ชัวร์ก่อนแชร์ : ข้อดี-ข้อเสีย ของการกินเผ็ด จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์มีการแชร์บทความ “ข้อดี-ข้อเสีย ของการกินเผ็ด” ข้อดี : ช่วยให้เจริญอาหาร กระเพาะอาหารขยายตัว ลดอาการแสบร้อนในทางเดินอาหาร อายุยืนขึ้น เร่งกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย ต้านเชื้อแบคทีเรีย ป้องกัน/บรรเทาอาการเจ็บป่วย ข้อเสีย : ทำให้ปวดแสบร้อนในช่องปากและทางเดินอาหารและถ่ายอุจจาระบ่อยขึ้น ระคายเคืองต่อเยื่อบุต่าง ๆ ในร่างกาย เกิดการท้องเสีย อาจจะเกิดโรคกระเพาะอาหารและกรดไหลย้อน 🎯 ตรวจสอบกับ อาจารย์ นพ.อาลันณ์ จันท์จารุณี อาจารย์ประจำสาขาวิชาโรคทางเดินอาหารและตับ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล มีบางส่วนที่เป็นข้อเท็จจริงที่จริง แต่ว่าการกินเผ็ดก็อาจจะไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน การกินเผ็ด : “ข้อดี” ? ที่แชร์กัน 1. กินเผ็ดช่วยให้เจริญอาหาร จริง… แต่ไม่ได้เป็นสำหรับทุกคน เพราะคนที่ไม่ได้ชื่นชอบการกินอาหารเผ็ด กินแล้วไม่สบายช่องปาก ก็อาจทำให้การกินลดลงได้ 2. สารแคปไซซิน (capsaicin) ช่วยให้กระเพาะอาหารขยายตัวและรับอาหารได้นานขึ้น จริง… สารแคปไซซินจะทำให้กระเพาะอาหารทำงานได้นานขึ้น ผลิตน้ำย่อยที่มากขึ้น แต่ไม่จำเป็นต้องกินเพื่อให้กระเพาะอาหารขยายตัว 3. กินเผ็ดลดอาการแสบร้อนในทางเดินอาหาร เพราะร่างกายจะชินและทนได้มากขึ้น จริงบางส่วน… […]

ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : รสเผ็ด ในตำราแพทย์ (แผนไทย-แผนปัจจุบัน)

“รสเผ็ด” กินอย่างไร “เป็นยา” และ “มีประโยชน์หรือโทษ” ต้องกินอะไร “แก้เผ็ด” ได้ผล 🎯 มีคำอธิบายจากผู้เชี่ยวชาญ 1. ภกญ.ดร.ผกากรอง ขวัญข้าว หัวหน้าศูนย์หลักฐานเชิงประจักษ์ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จังหวัดปราจีนบุรี 2. อาจารย์ นพ.อาลันณ์ จันท์จารุณี อาจารย์ประจำสาขาวิชาโรคทางเดินอาหารและตับ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล  “แพทย์แผนไทย” กับรสเผ็ด ภกญ.ดร.ผกากรอง ขวัญข้าว กล่าวถึง “ความเผ็ดร้อน” ที่แพทย์แผนไทยเรียกว่า “รสยา” คำว่า “รส” แสดงถึงคุณสมบัติของตัวสมุนไพรที่ทำให้ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง คนโบราณเรียนรู้สรรพคุณของยาผ่านการ “ชิม” “รสเผ็ดร้อน” จะไปช่วยการไหลเวียนของเลือด และทำให้ลม ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ธาตุของร่างกายกระจายออกไปจากจุดกำเนิดได้ดีมากยิ่งขึ้น ลดอาการปวดและอาการชาลงได้ ความเผ็ดร้อนในทางการแพทย์แผนไทยบอกว่าไปเพิ่มไฟย่อย เพิ่มน้ำย่อย ทำให้รู้สึกอยากอาหารแล้วกินอาหารได้ดีขึ้น “อาหารรสเผ็ด” ปริมาณเท่าไหร่ที่มีความเหมาะสม ซึ่งแต่ละคนก็จะมีความสามารถทนรับความเผ็ดแตกต่างกัน ถ้ากินแล้วยังรู้สึกว่าปกติดี ไม่ได้แสบร้อนมากเกินไป ไม่มีท้องเสีย […]

ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : น้ำตาเทียม และวิธีการใช้งานที่ถูกต้อง

น้ำตาเทียมมีกี่ชนิด ชนิดไหนเหมาะกับใคร วิธีการใช้งานที่ถูกต้องเป็นอย่างไร 🎯 ตรวจสอบกับ ศาสตราจารย์วุฒิคุณ นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์  ประธานวิชาการ ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย ธรรมชาติของดวงตาคนเราจำเป็นต้องมี “น้ำ” หล่อเลี้ยงดวงตา ฉาบบริเวณผิวตาดำและตาขาวอยู่ตลอดเวลา เพื่อช่วยในการหักเหของแสงให้ดวงตาทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เห็นภาพชัดขึ้น ภาวะที่น้ำหล่อเลี้ยงลูกตาน้อยจะทำให้คนคนนั้นรู้สึกเคืองตา ตาแดง ตาแห้ง แก้ปัญหา “ตาแห้ง” ด้วยน้ำตาเทียม ปัจจุบันมีการใช้น้ำตาเทียมเพื่อแก้ปัญหาตาแห้ง โดยทั่วไป “น้ำตาเทียม” ไม่ค่อยมีผลข้างเคียงหรือเป็นอันตรายกับดวงตา จึงมีการนำน้ำตาเทียมมาใช้อย่างแพร่หลาย แต่ถ้ามีปัญหาเรื่องเคืองตา ฝืดตา ตาแห้งมาก แนะนำว่าครั้งแรกควรจะไปพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจว่าภาวะนั้นไม่ได้เกิดจากโรคตาอื่น ๆ แต่เป็นจากภาวะตาแห้งอย่างเดียว เพราะถ้าเกิดจากโรคต่าง ๆ จะได้รักษาที่ต้นเหตุอย่างเหมาะสม ภาวะ “ตาแห้ง” เกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง ผลจากการใช้คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือนานมากขึ้น รวมทั้งมลภาวะทางอากาศ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น PM2.5 ที่เกินค่ามาตรฐาน ก็จะยิ่งทำให้น้ำที่หล่อเลี้ยงลูกตาระเหยผิดปกติ อีกสาเหตุที่พบบ่อยคือการมีโรคประจำตัวหรือกินยาบางชนิด แต่มีผลข้างเคียงทำให้น้ำหล่อเลี้ยงลูกตาน้อยลง ประเภทของน้ำตาเทียม “น้ำตาเทียม” แบ่งได้ 2 ชนิด คือ ชนิดที่ต้องใช้ให้หมดภายใน 24 […]

ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : ตาโหล เบ้าตาลึก

ตาโหล เบ้าตาลึก เป็นอย่างไร และวิธีการแก้ไข ทำอย่างไร 🎯 ตรวจสอบกับ ศาสตราจารย์วุฒิคุณ นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ ประธานวิชาการ ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย เรื่อง “ตาโหล” และ “เบ้าตาลึก” เป็นลักษณะกายภาพของแต่ละคน บางคนที่มีโหนกของบริเวณคิ้วสูง หรือบริเวณกระดูกเบ้าตาข้างล่างนูนเด่นชัดขึ้นมา จะทำให้รู้สึกเหมือนตาลึกเข้าไป คนที่ “ตาโหล เบ้าตาลึก” มีขนาดลูกตาปกติถือเป็นเรื่องธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้ แต่บางคนอาจรู้สึกว่าทำให้ดวงตาดูไม่สวยงาม ตาโหล เบ้าตาลึก เป็นมาตั้งแต่กำเนิด ? โดยทั่วไปภาวะ “ตาโหล เบ้าตาลึก” ถ้าไม่ได้เกิดจากโรคหรือความผิดปกติของโครโมโซมที่มีส่วนอื่นของร่างกายผิดปกติไปด้วย มักจะเป็นกรรมพันธุ์ที่ถ่ายทอดมาจากยีนคุณพ่อคุณแม่ ทำให้ลักษณะหน้าตาคล้าย ๆ กัน และมีโครงสร้างใบหน้าที่มีตาโหลหรือเบ้าตาลึกได้ คนที่มี “ตาโหล เบ้าตาลึก” มาตั้งแต่เกิด พบว่าช่วง 5-6 ขวบแรก จะมีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก มีทั้งตาโหลหรือเบ้าตาลึกดีขึ้นและแย่ลง เมื่อเด็กโตขึ้นอายุเกิน 5-6 ขวบไปแล้ว โครงสร้างของกระดูกบริเวณใบหน้าค่อนข้างอยู่ตัว อาจทำให้ลักษณะ “ตาโหล เบ้าตาลึก” ติดตัวจนโตเป็นผู้ใหญ่ […]

ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : นอนหลับตาไม่สนิท หรือตากระต่าย

ตากระต่าย หรือนอนหลับตาไม่สนิท เกิดจากสาเหตุใด อันตรายหรือไม่ และมีวิธีการรักษาอย่างไร 🎯 ตรวจสอบกับ ศาสตราจารย์วุฒิคุณ นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ ประธานวิชาการ ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย “ตากระต่าย” คือการเรียกลักษณะของคนบางคนที่เวลานอนหลับหรือหลับตาแล้ว เปลือกตาบนและเปลือกตาล่างไม่ลงมาประกบกันสนิท จะทำให้เห็นบริเวณที่เป็นตาขาวหรือตาดำ “นอนหลับตาไม่สนิท” หรือ “ตากระต่าย” ศัพท์ทางการแพทย์เรียกว่า Lagophthalmos การเรียกว่า “ตากระต่าย” น่าจะเป็นลักษณะเฉพาะอย่างหนึ่งของกระต่าย ที่บางครั้งเวลานอนหลับเปลือกตาบนและเปลือกตาล่างอาจจะหลับไม่สนิท ทำให้คนสมัยก่อนเรียกภาวะนี้ว่า “ตากระต่าย” ลักษณะ “ตากระต่าย” เกิดขึ้นเอง ไม่ได้ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ และภาวะตากระต่ายนี้อาจจะเป็นทุกคน บางคนอาจจะเป็นมาก บางคนอาจจะเป็นน้อย หรือบางคนอาจจะเป็นนาน ๆ ครั้ง เพราะเราอาจจะไม่ได้สังเกตตัวเองว่าตื่นมาตอนเช้ามีอาการเคืองตา หรือมีคนทักว่าเวลานอนหลับแล้วหลับตาไม่สนิท บ่งบอกว่าเกิดภาวะตากระต่าย ภาวะตากระต่ายเกิดจากอะไร  ภาวะตากระต่ายสามารถเกิดได้กับทุกคนที่การทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณรอบเปลือกตาไม่แข็งแรง “ตากระต่าย” อาจเกิดขึ้นได้จากภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัดทำตา 2 ชั้น หรือทำศัลยกรรมเปลือกตา โดยเฉพาะช่วงแรกหลังผ่าตัดใหม่ ๆ จะมีปัญหาเรื่องหลับตาไม่สนิท ถ้ามีอาการเคืองตา ตาแดง ต้องรีบกลับไปพบจักษุแพทย์หรือแพทย์ที่ทำการผ่าตัดเปลือกตาให้ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ เด็กทารกกับภาวะตากระต่าย […]

ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : การป้องกันและรักษาภาวะตามัว

ภาวะตามัวป้องกันได้หรือไม่ และมีวิธีการรักษาอย่างไร 🎯 ตรวจสอบกับ ศาสตราจารย์วุฒิคุณ นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ ประธานวิชาการ ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย ดวงตาเป็นอวัยวะสำคัญที่ใช้ในการมองสิ่งต่าง ๆ และมีความสำคัญกับทุกคน คำว่า “ตามัว” หมายถึง ภาวะการมองเห็นที่ไม่ชัด โดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ ตามัวชั่วคราว และตามัวถาวร “สายตาผิดปกติ” กับภาวะ “ตามัว” ภาวะสายตาผิดปกติเป็นปัญหาใหญ่ที่มีการขยายตัวค่อนข้างมากในเด็กยุคใหม่ ในงานวิจัยพบว่าการปรับพฤติกรรมของเด็ก ให้เด็กมีกิจกรรมกลางแจ้งมากขึ้นอย่างน้อยสัปดาห์ละ 11 ชั่วโมง จะช่วยลดโอกาสภาวะสายตาสั้น และการสั้นมากขึ้นเรื่อย ๆ ของเด็กได้ การทำกิจกรรมกลางแจ้งป้องกันตามัวของเด็กได้ เพราะการที่เด็กมีกิจกรรมกลางแจ้ง จะช่วยทำให้เด็กคลายการเพ่งของลูกตา รวมทั้งการได้วิตามินดีจากแสงแดด เพราะมีงานวิจัยเชื่อว่าจะสามารถลดการสั้นมากขึ้นของสายตาเด็กได้ การปล่อยให้ลูกนั่งเล่นมือถือ หรือนั่งเล่นคอมพิวเตอร์ การที่เด็กอยู่แต่ในห้องอาจเป็นต้นเหตุอย่างหนึ่งที่ทำให้เด็กไทยยุคใหม่มีภาวะสายตาผิดปกติมากขึ้น “โรคต้อกระจก” กับภาวะ “ตามัว” การป้องกันโรคต้อกระจก ทำได้ด้วยการหลีกเลี่ยงสิ่งที่เป็นต้นเหตุ ไม่ว่าจะเป็นจากการใช้ยาบางชนิด เช่น สเตียรอยด์ (ทั้งชนิดกินและชนิดหยอด) ในคนมีโรคประจำตัวที่เป็นต้นเหตุให้เลนส์ตาเสื่อมเร็วขึ้น เช่น โรคเบาหวาน ก็ต้องพยายามควบคุมระดับน้ำตาลให้ดีขึ้น […]

ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : เข้าใจสาเหตุภาวะตามัว

ภาวะตามัวมีกี่แบบ อันตรายหรือไม่ และเกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง 🎯 ตรวจสอบกับ ศาสตราจารย์วุฒิคุณ นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ ประธานวิชาการ ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย คำว่า “ตามัว” หมายถึงภาวะที่การมองเห็นไม่ชัด แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ ตามัวชั่วคราว และตามัวถาวร ตามัวชั่วคราว ตามัวชั่วคราวพบบ่อยในคนนี้มีตาแห้ง บางจังหวะรู้สึกเหมือนมองภาพไม่ชัด พอกะพริบตาก็อาจจะดีขึ้น หรือขยี้ตาเบา ๆ ก็ดีขึ้น อีกกลุ่มเกิดจากการใช้สายตามาก ๆ เช่น คนที่ทำงานอยู่กับคอมพิวเตอร์หรือเล่นมือถือทั้งวัน บางขณะมองภาพโฟกัสไม่ได้เลยเพราะตาล้า ในคนที่มีโรคอย่างอื่นของระบบอื่นร่วมด้วย เช่น ไมเกรน หรือมีความไม่สมบูรณ์ของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงบริเวณสมองที่เกี่ยวกับการมองเห็นก็อาจจะเกิดตาพร่ามัวชั่วคราวหลาย ๆ วินาทีและก็กลับมามองเห็น จำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยและรักษาจากแพทย์เฉพาะทางอย่างถูกต้อง มีอาการ “หน้ามืด” เกี่ยวข้องกับ “ตามัว” ด้วย ที่เรียกกันว่าภาวะ “หน้ามืดตามัว” ซึ่งอาจจะเกิดจากความเหน็ดเหนื่อย หรือระดับน้ำตาลในเลือดตก หรือมีการบีบตัวของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงบริเวณสมองบางส่วน ก็อาจจะทำให้เหมือนการมองเห็นภาพโทนสีมืดลงและก็อาจจะเป็นลมได้ พวกนี้มักจะไม่ได้เป็นอาการจากดวงตาโดยตรงแต่ว่าอาจเกิดจากระบบอื่นของร่างกายได้ ตามัวถาวร จักษุแพทย์พบตามัวถาวรจำนวนมาก แบ่งตามชนิดได้ 4 กลุ่มใหญ่ […]

ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : ปัญหาโรคตาในผู้สูงอายุ

โรคตายอดฮิตในผู้สูงวัยมีอะไรบ้าง จะสังเกต ป้องกันและเฝ้าระวังได้อย่างไร 🎯 ตรวจสอบกับ ศาสตราจารย์วุฒิคุณ นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ ประธานวิชาการ ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย ผู้สูงอายุและคนที่อายุเกิน 60 ปี หรือหลังเกษียณไปแล้วก็จะเริ่มมีปัญหาดวงตาที่เกิดจากความเสื่อมตามสภาพการใช้งาน โรคตาที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ ได้แก่ สายตายาว ต้อกระจก ต้อหิน จอประสาทตาเสื่อม สายตายาว ภาวะสายตายาวจะพบบ่อยที่สุด คือหลังอายุ 40-50 ปีไปแล้ว ความสามารถในการเพ่งลดลง จำเป็นต้องยื่นหนังสือออกไปห่างหรือจำเป็นต้องมีแว่นสายตายาว ก็จะทำให้สามารถกลับมามองเห็นตัวหนังสือได้  โรคต้อกระจก ที่พบบ่อยที่สุดและเป็นทุกคน คือการเสื่อมของเลนส์ตาที่ความใสจะลดลงเรื่อย ๆ ตามอายุ ทำให้เลนส์แก้วตามีลักษณะขุ่นขาวเหมือนกระจกฝ้า คนทุกคนจำเป็นต้องเป็นโรคต้อกระจก คือการมองเห็นจะมัวเป็นหมอก โดยทั่วไปมักจะเริ่มที่อายุ 60 กว่าขึ้นไป 70-80 ต้องได้รับการรักษาด้วยการสลายต้อและเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียมใหม่ก็จะกลับมามองเห็นได้ ต้อหิน โรคที่มีความสำคัญและอันตรายมาก ๆ ในวัยสูงอายุ คือโรคต้อหิน ซึ่งเป็นสาเหตุตาบอดอันดับ 1 ของคนไทยและคนทั้งโลกที่แก้ไขไม่ได้ จำเป็นต้องเฝ้าระวัง เพราะผู้ป่วยอาจจะไม่รู้ตัว หลังจากอายุ 50-60 ปีไปแล้วควรจะต้องไปตรวจวัดความดันในลูกตา เพราะว่าความดันในลูกตาที่สูงจะไปกดขั้วประสาทตาทำให้มีการเสื่อม […]

ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : ปัญหาโรคตาในคนวัยทำงาน

ปัญหาโรคตาในคนวัยทำงานมีอะไรบ้าง และจะป้องกันหรือรักษาได้อย่างไร 🎯 ตรวจสอบกับ ศาสตราจารย์วุฒิคุณ นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ ประธานวิชาการ ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย ดวงตาเป็นอวัยวะที่สำคัญของคนช่วงวัยทำงาน มีโรคตาหลายโรคที่พบได้จากช่วงวัยทำงาน ตั้งแต่อายุ 20-40 ปี หลาย ๆ โรคเกิดจากความเสื่อมปกติของร่างกายคนเรา บางโรคก็เกิดจากพฤติกรรมการใช้สายตาที่เปลี่ยนไปของคนยุคปัจจุบัน ปัญหาโรคตาที่พบบ่อยในคนวัยทำงาน 1. “ตาล้า” ใช้สายตามากและต่อเนื่องเป็นเวลานานหลายชั่วโมง ไม่วาจะเป็นการใช้แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มือถือก็ตาม ลูกตามีการเพ่ง ทางการแพทย์เรียกว่า Accommodation จะทำให้เกิดอาการล้า ปวดบริเวณลูกตา ปวดบริเวณขมับ บางคนอาจจะทำให้ตามัว มองไม่ชัด ปวดศีรษะ และรู้สึกไม่สบาย มีคำแนะนำการใช้สายตาด้วยสูตร 20-20-20 ดังนี้ ทุก ๆ 20 นาที ของการใช้งานสายตามองใกล้ ควรหยุดพัก 20 วินาที โดยการมองไปที่ระยะไกลอย่างน้อย 20 ฟุต (6 เมตร) เพื่อให้ดวงตาคลายการเพ่ง จะทำให้กลับมานั่งทำงานได้อย่างปลอดภัยและไม่รู้สึกปวดศีรษะ 2. “ตาแห้ง” […]

ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : ปัญหาโรคตาในเด็ก

ปัญหาโรคตา หรือภาวะดวงตาผิดปกติที่เกิดขึ้นในเด็กมีอะไรบ้าง จะป้องกันหรือรักษาได้อย่างไร 🎯 ตรวจสอบกับ ศาสตราจารย์วุฒิคุณ นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ ประธานวิชาการ ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย โรคตาในเด็กสามารถพบได้ตั้งแต่แรกคลอด จนถึงเด็กโต สามารถแบ่งได้เป็น 3 ช่วงวัย ช่วงวัยที่ 1 แรกเกิด-ก่อนเริ่มเดินได้ สิ่งที่พบได้คือ โรคตาที่ผิดปกติแต่กำเนิด (ตาขาว ตาดำ เปลือกตา) และจอประสาทตาผิดปกติ คุณพ่อคุณแม่ช่วยกันสังเกตว่าเด็กที่คลอดออกมาตา 2 ข้างมีขนาดเท่ากันหรือไม่ ตาดำมีลักษณะสีดำไม่เป็นสีขาว หรือเปลือกตาทั้ง 2 ข้างลืมขึ้นทั้ง 2 ข้างหรือไม่ ช่วงที่เด็กอายุ 2-3 เดือน โดยเฉพาะเด็กที่คลอดก่อนกำหนด จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคจอประสาทตาผิดปกติ และในเด็กที่มีอายุครรภ์น้อยกว่า 30 สัปดาห์ หรือน้ำหนักแรกคลอดน้อยกว่า 1,500 กรัม จะต้องพาไปพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจจอประสาทตาเมื่ออายุประมาณ 1 เดือน ช่วงวัยที่ 2 อายุประมาณ 3-12 ปี สิ่งที่พบบ่อยคือ ตาเข ตาเหล่ […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : การป้องกัน “โควิด-19” ด้วยความห่วงใยจาก…ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา

1 มกราคม 2567 สัมภาษณ์โดย พีรพล อนุตรโสตถิ์ เรียบเรียงโดย คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ศ.เกียรติคุณ ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา ที่ปรึกษาคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับ “โควิด-19” รับปีใหม่ 2567 ธรรมชาติของโคโรน่าไวรัส (โควิด-19) จะอยู่กับโลกนี้ไปอีกนาน เพราะไวรัสตัวนี้กลายพันธุ์ตลอดเวลา และจะพบสายพันธุ์ใหม่ ๆ เมื่อไหร่ก็ตามที่พบไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ๆ (อย่างโอไมครอน) โดยหลักการของไวรัสที่แพร่ระบาดรวดเร็ว จะไปทดแทนสายพันธุ์เดิม และถือเป็นความโชคดีของโลกใบนี้ ที่มีสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นแต่ไม่รุนแรง คงจำกันได้ ตอนที่ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์เดลตาเกิดขึ้น อัตราการเสียชีวิตทั่วโลกเพิ่มขึ้นมากมาย และตอนนี้เป็นโอไมครอนก็ยังเกิดการกลายพันธุ์อยู่เรื่อย ๆ ถ้าไปดูย้อนหลัง ช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม พ.ศ. 2566 ประเทศไทยมีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น แต่อัตราการเสียชีวิตไม่ได้เพิ่มขึ้นคู่ขนานไปกับการติดเชื้อ โชคดีว่าสายพันธุ์ใหม่ที่เกิดขึ้นกระจายเร็วแต่ไม่ได้รุนแรง โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ “JN.1” องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ 1 สายพันธุ์ เรียกว่า JN.1 […]

ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : รู้จักเมลาโทนิน

เมลาโทนินคืออะไร เป็นสารที่ร่างกายสร้างเองได้หรือไม่ หรือจำเป็นกับร่างกายมากแค่ไหน และเกี่ยวข้องกับการนอนหลับอย่างไร 🎯 ตรวจสอบกับ พญ.ปุณฑริก ศรีสวาท ฝ่ายจิตเวชศาสตร์ และศูนย์นิทราเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เมลาโทนิน (Melatonin) คือฮอร์โมนที่ร่างกายผลิตจากต่อมไพเนียล (Pineal gland) ซึ่งอยู่ในสมองของเรานี่เอง ในร่างกายทุกคนมีเมลาโทนิน ต่อมไพเนียลผลิตเมลาโทนินเมื่อพระอาทิตย์ตก ดวงตาไม่ได้รับแสง โดยต่อมไพเนียลหลั่งเมลาโทนินออกมา เพื่อบอกร่างกายว่าเป็นเวลาของการพักผ่อน หรือเป็นเวลาของการเข้านอนแล้ว ตัวฮอร์โมนชนิดนี้ เมื่อคนเราอายุมากขึ้น (อาจจะเลย 55 ปี หรือ 60 ปีขึ้นไป) ก็อาจจะผลิตเมลาโทนินได้ลดลง ดังนั้น อาจมีการใช้อาหารเสริมจำพวกเมลาโทนินเข้ามาชดเชยหรือช่วยได้ ปฏิกิริยาของเมลาโทนินกับร่างกาย เมื่อเมลาโทนินออกมาร่างกายจะมีอาการง่วง เช่น หาว หนังตาตก ก็อยู่ในสภาพพร้อมหลับ เขาหลั่งเมลาโทนินอยู่ในช่วงขาขึ้น เขาจะเริ่มหลั่งน้อย ๆ ตั้งแต่ช่วงพระอาทิตย์ตก พอเขาขึ้นถึงจุดสูงสุดร่างกายเราจะง่วง สังเกตได้ว่าเราจะง่วงเวลาเดิม ๆ ทุกวัน เพราะว่าเมลาโทนินทำงานสัมพันธ์กับนาฬิกาชีวิต (Circadian Rhythm) ซึ่งนาฬิกาชีวิตจะค่อนข้างตรงเวลา ยิ่งถ้าเรามีกิจวัตรประจำวันที่ค่อนข้างสม่ำเสมอ นาฬิกาชีวิตก็ทำงานค่อนข้างตรงเวลาในเวลาเดิมทุกวัน […]

1 20 21 22 23 24 27