ชัวร์ก่อนแชร์ : ความดันเลือดสูง “กินยา” หรือ “เปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ” ?

Screenshot

ความดันเลือดสูง (Hypertension) ตรวจพบได้จากการวัดความดันเลือด เป็นโรคที่คนทั่วไปเรียกสั้น ๆ ว่า “โรคความดัน” หมายถึงมีค่าความดันเลือดสูงกว่าปกติ (เท่ากับหรือมากกว่า 140/90 มม.ปรอท) ซึ่งในภาวะปกติระดับความดันเลือดควรจะน้อยกว่า 120/80 มม.ปรอท

ค่าความดันเลือด คืออะไร ?


การทำงานของหัวใจเพื่อให้ส่งเลือดออกไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายนั้น หัวใจจะต้องบีบตัวขับเลือดออกไป และคลายตัวเพื่อรับเลือดเข้ามาในหัวใจ จึงเกิดการบีบสลับกับการคลายตัวของหัวใจ ทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย การบีบสลับการคลายตัวของหัวใจจึงปรากฏตัวเลข “ค่าความดันเลือดตัวบน” และ “ค่าความดันเลือดตัวล่าง”

1. ความดันเลือดตัวบน (Systolic blood pressure : SBP)ความดันเลือดในหลอดเลือดที่เกิดขึ้นขณะหัวใจบีบตัว


2. ความดันเลือดตัวล่าง (Diastolic blood pressure : DBP) ค่าความดันของเลือดขณะที่หัวใจคลายตัว

“ค่าความดันเลือดปกติที่เหมาะสม” คือ ตัวบนไม่เกิน 120 มม.ปรอท และตัวล่างไม่เกิน 80 มม.ปรอท มีค่าความดันที่ควรให้ความสนใจ ดังนี้

ความดันเลือดปกติ คือ 120-129 และ/หรือ 80-84


ความดันเลือดสูงกว่าเกณฑ์ปกติ แต่ยังไม่เป็นโรคความดันเลือดสูง 130-139 และ/หรือ 85-89

โรคความดันเลือดสูง ระดับที่ 1 คือ 140-159 และ/หรือ 90-99

โรคความดันเลือดสูง ระดับที่ 2 คือ 160-179 และ/หรือ 100-109

โรคความดันเลือดสูง ระดับที่ 3 มากกว่าหรือเท่ากับ 180 และ/หรือ มากกว่าหรือเท่ากับ 100

ดังนั้น การวัดค่าความดันเลือดเพียงครั้งเดียวยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นโรคความดันเลือดสูง แพทย์จะต้องให้นั่งพักประมาณ 5-10 นาที จนหายเหนื่อยแล้ววัดความดันเลือด จำเป็นต้องวัดซ้ำ 2-3 ครั้ง เพราะมีปัจจัยหลายอย่างกระทบค่าความดันเลือดได้ง่าย เช่น ความเหนื่อย ความเครียด วิตกกังวล อดหลับอดนอน

คนส่วนใหญ่ “ไม่รู้ตัว” ว่าเป็นโรคความดันเลือดสูง ?

พบผู้ป่วยโรคความดันเลือดสูงในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนใหญ่ไม่รู้ตัวว่ามีความดันเลือดสูง แต่มีเพียง 1 ใน 4 ของผู้ป่วยความดันเลือดสูงเท่านั้นที่รู้ตัว

นอกจากนี้ ผู้ที่รู้ตัวและเข้ารับการรักษาโรคความดันเลือดสูงนี้ สามารถควบคุมระดับความดันเลือดให้กลับมาเป็นปกติได้เพียงครึ่งหนึ่งของผู้ที่รักษาทั้งหมด

ถ้าระดับความดันเลือดสูงอยู่เป็นระยะเวลานาน ๆ จะทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้แย่ลง และเกิดความเสื่อมของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น สมอง หัวใจ ตา และไต เป็นต้น ทำให้เกิดโรคไตวายได้ หรืออาจทำให้เกิดการตีบตันหรือแตกของหลอดเลือด มีเลือดออกในสมอง เป็นอัมพาต หรือเลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่พอเป็นโรคหลอดเลือดของหัวใจตีบตัน

เมื่อรู้ว่าตนเองเป็นโรคความดันเลือดสูง จึงควรดูแลรักษาควบคุมระดับความดันเลือดให้อยู่ในระดับปกติ (ต่ำกว่า 140/90 มม.ปรอท)

การดูแลและรักษาโรคความดันเลือดสูง ?

ทางเลือกการดูแลรักษาโรคความดันเลือดสูง แบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก คือ ควบคุมความดันเลือดด้วยการใช้ยา และเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ (ไม่ใช้ยา)

ยารักษาโรคความดันเลือดสูง มีหลายชนิด หลายกลุ่ม การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับสภาวะสุขภาพของผู้ป่วยแต่ละคน โดยได้รับการสั่งจ่ายยาจากแพทย์เท่านั้น ไม่ควรซื้อยากินเอง หรือกินยาตามเพื่อน ญาติ หรือคนรู้จัก ถึงแม้ว่าจะเป็นโรคเดียวกัน แต่สภาวะของโรคและระดับความรุนแรงก็แตกต่างกัน

ผู้ป่วยโรคความดันเลือดสูงควรกินยาอย่างต่อเนื่อง ไม่ควรหยุดยาเอง เพราะอาจทำให้อาการของโรคกลับมาลุกลามและอันตรายได้

นอกจากนี้ ถ้าใช้ยารักษาโรคอื่น ๆ อยู่ด้วย หรือใช้สมุนไพร แพทย์ทางเลือก ควรแจ้งให้แพทย์ที่ดูแลโรคนี้ทราบด้วย เพราะยาเหล่านี้อาจต้านฤทธิ์หรือเสริมฤทธิ์กัน ทำให้ไม่ได้ผลในการรักษา หรืออาจทำให้ระดับยาในร่างกายสูงขึ้นจนเกิดพิษได้

เปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ คือการรักษาโรคความดันเลือดสูงโดยไม่ใช้ยา

การปฏิบัติตัวของผู้ป่วยโรคความดันเลือดสูง มีความสำคัญมากไม่ยิ่งหย่อนกว่าการใช้ยา รวมทั้งยังช่วยเสริมฤทธิ์ของยาในการควบคุมความดันเลือดอย่างได้ผลดีอีกด้วย ซึ่งมีวิธีการง่าย ๆ ดังนี้

1. ลดน้ำหนัก ถ้าน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ความดันเลือดจะเพิ่มสูงขึ้นตาม ในทางตรงกันข้ามถ้าน้ำหนักตัวลดลง จะส่งผลดีช่วยลดระดับความดันเลือดได้ด้วย

2. ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม การออกกำลังกายแอโรบิกอย่างเหมาะสม (อย่าหักโหม) นานครั้งละ 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน จะช่วยเผาผลาญไขมัน ลดน้ำหนัก ลดความเครียด ลดความดันเลือดได้อย่างดี

3. ลดปริมาณเกลือในอาหาร กินอาหารปกติ ไม่เค็มจัด หลีกเลี่ยงการเติมเกลือ น้ำปลาหรือซอสปรุงรสเพิ่มเติม

4. เลิกบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด บุหรี่เป็นอันตรายระยะยาวทั้งต่อปอด หัวใจ และหลอดเลือด ซึ่งรวมถึงบุหรี่มือสองจากการสูบบุหรี่ของคนใกล้ตัวด้วย

5. ทำจิตใจให้แจ่มใส อย่าเครียดหรืออดนอน เรื่องจิตใจและอารมณ์เป็นปัจจัยหลักที่สำคัญต่อทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต

การปฏิบัติตัวเหล่านี้ ไม่จำเป็นต้องอยู่ในสภาวะของการมีระดับความดันเลือดสูงขั้นต้น แต่ทุกคนควรปฏิบัติลักษณะนี้

“พฤติกรรมสุขภาพ” เป็นเรื่องส่วนบุคคลที่ต้องลงมือทำด้วยตนเองด้วยการสนับสนุนจากคนใกล้ตัว ทำอย่างถูกต้องและต่อเนื่องย่อมส่งผลดีต่อสุขภาพ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก

1. https://ddc.moph.go.th/dncd/

2. https://www.doctor.or.th/article/detail/1776

3. https://www.thaihypertension.org/hypertensiondetail.php?n_id=296
4. https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/hypertension

18 พฤษภาคม 2568

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท

เขียนและเรียบเรียงโดย คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล

ดูเพิ่มเติมรายการ ชัวร์ก่อนแชร์ : ความดันโลหิตมาตรฐานคือ 150/90 สำหรับผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป จริงหรือ ?

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบเจ้าบ่าวลอบขนยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด

ปราจีนบุรี 17 พ.ค. – ตำรวจสกัดจับพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก กระสุนปืน 10 นัด รถกระบะ 1 คัน นาทีเจ้าหน้าที่สกัดจับนายธนธรรม หรือ เม่น เจ้าบ่าวซึ่งเพิ่งผ่านพิธีแต่งงานไปไม่นาน และเป็นหนึ่งในแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยจับกุมได้บริเวณถนนบ้านหนองหอย อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด, อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก, กระสุนปืน 10 นัด และรถกระบะ 1 คัน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยขบวนการนี้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากริมแม่น้ำโขง จ.อำนาจเจริญ มาซุกซ่อนไว้ที่บ้านในปราจีนบุรี เพื่อเตรียมกระจายไปยังพื้นที่ปทุมธานี เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวจนพบว่าจะมีการเดินทางไปยัง จ.อุบลราชธานี เพื่อรับยาเสพติด กระทั่งกลุ่มผู้ต้องหารู้ตัวว่าถูกสะกดรอย จึงเร่งความเร็วรถหลบหนี ก่อนพุ่งชนรถเจ้าหน้าที่ และถูกสกัดจับไว้ได้ ขณะที่รถยนต์ 2 […]

ไรเดอร์ชกเบ้าตาแตก ฉุนเมาปักหมุดมั่วแถมลวนลาม

พัทยา 17 พ.ค.- ไรเดอร์ฉุน ชกนักท่องเที่ยวชาวอินเดียจนเบ้าตาแตก พยานบอกผู้ก่อเหตุฉุนปักหมุดผิดทำขี่วนหลายรอบ แถมถูกลวนลามจึงทนไม่ไหว นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย อายุประมาณ 35-40 ปี นอนบาดเจ็บ คิ้วซ้ายและเบ้าตาซ้ายแตกเลือดอาบหน้าอยู่ในอาการมึนเมา เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงประมาณตี 1 วันนี้ ในซอยเทพประสิทธิ์ 17 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง แต่พลเมืองดีบันทึกภาพไว้ได้ จึงมอบให้ตำรวจเป็นหลักฐาน สอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโดฯ แห่งหนึ่งใกล้จุดเกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุเป็นไรเดอร์ส่งผู้โดยสาร และเล่าให้ตนฟังว่านักท่องเที่ยวคนนี้มึนเมาอย่างหนัก แถมปักหมุดสถานที่ส่งผิดที่ ผู้ก่อเหตุก็พยายามวนหาอยู่หลายครั้ง เท่านั้นยังไม่พอ ผู้บาดเจ็บได้ลวนลามผู้ก่อเหตุ จนผู้ก่อเหตุโมโหและจอดรถชกหน้าทันที ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บจะเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา หลังรักษาอาการบาดเจ็บแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ข่าวแนะนำ

สภาพัฒน์ฯ แถลง GDP ไตรมาส 1/68 โต 3.1% ขณะที่ทั้งปีหั่นเหลือ 1.8%

กรุงเทพฯ 19 พ.ค. – สภาพัฒน์ฯ แถลง GDP ไตรมาส 1/68 โต 3.1% ขณะที่ทั้งปีหั่นเหลือ 1.8% ชี้มองตามสถานการณ์จริงไม่ได้มองในแง่ร้ายเกินไป ลุ้นเงินดิจิทัลเฟส 3 – มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในวงประชุมวันนี้ พร้อมเตือนผู้ประกอบการฯ เตรียมรองรับความผันผวนทางการค้า ส่วนประชาชนใช้จ่ายให้มีความรอบคอบมากขึ้น นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงภาวะเศรษฐกิจไตรมาส 1/68 ขยายตัว 3.1% ต่อเนื่องจากร้อยละ 3.3 ในไตรมาส 4/2567 ปัจจัยหลักมาจากการผลิตภาคเอกชนชะลอลง ขณะที่ภาคเกษตรเร่งขึ้น ด้านการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคขั้นสุดท้ายของเอกชน และรัฐบาล การนำเข้าสินค้าและบริการ และการสะสมทุนถาวรเบื้องต้นชะลอลง ขณะที่การส่งออกสินค้าและบริการขยายตัวในเกณฑ์สูง 12.3% โดยเร่งขึ้น 11.5% จากไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม สภาพัฒน์ฯ ได้ปรับคาดการณ์ GDP ปี 68 ลงเหลือเติบโต 1.3-2.3% หรือช่วงกลางของคาดการณ์ที่ 1.8% […]

ผู้ต้องหา 2 รายสุดท้าย คดีตึก สตง.ถล่ม เข้ามอบตัว ยืนยันความบริสุทธิ์

สน.บางซื่อ 19 พ.ค. – บริษัท ว.และสหายฯ ผู้ต้องหาคดีตึก สตง. ถล่ม 2 รายสุดท้าย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สน.บางซื่อ ยังยืนยันในความบริสุทธิ์ เพราะดูแลแค่เรื่องของระบบไฟฟ้าและประปา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับโครงสร้างอาคาร นายพลเดช กรรมการบริษัท ว.และสหาย คอนซัลแตนส์ จำกัด และนางประณีต ในฐานะนิติบุคคล บริษัท ว.และสหาย คอนซัลแตนส์ จำกัด เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ หลังจากก่อนหน้านี้ตำรวจได้ออกหมายจับ 17 หมายจับ และผู้ต้องหาส่วนใหญ่ 15 ราย เดินทางเข้าพบตำรวจ ก่อนจะถูกนำตัวฝากขังต่อศาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงบริษัท ว.และสหาย คอนซัลแตนส์ จำกัด ที่ส่งทนายความขอเลื่อนเข้าพบมาเป็นวันนี้ (19 พ.ค.) เนื่องจากต้องการเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องเข้าให้ปากคำกับตำรวจ นายพลเดช เปิดเผยว่า ไม่กังวลว่าวันนี้อาจจะไม่ได้ประกันตัว และต้องเข้าเรือนจำ เพราะเป็นกระบวนการขั้นตอนของตำรวจ วันนี้มามอบตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ และได้นำเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมายืนยัน พร้อมต่อสู้คดี ขณะที่นางประณีต […]

ฆ่าดีเจเตเต้

รวบแล้ว 1 ผู้ต้องสงสัยอุ้มฆ่า “ดีเจเตเต้”

19 พ.ค. – รวบแล้ว 1 ผู้ต้องสงสัยอุ้มฆ่า “ดีเจเตเต้” คาดวันนี้ (19 พ.ค.) จะมีการออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการอีกอย่างน้อย 3 คน หลังวานนี้ (18 พ.ค.) พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกทิ้งกลางไร่อ้อยเมืองกาญจนบุรี ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบก่อนหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. วันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี หลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ออกมาอัดคลิปลงเฟซบุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชาย วานนี้ (18 พ.ค.) พบกลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อย เชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยเวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพชายอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยคนที่เจอศพคือน้าชายของนายกอล์ฟ ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ เป็นผู้ชายนอนตะแคง […]

อุตุฯ เผยไทยฝนลดลง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 19 พ.ค. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และด้านตะวันตกของประเทศไทย ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้ที่พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก มีกำลังอ่อนลง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย