ชัวร์ก่อนแชร์: อสุจิชายทั่วโลกจะเป็น 0 ในปี 2050 จริงหรือ?

28 กุมภาพันธ์ 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีข้อมูลสร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสุขภาวะทางเพศชายเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ เมื่อมีการอ้างว่าปริมาณอสุจิของชายทั่วโลกจะหมดไปในปี 2050 หลังมีงานวิจัยที่พบว่าปริมาณอสุจิของผู้ชายลดลงจาก 50 ปีที่แล้วถึง 62% บทสรุป : FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : ข้ออ้างดังกล่าว นำมาจากงานวิจัยปี 2023 เผยแพร่ทางวารสาร Human Reproduction Update เป็นการวิเคราะห์อภิมานและการปริทัศน์อย่างเป็นระบบเกี่ยวกับการสำรวจปริมาณอสุจิของเพศชายตั้งแต่ปี 1973-2018 จากตัวอย่าง 14,000 ตัวอย่าง ผลสำรวจพบว่าค่าเฉลี่ยจำนวนอสุจิทั้งหมด (Total Sperm Count) ของผู้ชายในทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป และออสเตรเลียเมื่อปี 1973 อยู่ที่ 335.7 ตัว ส่วนค่าเฉลี่ยจำนวนอสุจิทั้งหมดของผู้ชายในทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป และออสเตรเลียเมื่อปี 2018 อยู่ที่ 126.6 ตัว […]

ชัวร์ก่อนแชร์ Motor Check FACTSHEET : รู้จักแคทตาไลติกของรถยนต์

25 กุมภาพันธ์ 2568 – ตามที่มีการแชร์ข้อสงสัยเกี่ยวกับแคทตาไลติกของรถยนต์ว่า คืออะไร รูปร่างหน้าตาเป็นแบบไหน มีหน้าที่และมีความสำคัญอย่างไรกับรถยนต์ของเราบ้าง ? ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับ สุรมิส เจริญงาม นักทดสอบและผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยียานยนต์ สัมภาษณ์เมื่อ 27 พฤศจิกายน 2567 ตัวแปลงไอเสียคืออะไร ท่อแคทตาไลติก (Catalytic Converter) หรือตัวแปลงไอเสียเป็นตัวกรองที่ช่วยลดมลภาวะ มันตั้งอยู่หลังจากที่ไอเสียจากกระบอกสูบทั้งหมดรวมกัน ตัวแปลงไอเสียทำงานอย่างไร มันถูกออกแบบมาเพื่อให้เครื่องยนต์เผาไหม้ก๊าซ ก๊าซจากเครื่องยนต์ผ่านปฏิกิริยาในตัวแปลงไอเสีย ทำให้ความเป็นพิษลดลง อายุการใช้งาน หากได้รับการบำรุงรักษาอย่างถูกต้อง สามารถใช้งานได้นานกว่า 200,000 กม. การบำรุงรักษา การบำรุงรักษาระบบเครื่องยนต์ทั้งหมดสามารถยืดอายุการใช้งานของตัวแปลงไอเสียได้ การทำความสะอาด แทนที่จะถอดตัวแปลงไอเสียที่อุดตันออก สามารถทำความสะอาดได้ด้วยน้ำยาทำความสะอาดพิเศษ อันตรายจากการถอดออก การถอดออกเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและอาจส่งผลต่อสุขภาพของผู้โดยสารในรถยนต์ ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย : ณัฐพล อินทร์สวัสดิ์เรียบเรียงโดย : ชยานิษฐ์ ผ่องใส

ชัวร์ก่อนแชร์: หยุดหลั่งอสุจิ 7 วันเพิ่มฮอร์โมนเพศชาย จริงหรือ?

26 กุมภาพันธ์ 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับสุขภาวะทางเพศชายเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ เมื่อความเชื่อว่าการละเว้นจากกิจกรรมทางเพศเพื่อป้องกันการหลั่งอสุจิเป็นเวลา 7 วัน จะช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมน Testosterone ฮอร์โมนเพศชายที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อในร่างกายได้ถึง 45% บทสรุป : FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : Semen Retention หรือความเชื่อเรื่องประโยชน์ต่อสุขภาพจากการละเว้นจากการหลั่งน้ำอสุจิ ถือเป็นหนึ่งข้อมูลเท็จเกี่ยวกับสุขภาพของเพศชายที่เผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตอย่างแพร่หลายมากที่สุด ตามการสำรวจในงานวิจัยที่เผยแพร่ทางวารสาร International Journal of Impotence Research เมื่อปี 2022 โดยพบว่าเป็นความเชื่อที่แพร่หลายในกลุ่มชายที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยม ในสหรัฐอเมริกายังมีกระแสทางออนไลน์ที่เรียกว่า Nofap ซึ่งเผยแพร่มาจากกระทู้ในเว็บไซต์ Reddit เมื่อปี 2011 โดยรณรงค์ให้ผู้ชายละเว้นจากการสำเร็จความใคร่เป็นเวลา 90 วัน จุดประสงค์เพื่อช่วยให้ผู้ชายบำบัดอาการเสพติดการดูหนังผู้ใหญ่มากเกินไป ก่อนจะขยายผลเป็นการละเว้นการหลั่งอสุจิเพื่อสุขภาพ โดยอ้างว่าจะเป็นการเพิ่มระดับฮอร์โมน Testosterone หนึ่งในข้ออ้างคือการอ้างอิงงานวิจัยปี 2003 ซึ่งเปรียบเทียบระดับฮอร์โมน […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : 4 วิธี ทำให้เลือดสมดุลมากขึ้น จริงหรือ ?

23 กุมภาพันธ์ 2568 – บนโซเชียลมีการแชร์แนะนำ 4 วิธี ที่ทำให้เลือดสมดุลมากขึ้นทำให้ค่า PH อยู่ในเกณฑ์ปกติ เลือดไหลเวียนดี และช่วยให้ร่างกายแข็งแรง มีตั้งแต่ ลดความเครียดพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงสารเสพติด หรืออาหารหวานหรือมัน และดื่มน้ำให้มาก หืม ! ชัวร์เหรอ ? ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับ รศ.ภก.ดร.บดินทร์ ติวสุวรรณ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สัมภาษณ์เมื่อ 4 ธันวาคม 2567 4 วิธีที่แชร์กันในโซเชียลมีเดีย ความเครียดกับความเป็นกรดในเลือด ความเครียดไม่ได้ทำให้เลือดเป็นกรดโดยตรง แต่ความเครียดอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อสมดุลนี้ได้ การนอนหลับกับการรักษาสมดุล การนอนดึกไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อสมดุลกรดด่างในเลือด แต่การพักผ่อนไม่เพียงพออาจส่งผลต่อภูมิคุ้มกันและสุขภาพโดยรวม ซึ่งอาจส่งผลกระทบทางอ้อมต่อการควบคุมความเป็นกรดด่าง อาหารและเครื่องดื่ม การบริโภคอาหารและเครื่องดื่มต่าง ๆ จะผ่านระบบย่อยอาหารและถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด ร่างกายจะควบคุมให้เลือดมีค่า pH ที่เหมาะสม (7.4) ไม่ว่าเราจะกินอาหารที่เป็นกรดหรือด่าง การดื่มน้ำ การดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญต่อการทำงานของระบบไหลเวียนเลือดและหัวใจ ซึ่งอาจส่งผลทางอ้อมต่อภาวะความเป็นกรดด่างของเลือดได้ น้ำด่าง […]

ปัจจัยองคชาตไม่แข็งตัว

24 กุมภาพันธ์ 2568แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ปัญหาองคชาตไม่แข็งตัวหรือภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction หรือ ED) เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อเพศชายทั่วโลก ข้อมูลการสำรวจในสหรัฐฯ พบว่า มีชายชาวอเมริกันอายุมากกว่า 20 ปีประมาณ 18-30 ล้านราย ที่ประสบปัญหาอวัยวะเพศชายไม่แข็งตัวจากปัจจัยต่าง ๆ ปัจจัยจากความผิดปกติทางกาย ปัจจัยทางกายที่ส่งผลต่อการแข็งตัวขององคชาต คือปัญหาการไหลเวียนของเลือดที่รู้จักในชื่อภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) เมื่อหลอดเลือดแดงตีบตันจากการจับตัวของไขมันที่ผนังหลอดเลือด ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะต่าง ๆ ทำได้ไม่ดี เช่นเดียวกับอวัยวะเพศ ดังนั้นภาวะไขมันในเลือดสูงขัดขวางการแข็งตัวขององคชาต โดยสาเหตุมาจากภาวะไขมันในเลือดสูงและภาวะโรคอ้วน อีกปัจจัยทางกายได้แก่ความไม่สมดุลของระดับฮอร์โมน การลดลงของฮอร์โมนเพศชายชนิด Testosterone เพิ่มโอกาสการเกิดภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ปัจจัยจากความผิดปกติทางจิตใจ ปัจจัยด้านจิตใจที่ส่งผลต่อการแข็งตัวขององคชาตคือความเครียดและความกังวล ซึ่งขัดขวางการส่งสัญญาณจากสมองไปกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดไปยังองคชาต นำไปสู่ปัญหาอวัยวะเพศไม่แข็งตัวเช่นกัน ข้อมูลจากเว็บไซต์ Healthline.com พบว่า ปัญหาอวัยวะเพศไม่แข็งตัวจากความเครียดและความกังวลสามารถพบได้ในชายทุกช่วงวัย โดยมีปัจจัยที่แตกต่างกันดังนี้ ปัญหาอวัยวะเพศไม่แข็งตัวในวัยรุ่นและคนหนุ่ม 90% เกิดจากความเครียดและความกังวล ส่วนใหญ่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นชั่วคราว ปัญหาอวัยวะเพศไม่แข็งตัวในชายวัยกลางคน ส่วนหนึ่งมาจากความเครียดจากการทำงานและปัญหาส่วนบุคคล ปัญหาอวัยวะเพศไม่แข็งตัวในชายสูงวัย มักเกิดจากการความเสื่อมถอยทางกายเป็นหลัก […]

ชัวร์ก่อนแชร์: ใช้ Hydrogen Peroxide ทาผิวรักษามะเร็ง จริงหรือ?

22 กุมภาพันธ์ 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการบำบัดผู้ป่วยมะเร็งเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ เมื่อมีการแชร์คลิปวิดีโออ้างว่า สาร Hydrogen Peroxide ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นยาฆ่าเชื้อโรค หากนำมาทาที่ผิวหนัง Hydrogen Peroxide จะแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายไปทำลายเนื้อเยื่อของก้อนเนื้อร้าย และสามารถรักษามะเร็งให้หายขาดได้ บทสรุป : FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : บุคคลที่กล่าวอ้างได้แก่ ชาร์ลอต เกอร์สัน บุตรสาวผู้ล่วงลับของ แม็กซ์ เกอร์สัน แพทย์เจ้าของแนวคิด Gerson therapy ที่ใช้การแพทย์ทางเลือกบำบัดผู้ป่วยมะเร็ง ซึ่งได้รับการยืนยันในภายหลังว่าไม่ได้ผลและยังเป็นอันตรายต่อผู้ป่วย Hydrogen Peroxide เป็นสารเคมีที่นำไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งใช้เป็นน้ำยาฟอกขาว สารฟอกสี น้ำยาฆ่าเชื้อ น้ำยาบ้วนปาก ฯลฯ อย่างไรก็ดี ไม่มีหลักฐานว่า การทา Hydrogen Peroxide บนผิวหนังจะสามารถทำลายเนื้อเยื่อของก้อนเนื้อร้ายตามที่กล่าวอ้าง สถาบันโรคมะเร็งสหรัฐฯ […]

ชัวร์ก่อนแชร์: สาร Selenium ใช้เพื่อรักษามะเร็ง จริงหรือ?

21 กุมภาพันธ์ 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการบำบัดผู้ป่วยมะเร็งเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ เมื่อมีคลิปวิดีโออ้างว่า สาร Selenium ซึ่งพบในอาหารทั่วไป มีประโยชน์ในการรักษามะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก แต่เหตุที่ไม่มีการศึกษาวิจัยในวงกว้าง เนื่องจากเป็นสิ่งที่หาได้ในธรรมชาติ จึงไม่สร้างกำไรให้กับบริษัทผู้ผลิตยานั่นเอง บทสรุป : FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : Selenium เป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย พบในอาหารหลายชนิด เช่น อาหารทะเล เนื้อไก่ เนื้อวัว ถั่ว และธัญพืช ศูนย์การแพทย์ Memorial Sloan Kettering Cancer Centre (MSKCC) แนะนำว่า ในแต่ละวันควรรับแร่ธาตุ Selenium ในปริมาณ 55 ไมโครกรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่หาได้จากแหล่งอาหารทั่วไป โดยระดับสูงสุดที่ร่างกายรับได้ควรไม่เกิน 400 ไมโครกรัมต่อวัน หากรับแร่ธาตุ […]

ชัวร์ก่อนแชร์: Fenbendazole ยาฆ่าพยาธิรักษามะเร็งได้ จริงหรือ?

19 กุมภาพันธ์ 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีข้อมูลสร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับประสิทธิผลการบำบัดผู้ป่วยมะเร็งด้วยยาฆ่าพยาธิเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ โดยอ้างว่า Fenbendazole ยารักษาปรสิตในสัตว์ ได้รับการกล่าวอ้างถึงประสิทธิผลด้านการรักษาผู้ป่วยมะเร็ง ทั้งการยืนยันโดย เมล กิบสัน นักแสดงฮอลลีวูด ที่ให้สัมภาษณ์ในรายการ The Joe Rogan Experience และการเผยแพร่เรื่องราวของ โจ ทิปเพนส์ ชาวอเมริกันที่อ้างว่าหายจากมะเร็งปอดจากการใช้ยา Fenbendazole นอกจากนี้ ยังมีการอ้างว่า สาเหตุที่ยารักษาปรสิตใช้ได้ดีในการรักษาผู้ป่วยมะเร็ง เนื่องจากเซลล์มะเร็งก็คือปรสิตที่อยู่ในร่างกายมนุษย์นั่นเอง บทสรุป : 1.Fenbendazole ใช้รักษาโรคจากปรสิตในสัตว์เท่านั้น2.มีการทดลองใช้ Fenbendazole รักษามะเร็งในหลอดทดลองและสัตว์ทดลอง2.แต่ยังไม่มีการทดลองใช้ Fenbendazole รักษามะเร็งในมนุษย์ FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : ความเหมือนและแตกต่างระหว่างปรสิตและเซลล์มะเร็ง ปรสิตและเซลล์มะเร็งต่างพึ่งพาแหล่งอาหารจากร่างกายของ Host เพื่อใช้ในการเติบโตหรือการแบ่งตัวเหมือนกันทั้งคู่ และยังสามารถต้านทานการตอบสนองต่อระบบภูมิคุ้มกันของ Host ได้เช่นกัน แต่ปรสิตไม่ถือเป็นส่วนเดียวกับร่างกายของ […]

ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : ภาวะรูม่านตา 2 ข้างไม่เท่ากัน

16 กุมภาพันธ์ 2568 รูม่านตาไม่เท่ากัน ภาวะที่เรามองเห็นตรงกลางตาดำที่มีขนาดไม่เท่ากันของตา 2 ข้าง เกิดได้จากสาเหตุใด อันตรายหรือไม่ ต่อไปนี้คือข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ 🎯 ตรวจสอบกับ รศ.นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ ประธานวิชาการ ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย สัมภาษณ์เมื่อ 28 มกราคม 2568 ภาวะรูม่านตา 2 ข้างไม่เท่ากัน Anisocoria เป็นภาวะที่รูม่านตาของทั้งสองข้างมีขนาดไม่เท่ากัน อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ความแตกต่างตามปกติ ยา และภาวะทางการแพทย์ที่อยู่เบื้องหลัง หากคุณสังเกตว่ารูม่านตาของคุณมีขนาดไม่เท่ากัน เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่ร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้น Anisocoria สามารถเกิดขึ้นได้ในคนทุกวัย แต่พบได้บ่อยในเด็กทารกและเด็กเล็ก ในบางกรณี Anisocoria อาจเป็นสัญญาณของภาวะที่ร้ายแรง เช่น มะเร็งสมอง หรือเส้นเลือดในสมองแตก สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของ Anisocoria คือ ความแตกต่างตามปกติ ซึ่งหมายความว่ารูม่านตาของทั้งสองข้างมีขนาดแตกต่างกันเล็กน้อย แต่ไม่มากพอที่จะก่อให้เกิดปัญหา สาเหตุอื่นๆ ของ Anisocoria ได้แก่: หากคุณสังเกตว่ารูม่านตาของคุณมีขนาดไม่เท่ากัน ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่เป็นไปได้ แพทย์จะทำการตรวจตาและอาจสั่งการตรวจเพิ่มเติม เช่น […]

ชัวร์ก่อนแชร์: Ivermectin ถูกปิดบังเรื่องการรักษามะเร็ง จริงหรือ?

17 กุมภาพันธ์ 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีข้อมูลสร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับประสิทธิผลการบำบัดผู้ป่วยมะเร็งด้วยยาฆ่าพยาธิเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ โดยอ้างว่า Ivermectin ยารักษาปรสิตทั้งในคนและสัตว์ ได้รับการยืนยันว่ามีประสิทธิผลการรักษามะเร็งดีกว่าการใช้เคมีบำบัด ซึ่งเหตุผลที่วงการแพทย์ไม่สนับสนุนให้ใช้รักษาผู้ป่วยมะเร็งเพราะเป็นยาที่หาง่ายและราคาถูก จึงไม่สร้างกำไรให้กับวงการแพทย์ บทสรุป : 1.มีการทดลองใช้ Ivermectin รักษามะเร็งในหลอดทดลองและสัตว์ทดลอง2.แต่ยังไม่มีการทดลองใช้ Ivermectin รักษามะเร็งในมนุษย์ FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : Ivermectin เป็นยาที่ใช้รักษาอาการป่วยจากปรสิต เช่น ปรสิตในลำไส้ของสัตว์ หรือโรคจากพยาธิเส้นด้ายหรือโรคหิดที่เกิดในมนุษย์ กระบวนการทำงานของยา Ivermectin เพื่อการแทรกแซงระบบประสาทและกล้ามเนื้อของปรสิต ทำให้ปรสิตเป็นอัมพาตและตายในที่สุด ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีการเผยแพร่ข่าวปลอมเรื่องประสิทธิผลในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ด้วยยา Ivermectin แม้จะมีการยืนยันในภายหลังว่าการใช้ยา Ivermectin ไม่มีประโยชน์ต่อการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 แต่อย่างใด แต่กระนั้นการใช้ยา Ivermectin เพื่อทดลองยับยั้งการเติบโตและการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง กำลังได้รับความสนใจในวงการแพทย์อย่างสูง งานวิจัยปี 2014 ซึ่งเป็นการทดลองกับเซลล์เพาะเลี้ยงพบว่ายา Ivermectin […]

ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : ต้อหินในคนอายุน้อย

14 กุมภาพันธ์ 2568 ต้อหินปัญหาทางดวงตาที่มักเกิดขึ้นในผู้สูงวัย สามารถเกิดกับคนอายุน้อยได้หรือไม่ และสาเหตุการเกิดต้อหินในคนอายุน้อยคืออะไร ต่อไปนี้คือข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ 🎯 ตรวจสอบกับ รศ.นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ ประธานวิชาการ ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย สัมภาษณ์เมื่อ 28 มกราคม 2568 ต้อหิน เป็นโรคเรื้อรังที่ส่งผลต่อเส้นประสาทตาและอาจนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นหากไม่ได้รับการรักษา เป็นสาเหตุหลักของการตาบอดในผู้ใหญ่ในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก ต้อหินเกิดขึ้นเมื่อความดันในลูกตาสูงเกินไป ความดันนี้เรียกว่าความดันภายในลูกตา (IOP) ความดันภายในลูกตาที่เพิ่มขึ้นสามารถทำลายเส้นประสาทตา ซึ่งเป็นเส้นประสาทที่ส่งข้อมูลภาพจากดวงตาไปยังสมอง มีหลายสาเหตุที่ทำให้เกิดต้อหิน สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือการผลิตน้ำหล่อเลี้ยงในดวงตามากเกินไปหรือการระบายน้ำหล่อเลี้ยงออกจากดวงตาไม่ดีพอ สาเหตุอื่น ๆ ได้แก่: ต้อหินมักไม่มีอาการในระยะเริ่มต้น อาการแรกที่คุณอาจสังเกตเห็นคือการมองเห็นภาพพร่ามัวหรือมองเห็นภาพรอบข้างไม่ชัดเจน หากคุณสังเกตเห็นอาการเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์ทันที การรักษาต้อหินมุ่งเน้นไปที่การลดความดันภายในลูกตา วิธีการรักษา ได้แก่: การตรวจตาเป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นต้อหิน การตรวจตาสามารถช่วยตรวจหาต้อหินในระยะเริ่มต้น ซึ่งช่วยให้สามารถเริ่มการรักษาได้ทันท่วงทีและป้องกันการสูญเสียการมองเห็น ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย : พีรพล อนุตรโสตถิ์เรียบเรียงโดย : ชยานิษฐ์ ผ่องใส

ชัวร์ก่อนแชร์: พบฝุ่นแม่เหล็กจาก Chemtrail ในสิ่งแวดล้อม จริงหรือ?

14 กุมภาพันธ์ 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับเมฆหางเครื่องบินหรือ Contrail เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ โดยอ้างว่าปรากฏการณ์ฝุ่นที่ลอยปกคลุมพื้นที่บางส่วนของสหราชอาณาจักรเมื่อเดือนกันยายนปี 2023 คือหลักฐานที่เชื่อว่ามีการจงใจเผยแพร่สารเคมีในชั้นบรรยากาศหรือ Chemtrail เมื่อพบว่าฝุ่นผงที่พบมีลักษณะเป็นแม่เหล็กซึ่งไม่น่าจะพบในธรรมชาติ บทสรุป : 1.สารเคมีหรือ Chemtrail จากไอพ่นเครื่องบินไม่มีจริง2.ฝุ่นแม่เหล็กมีที่มาจากทะเลทรายสะฮารา FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : จากการยืนยันโดยผู้เชี่ยวชาญพบว่า ฝุ่นผงที่พบในสหราชอาณาจักรไม่ใช่ Chemtrail ตามที่กล่าวอ้าง แต่เป็นฝุ่นผงที่พัดมาจากทะเลทรายสะฮารา ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของทวีปแอฟริกา ที่พัดมายังพื้นที่ในหลายประเทศของทวีปยุโรปช่วงฤดูร้อนของปี 2023 ศาสตราจารย์ บาร์บารา มาเฮอร์ ผู้อำนวยการศูนย์เพื่อสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยแลนคาสเตอร์ อธิบายว่า ฝุ่นผงที่ถูกพัดมาจากทะเลทรายสะฮารา ประกอบไปด้วยแร่ธาตุที่พบในทะเลทราย รวมถึงมลพิษทางอากาศที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ ปัจจัยที่ทำให้ฝุ่นผงจากทะเลทรายสะฮารามีลักษณะเป็นแม่เหล็ก เนื่องจากมีส่วนประกอบหลักเป็นฮีมาไทต์ สินแร่เหล็กที่มีสีแดงเข้ม ซึ่งพบได้แพร่หลายในทะเลทรายสะฮารา โดยเป็นสินแร่ที่มีลักษณะเป็นแม่เหล็กอ่อน ๆ นั่นเอง ข้อมูลอ้างอิง : […]

1 17 18 19 20 21 299
...