ชัวร์ก่อนแชร์ : รพ.พนมดงรักฯ เปิดรับบริจาค ช่วยชายแดนไทย-กัมพูชา จริงหรือ ?

ตามที่บนสื่อสังคมออนไลน์มีการเผยแพร่ข้อมูลโรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เปิดรับบริจาคเงินเพื่อพัฒนาโรงพยาบาล และซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ขาดแคลน นั้น บทสรุป : แชร์ได้ อธิบายเพิ่ม เลขบัญชีที่แชร์กันเป็นของโรงพยาบาลพนมดงรักฯ จริง แต่เป็นข้อมูลเก่าตั้งแต่ช่วงสถานการณ์โควิด-19 เมื่อปี พ.ศ. 2563 FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพบว่า จากโพสต์โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ชี้แจงว่า ทางโรงพยาบาลยังไม่มีการเปิดรับบริจาคโดยเฉพาะสำหรับเหตุการณ์การสู้รบระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชา โดยข้อมูลที่แชร์กันเป็นข้อมูลเก่าที่เปิดรับบริจาคในช่วงสถานการณ์โควิด-19 อย่างไรก็ตาม ยังคงสามารถบริจาคทั่วไปเพื่อนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามปกติ โดยขอความกรุณาตรวจสอบชื่อบัญชีและเลขที่บัญชีให้ถูกต้องทุกครั้งก่อนทำรายการ สำหรับข้อมูลที่แชร์กัน เป็นภาพอินโฟกราฟิกเชิญร่วมบริจาคเงินเพื่อพัฒนาโรงพยาบาลและซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ขาดแคลน ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 เมื่อปี พ.ศ. 2563 ทำให้ประชาชนหลายคนอาจเกิดความสับสนและไม่แน่ใจเกี่ยวกับสถานะการบริจาคปัจจุบัน โรงพยาบาลพนมดงรักฯ ยังเปิดรับบริจาคอยู่หรือไม่ ? โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ได้ชี้แจงเพิ่มเติมผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจว่า ปัจจุบันทางโรงพยาบาลยังไม่มีการเปิดรับบริจาคโดยเฉพาะสำหรับเหตุการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา แต่ยังสามารถบริจาคทั่วไปได้ตามปกติ และสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้  ทั้งนี้ ขอให้ระมัดระวังมิจฉาชีพที่อาจแอบอ้างชื่อโรงพยาบาลเพื่อหลอกลวงขอรับบริจาค ก่อนโอนเงินทุกครั้งโปรดตรวจสอบชื่อและเลขที่บัญชีให้ถูกต้อง โดยชื่อบัญชีที่ถูกต้องคือ : โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ […]

ชัวร์ก่อนแชร์: ปธน. จัดฉากโทรหานักบินฯ บนดวงจันทร์ จริงหรือ?

29 กรกฎาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลน่าสงสัย : มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับโครงการ Apollo เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ โดยอ้างว่าภารกิจส่งมนุษย์ไปเยือนดวงจันทร์ของสหรัฐฯ ถูกเปิดโปงว่าเป็นเรื่องลวงโลก เนื่องจากมีการเปิดเผยคลิปวิดีโอครั้งที่ประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน จัดฉากโทรศัพท์จากทำเนียบขาวไปสนทนากับนักบินอวกาศที่อยู่บนดวงจันทร์ ซึ่งเทคโนโลยียุคนั้นไม่น่าเป็นไปได้ นอกจากนี้ยังมีภาพถ่ายรูปโลกจากพื้นผิวดวงจันทร์ ประดับอยู่ในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาวอีกด้วย เป็นหลักฐานว่าการเยือนดวงจันทร์ของสหรัฐฯ เป็นสิ่งที่จัดฉากเอาไว้ล่วงหน้า บทสรุป : 1.ริชาร์ด นิกสัน ไม่ได้โทรศัพท์สายตรงไปถึงนักบินอวกาศบนดวงจันทร์2.มีต่อสัญญาณโทรศัพท์จากทำเนียบขาวไปยังศูนย์บัญชาการในเมืองฮูสตัน3.และใช้เครือข่าย Manned Space Flight Network ส่งสัญญาณโทรศัพท์ไปยังดวงจันทร์4.ภาพ Earthrise ไม่ได้ถ่ายจากพื้นดวงจันทร์ แต่ถ่ายจากวงโคจรดวงจันทร์5.ภาพ Earthrise ถ่ายโดยนักบินอวกาศ Apollo 8 ก่อน Apollo 11 ลงจอดบนดวงจันทร์นาน 7 เดือน FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : เมื่อวันที่ 20 […]

ชัวร์ก่อนแชร์: รอยเท้าบนดวงจันทร์ ต่างกับรองเท้าชุดอวกาศ จริงหรือ?

28 กรกฎาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลน่าสงสัย : มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับโครงการ Apollo เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ โดยอ้างว่าภารกิจการส่งมนุษย์ไปเยือนดวงจันทร์ของสหรัฐฯ เป็นเรื่องลวงโลก เพราะมีการเปิดเผยชุดอวกาศที่ นีล อาร์มสตรอง สวมใส่บนดวงจันทร์ แต่ปรากฏว่ารอยของรองเท้าในชุดอวกาศ กลับแตกต่างจากรอยเท้าที่ประทับไว้บนผิวของดวงจันทร์อย่างสิ้นเชิง บทสรุป : 1.รอยเท้าบนดวงจันทร์เกิดจากรองเท้าบูตบนดวงจันทร์มีชื่อว่า Lunar Overshoes2.รอยเท้าบนดวงจันทร์เป็นของ บัซ อัลดริน ไม่ใช่ของ นีล อาร์มสตรอง FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : ภาพที่อ้างว่าเป็นชุดอวกาศของ นีล อาร์มสตรอง นำมาจากเว็บไซต์นิตยสาร Slate ที่รายงานโครงการอนุรักษ์ชุดอวกาศของ นีล อาร์มสตรอง เมื่อปี 2015 รอยเท้าบนดวงจันทร์ ไม่ใช่ของ นีล อาร์มสตรอง รอยเท้าบนดวงจันทร์จากภารกิจ Apollo 11 มักสร้างความเข้าใจผิดว่าเป็นรอยเท้าของ […]

ชัวร์ก่อนแชร์: การสักลาย เสี่ยงมะเร็ง จริงหรือ?

26 กรกฎาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลน่าสงสัย : มีความกังวลใจเกี่ยวกับการเสริมความงามและความเสี่ยงมะเร็ง เมื่อมีผู้ใช้ Instagram อ้างว่า การสักลายเพิ่มความเสี่ยงการเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เนื่องจากในน้ำหมึกที่ใช้สักลายมีส่วนประกอบของสารโลหะหนัก และอ้างงานวิจัยที่พบว่าผู้สักลายมีความเสี่ยงป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองมากกว่าผู้ไม่สักถึง 81% พร้อมแนะนำวิธีถอนพิษด้วยการใช้อาหารเสริมที่มีแร่ซีโอไลต์ บทสรุป : 1.งานวิจัยการสักลายกับมะเร็งต่อมน้ำเหลืองยังไม่ชัดเจนว่ามีความสัมพันธ์หรือไม่2.แม้มีสารก่อมะเร็งในน้ำหมึกที่ใช้สักลาย แต่ไม่มีข้อมูลว่าการสัมผัสจากการสักบนผิวหนังทำให้เสี่ยงมะเร็ง3.ซีโอไลต์ไม่ช่วยล้างพิษจากการสักลาย FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : ความนิยมในการสักลาย ผลสำรวจปี 2023 ของ Pew Research Center พบว่าผู้ใหญ่ชาวอเมริกันเกือบ 1 ใน 3 หรือ 32% มีรอยสักอย่างน้อย 1 ลายบนร่างกาย และมีถึง 22% ที่มีรอยสักมากกว่า 1 ลายบนร่างกาย ข้อมูลยืนยันว่าความนิยมการสักลายเพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ ช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เมื่อผลสำรวจในปี […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : เป็น “ไข้ทับระดูห้ามฉีดยา” เพราะอาจถึงตายได้ จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์แชร์ข้อความว่า “เป็นไข้ทับระดูห้ามฉีดยา” เพราะอาจถึงตายได้ จริงหรือ ?   🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ นพ.พูนศักดิ์ สุชนวณิช สูตินรีแพทย์ เรื่อง “ไข้ทับระดู” (Period Flu) มีการพูดกันมานานตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว “ไข้ทับระดู” ไม่ใช่โรคจำเพาะอะไร เป็นเพียงอาการไข้พร้อม ๆ กับช่วงที่มีประจำเดือน (หมายถึงมีประจำเดือนก่อนแล้วมีไข้) พอดี ซึ่งช่วงนี้ร่างกายอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงจากการเสียเลือด อ่อนเพลียจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน มีความรู้สึกเหมือนกับไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว ซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่ำ จึงไม่แปลกที่บางครั้งมีไข้ระหว่างมีประจำเดือน จะรู้สึกอ่อนเพลียมากกว่าปกติ แต่เรื่องนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉีดยา ถ้าจำเป็นจะต้องฉีดยาเพื่อรักษาโรคใดก็ตาม การฉีดยา “ในช่วงที่มีระดู” หรือ “ไม่มีระดู” ไม่มีความแตกต่างกัน สาเหตุที่ทำให้เป็นไข้ทับระดู ? “ไข้ทับระดู” ตัว “ไข้” จะเกิดได้เมื่อร่างกายอ่อนเพลีย ในช่วงที่ร่างกายพักผ่อนน้อย มีความเครียด ปฏิกิริยาของการมีไข้จะตอบสนองต่อความอ่อนแอของร่างกาย ถ้าช่วงนั้นมีอาการ เช่น ดื่มน้ำน้อยและเสียปริมาณน้ำในร่างกาย มีประจำเดือนเสียเลือดออกไป ก็เป็นสาเหตุทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นและมีไข้ได้ การติดเชื้อเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น […]

ชัวร์ก่อนแชร์ CHECK-LIST : 5 เรื่องฮิต สารพัดประโยชน์ กินไข่แก้โรค จริงหรือ ?

บทความนี้เรียบเรียงโดยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) โดยมีเนื้อหาหลักจากคลิปวิดีโอ 23 กรกฎาคม 2568 ไข่… สารพัดความเชื่อ : ตรวจสอบ 5 สูตรเด็ดรักษาโรค จริงหรือแค่แชร์มั่ว ? “ไข่” เป็นวัตถุดิบสามัญประจำบ้านที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ แต่ในขณะเดียวกันก็มักจะถูกนำไปผูกโยงกับความเชื่อและสูตรการรักษาโรคแบบแปลก ๆ ที่แชร์กันอย่างแพร่หลายบนโลกออนไลน์ ตั้งแต่การกินเปลือกไข่ไปจนถึงการนำไปดองหรือผสมกับสมุนไพรต่าง ๆ บทความนี้จะพาไปตรวจสอบ 5 ความเชื่อยอดนิยมเกี่ยวกับการใช้ไข่รักษาโรค ว่าเรื่องไหนเป็นความจริง และเรื่องไหนที่ควร “ชัวร์ก่อนแชร์” 5. กินเปลือกไข่บด เพิ่มแคลเซียม รักษาโรค จริงหรือ ? แชร์ว่า เปลือกไข่มีแคลเซียมสูง สามารถนำมาบดกินเพื่อเสริมแคลเซียมและรักษาโรคกระดูกพรุนได้ ตรวจสอบกับ นายฐนิต วินิจจะกูล นักกำหนดอาหาร ผู้ช่วยอาจารย์ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล บทสรุป : ไม่จริง ไม่ควรแชร์ แม้เปลือกไข่จะประกอบด้วยแคลเซียมคาร์บอเนตเป็นส่วนใหญ่จริง แต่ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันว่าร่างกายจะสามารถดูดซึมแคลเซียมจากเปลือกไข่ดิบได้ดีและปลอดภัย อีกทั้งเปลือกไข่ดิบยังเสี่ยงต่อการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียซัลโมเนลลาซึ่งเป็นอันตราย การรับแคลเซียมจากอาหารตามธรรมชาติ เช่น นม […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : ผลิตภัณฑ์เสริมสมรรถภาพทางเพศ จริงหรือ ?

24 กรกฎาคม 2568 ** เนื้อหานี้นำเสนอข้อเท็จจริงตามกรอบมาตรฐานของศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ** ตามที่มีการแชร์ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่อ้างว่า เป็นอาหารเสริมผู้ชาย บำรุงร่างกาย กินแล้วช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศนั้น บทสรุป : ไม่จริง ไม่ควรแชร์ ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับ นายแพทย์สุรโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (สัมภาษณ์เมื่อ 7 กรกฎาคม 2568) อาหารเสริมสมรรถภาพชาย อย่าหลงเชื่อคำโฆษณา ก่อนจะเสียทั้งเงินและชีวิต “แข็ง อึด ทน” “คืนความหนุ่มใน 7 วัน” คงเป็นคำโฆษณาที่เราเห็นกันจนชินตาบนโลกออนไลน์ สำหรับผลิตภัณฑ์ที่อ้างว่าเป็น “อาหารเสริมสมรรถภาพทางเพศ” ซึ่งมักจะมาพร้อมกับรีวิวสุดอลังการและคำอวดอ้างที่ชวนให้เคลิบเคลิ้ม แต่เบื้องหลังคำโฆษณาเหล่านั้น คือความจริงที่น่ากลัวและอันตรายถึงชีวิตที่ผู้ชายทุกคนต้องรู้ ความจริงที่ต้องรู้ อาหารเสริม “รักษา” ไม่ได้ นายแพทย์สุรโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ได้ออกมายืนยันอย่างหนักแน่นและชัดเจนว่า ปัจจุบันยังไม่มีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรือสมุนไพรใด ๆ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนว่าสามารถรักษาหรือแก้ไขภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้ หน้าที่ของ “อาหารเสริม” คือการให้สารอาหารที่อาจจำเป็นต่อร่างกายเท่านั้น […]

ชัวร์ก่อนแชร์: ซิลิโคนเสริมหน้าอก เสี่ยงมะเร็ง จริงหรือ?

25 กรกฎาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลน่าสงสัย : มีความกังวลใจเกี่ยวกับการเสริมความงามและความเสี่ยงมะเร็ง เมื่อมีการเชื่อมโยงการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนกับการป่วยเป็นมะเร็งเต้านม บทสรุป : 1.การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนผิวไม่เรียบ เพิ่มความเสี่ยงมะเร็ง BIA-ALCL เล็กน้อย2.แต่การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนผิวเรียบ ไม่พบความเสี่ยงมะเร็ง BIA-ALCL แต่อย่างใด3.ผู้เสริมหน้าอกตวรตรวจคัดกรองเต้านมเป็นประจำทุก 2-3 ปี FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลพิสูจน์ว่า การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนเพิ่มความเสี่ยงการเป็นมะเร็งเต้านม แต่พบว่าการใช้ซิลิโคนบางชนิด เพิ่มความเสี่ยงเล็กน้อยต่อการเกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดที่หาได้ยาก BIA-ALCL มะเร็งต่อมน้ำเหลืองจากซิลิโคนเสริมหน้าอก BIA-ALCL เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดที่หาได้ยาก ที่รู้จักในชื่อ Anaplastic Large Cell Lymphoma (ALCL) ซึ่งการเกิด ALCL จากการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนจะเรียกอาการนี้ว่า Breast Implant-Associated Anaplastic Large Cell Lymphoma หรือ BIA-ALCL BIA-ALCL […]

ชัวร์ก่อนแชร์ Motor Check :  เตือน ! ห้ามใช้ตัวหลอกเข็มขัดนิรภัย อันตราย จริงหรือ ?

บทความนี้เรียบเรียงโดยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) โดยมีเนื้อหาหลักจากคลิปวิดีโอ 22 กรกฎาคม 2568 ตามที่มีการแชร์เตือนผู้ใช้งานรถยนต์ว่า ห้ามใช้งานอุปกรณ์เสียบหลอกเข็มขัดนิรภัย เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้นั้น สรุป : จริง แชร์ได้ ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับ นายสุรมิส เจริญงาม นักทดสอบและผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยียานยนต์ (สัมภาษณ์เมื่อ 14 พฤษภาคม 2568) ตัวหลอกเข็มขัดนิรภัย “อันตราย” ที่คุณอาจไม่เคยรู้ “แค่เสียบไว้ไม่ให้เสียงเตือนดัง” คือเหตุผลง่าย ๆ ที่ทำให้หลายคนเลือกใช้อุปกรณ์ชิ้นเล็ก ๆ ที่เรียกว่า “ตัวหลอกเข็มขัดนิรภัย” โดยไม่เคยตระหนักว่าอุปกรณ์ที่ดูไม่มีพิษสงชิ้นนี้ จะสามารถเปลี่ยนอุบัติเหตุธรรมดาให้กลายเป็นโศกนาฏกรรมถึงชีวิตได้ในพริบตา บทความนี้จะพาไปเจาะลึกถึงอันตรายที่ซ่อนอยู่ และไขข้อข้องใจว่าทำไมการ “ไม่คาดเข็มขัด” ถึงอันตรายยิ่งกว่า เมื่อมีอุปกรณ์ชิ้นนี้อยู่ในรถของคุณ Airbag และ เข็มขัดนิรภัย คู่หูที่ต้องทำงานร่วมกัน ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าระบบความปลอดภัยในรถยนต์สมัยใหม่ถูกออกแบบมาให้ทำงานประสานกัน โดยเฉพาะ ถุงลมนิรภัย (Airbag) และ เข็มขัดนิรภัย (Seatbelt) ระบบทั้งสองนี้จะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อผู้ขับขี่และผู้โดยสาร “คาดเข็มขัดนิรภัย” เท่านั้น […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : ไข้ทับระดูมี 2 แบบ คือแบบที่ไม่มีโรคแอบแฝงและแบบที่มีสภาวะโรคแอบแฝง จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์แชร์ข้อความเกี่ยวกับ “ไข้ทับระดู” ว่ามี 2 แบบ คือแบบที่ไม่มีโรคแอบแฝงและแบบที่มีสภาวะโรคแอบแฝง จริงหรือ ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ นพ.พูนศักดิ์ สุชนวณิช สูตินรีแพทย์ ไข้ทับระดู (Period Flu) คือคำที่ใช้เรียกอาการป่วยของผู้หญิงในช่วงมีประจำเดือน (มีประจำเดือนแล้วมีไข้) คล้ายกับกลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน (Premenstrual Syndrome : PMS) ซึ่งเป็นได้ทั้งอาการทางร่างกายและจิตใจ เช่น  มีไข้ หนาวสั่น เจ็บเต้านม เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามตัว ท้องอืด อ่อนเพลีย หรืออารมณ์แปรปรวน อาการมีไข้ “หลัง” มีประจำเดือน (มีประจำเดือนแล้วมีไข้) เรียกว่า ไข้ทับระดู ถ้ามีไข้ “ก่อน” มีประจำเดือน (มีไข้แล้วมีประจำเดือน) เรียกว่า ระดูทับไข้ ไข้ทับระดูที่พบมี 2 แบบ คือ ไข้ทับระดูที่ไม่มีสภาวะอื่นแอบแฝง และไข้ทับระดูที่มีสภาวะโรคแอบแฝง ไข้ทับระดู “ที่ไม่มีสภาวะอื่นแอบแฝง” คืออะไร ? […]

ชัวร์ก่อนแชร์: ฉีดโบท็อกซ์ เสี่ยงมะเร็ง จริงหรือ?

24 กรกฎาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลน่าสงสัย : มีความกังวลใจเกี่ยวกับการเสริมความงามและความเสี่ยงมะเร็ง เมื่อมีความเชื่อว่าการฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดการหย่อนคล้อยบนใบหน้าเพิ่มความเสี่ยงมะเร็ง เนื่องจากเป็นสารที่สกัดจากพิษของแบคทีเรีย และการฉีดเพื่อให้กล้ามเนื้อบนใบหน้าเป็นอัมพาต ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องจนนำไปสู่มะเร็ง บทสรุป : 1.ไม่มีหลักฐานว่าการฉีดโบท็อกซ์ก่อให้เกิดมะเร็ง2.โบท็อกซ์ทางการแพทย์มีความปลอดภัยสูง3.ผลเสียจากโบท็อกซ์มาจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : โบท็อกซ์ เป็นชื่อการค้าของสาร โบทูลินัม ท็อกซิน (Botulinum Toxin) สารสกัดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม แบ่งได้ 7 ชนิดได้แก่ โบทูลินัม ท็อกซิน เอ ถึง จี โบท็อกซ์เพื่อการรักษา โบทูลินัม ท็อกซิน หรือ โบท็อกซ์ ถูกนำมาใช้ทางการแพทย์เพื่อรักษาหลากหลายอาการ ทั้งการรักษาภาวะทางระบบประสาท เช่น ภาวะกล้ามเนื้อบิดเกร็ง (Dystonia) และภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง (Spasticity) ใช้รักษาการปวดไมเกรน อาการคอบิดเกร็ง […]

ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : ไขมันพอกตับเพราะกินหวาน ออกกำลังกายก็ไม่หาย จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์แชร์บทความเตือนว่า “ไขมันพอกตับคนไทยเป็นกันมาก ไม่ใช่เฉพาะดื่มเหล้าเท่านั้น กินอาหารที่มีน้ำตาลและรสหวานทั้งหลาย ออกกำลังกายก็ไม่ช่วย” จริงหรือ ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ รศ.ดร.วันทนีย์ เกรียงสินยศ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล “ไขมันพอกตับ” ไม่ได้เกิดมาจากการดื่มแอลกอฮอล์เพียงอย่างเดียว แต่การกินอาหารคาร์โบไฮเดรตกลุ่มข้าวแป้งมาก ๆ โดยเฉพาะ “น้ำตาล” จะทำให้ได้พลังงานที่มากเกิน ตับก็จะสร้างพลังงานที่มากเกินนั้นเป็นไขมัน ซึ่งตอนแรกไขมันก็จะเก็บสะสมอยู่ที่ตับ แล้วต่อไปก็จะทำให้เซลล์ของตับมีการเสื่อมเสียไป อาจจะส่งผลต่อเอนไซม์ของตับสูงขึ้นและเกิดภาวะของตับอักเสบ ไขมันพอกตับเป็นสัญญาณของโรคหัวใจและหลอดเลือด ? ไขมันพอกตับมีส่วนสัมพันธ์กับความเสี่ยงต่อการเป็นโรคระบบหัวใจและหลอดเลือดมากขึ้นอยู่แล้ว นอกจากนี้ ไขมันพอกตับมีความสัมพันธ์กับโรคเบาหวาน หรือภาวะเมตาบอลิกที่ผิดปกติไป ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือ มีภาวะของน้ำหนักตัวเกิน และอ้วน ก็จะพบมากขึ้นโดยที่คนกลุ่มเหล่านั้นไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์ ไขมันพอกตับมาจากน้ำตาลฟรักโทส หรือน้ำตาลอุตสาหกรรม ? ไฮฟรักโทสคอร์นไซรัป (High-fructose corn syrup : HFCS) จะให้ความหวานที่มากกว่าและราคาถูกกว่า ดังนั้นจึงมีการใช้กันมาก และในบางผลิตภัณฑ์ไม่ได้เขียนว่าเป็นน้ำตาล ทำให้เข้าใจผิด เพราะคิดว่าไม่มีน้ำตาลจึงกินเข้าไปปริมาณมากเกิน มีการศึกษาที่พยายามจะตอบว่า High-Fructose Corn Syrup ทำให้มีไขมันพอกตับมากกว่าน้ำตาลอย่างอื่นหรือไม่ อย่างเช่นน้ำตาลทรายทั่วไป โดยส่วนใหญ่พบว่าไปสัมพันธ์กับการได้พลังงานที่มากเกินไป […]

1 2 3 4 5 6 309
...