กรุงเทพฯ 23 มี.ค.-เงินบาทแข็งค่ามาที่ระดับ 34.11-34.13 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ แข็งค่าอย่างรวดเร็ว เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 34.43 บาทต่อดอลลาร์ฯ
นส.กาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นตามภาพรวมของสกุลเงินเอเชีย ท่ามกลางแรงขายเงินดอลลาร์ฯ และการปรับตัวของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ หลังผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) 21-22 มี.ค. เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งแม้เฟดจะมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25 % มาที่ระดับ 4.75-5.00% และยังส่งสัญญาณกังวลแรงกดดันเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง แต่ผลการประชุมดังกล่าวก็เป็นไปตามที่ตลาดคาด ขณะที่ ภาพสะท้อนจาก dot plot ก็ตอกย้ำว่า เฟดอาจกำลังใกล้ที่จะยุติวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นในรอบนี้แล้ว
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ คาดไว้ที่ 34.05-34.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยคงต้องติดตามการตอบรับของตลาดต่อผลการประชุมเฟด พัฒนาการของปัญหาแบงก์ในสหรัฐฯ ผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ.
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า แนวโน้มค่าเงินบาท ในช่วงคืนที่ผ่านมา ค่าเงินบาทแข็งค่ามากกว่าที่คาด หากเกิดกรณีที่ เฟดขึ้นดอกเบี้ยตามคาด แต่ไม่ได้ปรับเปลี่ยนคาดการณ์ดอกเบี้ย หรือ Dot Plot มากนัก ซึ่งมองว่า ปัจจัยหนุนการแข็งค่าของเงินบาทมาจากทั้ง การอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ และโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ
“ความผันผวนของตลาดการเงินยังอยู่ในระดับสูง (ค่าเงินบาทผันผวนในระดับ 9%-10% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี ที่ผ่านมาที่ระดับ 5% เป็นอย่างมาก) ทำให้เรามองว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือทางการเงินที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และมองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.10-34.30 บาท/ดอลลาร์”นายพูน กล่าวว่า.-สำนักข่าวไทย