017 มีนักข่าวถูกจับกุมและถูกขังในคุกนานเป็นเดือน ๆ ด้วยข้อกล่าวหาที่รัฐบาลอุปโลกน์ขึ้น เช่น การก่อการร้าย หรือ เผยแพร่สื่อลามก
แม้แต่การทำข่าวด้านสิ่งแวดล้อมในกัมพูชาก็ถือเป็นสิ่งอันตราย ในเดือนธันวาคม 2024 นักข่าวชื่อ โชเอือง เชง ผู้รายงานข่าวเกี่ยวกับประเด็นสิ่งแวดล้อมให้กับสำนักข่าว Kampuchea Aphiwat News ถูกสังหารหลังด้วยการถูกลอบยิง โดยผู้ต้องสงสัยที่เป็นนักลักลอบตัดไม้ในจังหวัดเสียมเรียบ
จึงสรุปได้ว่า การทำข่าวการทุจริตที่เกี่ยวข้องกับนายกรัฐมนตรีหรือผู้ใกล้ชิดกลายเป็นเรื่องเกือบเป็นไปไม่ได้ในกัมพูชา
บทบาทนานาชาติต่อเสรีภาพสื่อในกัมพูชา
บทวิเคราะห์ของ East Asia Forum สื่อที่จับตาความเคลื่อนไหวของประเทศเอเชียแปซิฟิก ให้มุมมองว่า
การกระทำของนานาชาติจะไม่สามารถขัดขวางรัฐบาล ฮุน เซน จากการปิดกั้นสื่อ เนื่องจากความช่วยเหลือจากทางการจีน ที่ให้ความช่วยเหลือโดยไม่ผูกพันกับข้อกำหนดเรื่องสิทธิมนุษยชน ทำให้ ฮุน เซน สามารถรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและรัฐบาลของเขาได้ แม้จะมีการคว่ำบาตรเพิ่มเติมจากสหรัฐฯ และพันธมิตร แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้
แทนที่จะเน้นการประณามรัฐบาล ฮุน เซน เพียงอย่างเดียว สหรัฐฯ และพันธมิตรควรให้การสนับสนุนสื่อมวลชนภาคประชาสังคมที่ทำงานในกัมพูชา พวกเขาควรสนับสนุนการนำเสนอข่าวที่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและหาวิธีที่สร้างสรรค์ที่จะนำข้อเท็จจริงเหล่านั้นเข้าสู่พื้นที่ข้อมูลของกัมพูชา
แม้ว่าสื่อมวลชนภาคประชาสังคมจะไม่สามารถต่อสู้กับอำนาจของรัฐบาล ฮุน เซน ได้ แต่พวกเขาสามารถต่อสู้กับข้อมูลเท็จและโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลในสื่อสังคมออนไลน์ได้ เพื่อให้ประกายความหวังในประชาธิปไตยของชาวกัมพูชา ยังคงไม่ดับมอดไป
ข้อมูลอ้างอิง :
https://rsf.org/en/country/cambodia
https://eastasiaforum.org/2023/05/02/hun-sens-fight-to-control-the-cambodian-infosphere/
https://en.wikipedia.org/wiki/Hun_Sen#Control_of_media
หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare
สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter