ชัวร์ก่อนแชร์ : การป้องกัน “โควิด-19” ด้วยความห่วงใยจาก…ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา

1 มกราคม 2567


สัมภาษณ์โดย พีรพล อนุตรโสตถิ์

เรียบเรียงโดย คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ศ.เกียรติคุณ ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา ที่ปรึกษาคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับ “โควิด-19” รับปีใหม่ 2567

ธรรมชาติของโคโรน่าไวรัส (โควิด-19) จะอยู่กับโลกนี้ไปอีกนาน เพราะไวรัสตัวนี้กลายพันธุ์ตลอดเวลา และจะพบสายพันธุ์ใหม่ ๆ

เมื่อไหร่ก็ตามที่พบไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ๆ (อย่างโอไมครอน) โดยหลักการของไวรัสที่แพร่ระบาดรวดเร็ว จะไปทดแทนสายพันธุ์เดิม และถือเป็นความโชคดีของโลกใบนี้ ที่มีสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นแต่ไม่รุนแรง


คงจำกันได้ ตอนที่ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์เดลตาเกิดขึ้น อัตราการเสียชีวิตทั่วโลกเพิ่มขึ้นมากมาย และตอนนี้เป็นโอไมครอนก็ยังเกิดการกลายพันธุ์อยู่เรื่อย ๆ

ถ้าไปดูย้อนหลัง ช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม พ.ศ. 2566 ประเทศไทยมีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น แต่อัตราการเสียชีวิตไม่ได้เพิ่มขึ้นคู่ขนานไปกับการติดเชื้อ โชคดีว่าสายพันธุ์ใหม่ที่เกิดขึ้นกระจายเร็วแต่ไม่ได้รุนแรง

โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ “JN.1”

องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ 1 สายพันธุ์ เรียกว่า JN.1 (เจเอ็น.1)

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว องค์การอนามัยโลกบรรจุสายพันธุ์ JN.1 เข้าไปในกลุ่ม Variants of Interest : VOI หรือสายพันธุ์ที่ต้องเฝ้าติดตาม ซึ่งมีอยู่ 2-3 คำที่ต้องทำความเข้าใจ

“Variants of Interest” คือสายพันธุ์ที่มีการแพร่กระจายรวดเร็ว แล้วเฝ้าติดตามดูว่าก่อความรุนแรงมั้ย ดื้อกับวัคซีนมั้ย ถ้ายังไม่มีก็สามารถเรียกเป็น Variants of Interest

โควิด-19 สายพันธุ์ที่กระจายอยู่ในสหรัฐอเมริกา เข้าไปที่สาธารณรัฐประชาชนจีน และอินเดีย ซึ่ง ณ วันนี้ JN.1 ยังอยู่แบบนี้

ถ้าเมื่อไหร่มีหลักฐานว่านอกจากกระจายรวดเร็วแล้ว อัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นตามไปด้วย หรือมีหลักฐานชัดเจนว่าดื้อกับวัคซีนโควิด-19 สายพันธุ์เหล่านี้องค์การอนามัยโลกมีแนวโน้มจะเปลี่ยนจาก Variants of Interest ไปเป็น Variants of Concern : VOC คือมีผลกระทบกับสุขภาพ ทำให้เจ็บป่วยและเสียชีวิต ถ้าเป็นอย่างนั้นเรื่องใหญ่แล้ว

การระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ JN.1 ในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน ถึง 17 ธันวาคม พ.ศ. 2566 ระยะเวลารวม 28 วัน เมื่อเทียบกับ 28 วันก่อนหน้านั้น สายพันธุ์ JN.1 เป็นสาเหตุของการติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น 52 เปอร์เซ็นต์ แสดงว่ามีการกระจายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เริ่มไปทดแทนสายพันธุ์เดิมในสหรัฐอเมริกา

ปัจจุบัน ยังไม่มีหลักฐานว่าโควิด-19 สายพันธุ์ JN.1 สร้างความรุนแรงเกิดขึ้น และวัคซีนที่ฉีดกันจนถึงวันนี้แม้จะมีคนพูดว่า JN.1 อาจจะดื้อกับวัคซีน แต่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้เพราะร่างกายคนเราเมื่อฉีดวัคซีนไปถึงจุดหนึ่งภูมิต้านทานก็ค่อย ๆ ลดลงอยู่ดี

ดังนั้น ตอนนี้ติดตามดูไปเฉย ๆ โดยกระทรวงสาธารณสุข และนักวิชาการที่อยู่ในมหาวิทยาลัยก็เฝ้าติดตามเรื่องเหล่านี้ ถ้ามีสัญญาณบอกเหตุอะไรก็จะรีบแจ้งให้สาธารณชนได้รับรู้

“หน้ากากอนามัย” ป้องกันภัยจาก JN.1 และ PM2.5

ขอฝากหลักการเบื้องต้น ไม่ว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 จะกลายพันธุ์อย่างไร ทุกคนมีวัคซีนติดตัวอยู่แล้ว ได้แก่ การใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ และรักษาระยะห่าง

เข้าใจว่าช่วงการระบาดหนักของโควิด-19 ทุกคนก็เครียด ทุกคนก็ลำบาก ทุกคนก็อยากพัก ซึ่ง ณ วันนี้ก็ไม่ได้ย้ำว่าทุกคนต้องใส่หน้ากากอนามัย ต้องล้างมือตลอด แต่เมื่อไหร่เข้าไปในพื้นที่เสี่ยง เช่น พื้นที่มีคนจำนวนมาก มีการพูดคุยและตะโกน ซึ่งบอกไม่ได้หรอกว่ามีใครในนั้นติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ เพราะเดี๋ยวนี้อาการมีเพียงแค่เจ็บคอ มีน้ำมูก และมาปะปนอยู่ในพื้นที่เดียวกัน เพื่อความปลอดภัยการใส่หน้ากากอนามัยช่วยได้ระดับหนึ่ง

ถ้าภูมิต้านทานดี ฉีดวัคซีนมากพอ เป็นการกระตุ้นภูมิร่างกายเหมือนกัน ถ้ายังเป็นสายพันธุ์แบบนี้ (JN.1) ความรุนแรงก็ไม่น่าจะมาก

ช่วงนี้ ที่ชักชวนใส่หน้ากากอนามัย เพราะว่าอยู่ในช่วง PM2.5 ขึ้นด้วย เท่ากับว่าใส่หน้ากากอนามัย 1 อย่าง มีโอกาสเกิดประโยชน์ได้ 2 ด้าน แต่ต้องเป็นหน้ากากอนามัยที่ครอบคลุมการติดเชื้อโควิด-19 และ PM2.5

ต้นปี 2566 ที่ผ่านมา สถาบันแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ คือสถาบันฟรานซิส คริก (Francis Crick Institute) ลงตีพิมพ์ในวารสารวิชาการเกี่ยวกับอุบัติการณ์มะเร็งปอดในคนที่ไม่สูบบุหรี่ มีหลักฐานเพิ่มขึ้นชัดเจนในพื้นที่ที่มี PM2.5 สูง

คำว่า “มะเร็งปอด ไม่สูบบุหรี่” ไม่ได้หมายความว่า มะเร็งปอดที่คนสูบบุหรี่ไม่เพิ่มขึ้น คือมะเร็งปอดที่คนสูบบุหรี่ก็เป็นมะเร็งปอดอยู่แล้ว แต่คนที่ไม่สูบบุหรี่โอกาสเป็นมะเร็งปอดน้อย ขณะนี้เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน

ตอนนี้ PM2.5 ก่อเรื่องแน่นอน กลายเป็นปัญหาทั่วโลก การใส่หน้ากากอนามัยครั้งเดียว แต่ป้องกันได้ 2 เรื่อง ทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นสิ่งที่พึงกระทำ

ใส่หน้ากากอนามัยแล้วก็ไม่ต้องเคอะเขิน สังคมไม่มองว่าผิดหรอกที่ใส่ เพราะคนทั่วไปใส่กันมาจนคุ้นชินอยู่แล้ว

ปีใหม่นี้ ไม่มีใครมาคัดค้าน หรือห้ามไม่ให้สนุกสนานหรอก ถ้าจะไปสนุกสนานในพื้นที่มีคนจำนวนมากก็ใส่หน้ากากอนามัยสนุกสนานกันได้ ยกเว้นตอนกินอาหาร

วัคซีนป้องกันโควิด-19 กับความจำเป็น ?

ในคนที่ยังไม่เคยฉีดวัคซีนโควิด-19 ก็อยากแนะนำให้ฉีดด้วยเพื่อป้องกันความเสี่ยง

คนที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 มาแล้วหลายเข็ม ถ้าไม่ได้เป็นคนกลุ่ม “608” คือกลุ่มผู้สูงอายุมีอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้มีโรคประจำตัวในกลุ่ม 7 โรคประจำตัว ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคอ้วน โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน และ+1 คือกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากกลุ่มนี้เป็นผู้ที่มีอาการรุนแรงของโรคมากหากติดเชื้อโควิด-19 ความเห็น ณ ตอนนี้คือใส่หน้ากากอนามัยป้องกันตนเองและล้างมือบ่อย ๆ ดีกว่า

เรื่องของวัคซีน ตั้งแต่ช่วงแรกก็มีข้อถกเถียงจำนวนมากแล้ว ซึ่งจะเห็นได้ว่าวัคซีนช่วยให้ไม่ตายในระยะเฉียบพลันของการแพร่ระบาด แต่ระยะยาวมีผลหรือไม่นั้น ถ้าดูจากหลักฐานทางวิชาการ ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าก่อให้เกิดโรค ทั้ง ๆ ที่ปัจจุบันมีการฉีดวัคซีนรวมแล้วมากกว่าพัน ล้านโดส

อาจจะมีบางคนที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเทียบกับจำนวนคนฉีดวัคซีนก็ถือว่าน้อย กรณีอย่างนี้อยู่ในดุลพินิจของแต่ละคนดีกว่า

ในฐานะนักวิชาการ “การฉีดวัคซีนโควิด-19 ลดอัตราการเสียชีวิตได้จริง”

กลุ่มเสี่ยง ฉีดวัคซีนอย่างไร ?

ขณะนี้ หลายประเทศประกาศโควิด-19  เป็น “โรคประจำท้องถิ่น โรคประจำฤดูกาล” เหมือนไข้หวัดใหญ่ ทำให้บริษัทผลิตวัคซีนพยายามผสมผสานให้อยู่ในวัคซีนชุดเดียวกัน ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีก็ไปไกลแล้ว เช่น ไข้หวัดใหญ่ฉีด 1 เข็ม ป้องกันได้ 4 สายพันธุ์ แต่ยังมีความแตกต่างนิดเดียวเกี่ยวกับกลไกของร่างกายเรื่องภูมิคุ้มกันโควิด-19 กับไข้หวัดใหญ่ที่ไม่เหมือนกัน

การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 1 เข็มอยู่ได้นาน แตกต่างจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่รู้กันมานานแล้วว่าอยู่ได้เพียง 3-4 เดือน จากนั้นภูมิคุ้มกันจะค่อย ๆ ลดลง

ดังนั้น ใครที่เจ็บคอ มีน้ำมูกมาก ไอ ถ้าสงสัยก็ตรวจโควิด-19

ถ้าไม่ได้มีอาการอะไรมากมาย บางคนก็ไม่ตรวจ แต่ที่บางคนตรวจไม่ใช่เพราะตัวเอง แต่เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อกระจายไปถึงคนรอบข้างเท่านั้นแหละ

ถ้าคนที่มีอาการเจ็บคอ มีน้ำมูกมาก ไอ และมีไข้ หรือมีอาการแน่นหน้าอก หายใจลำบาก แนะนำให้ต้องตรวจ และถ้าตรวจแล้วพบว่าติดโควิด-19 จริงก็ต้องรีบรักษา

บางคนเริ่มมีไข้คิดว่าไม่มีอะไร บางครั้งภายใน 24 ชั่วโมงอาการรุนแรงลุกลามไปที่ปอดก็ยุ่งแล้ว บางคนจำเป็นต้องอยู่โรงพยาบาลก็ต้องอยู่ ถ้ามีอาการเล็ก ๆ น้อย ๆ ปัจจุบันไม่จำเป็นต้องรับไว้ในโรงพยาบาล

ถ้าบางคนเป็นโควิด-19 แต่ไม่มีอาการอะไรมาก ส่วนใหญ่อยู่บ้านครบ 5 วันก็ทำงานได้ และก็ไม่ได้แนะนำว่าครบ 5 วันแล้วต้องตรวจ

ยืนยันว่าขณะนี้มียาที่ยังครอบคลุมทุกสายพันธุ์ (สายพันธุ์ใหม่ด้วย) และประเทศไทยมียาเหล่านี้จำนวนมากอยู่ในคลังที่กระทรวงสาธารณสุข ไม่ว่าจะเป็นยาเรมเดซิเวียร์ (remdesivir) และ แพ็กซ์โลวิด (Paxlovid)

ทุกวันนี้ “โควิด -19” น่ากลัวหรือไม่

ไม่อยากให้ใช้คำว่า “กลัว” โควิด-19 แต่ใช้ว่า “ระวัง” คือเรายังต้องเฝ้าติดตามด้วยความระมัดระวัง อย่าถึงขนาดละเลยการป้องกันโควิด-19 ทุกกรณี

การใส่หน้ากากอนามัยไปสถานที่มีคนจำนวนมาก ไม่เกี่ยวกับกลัวหรือไม่กลัว แต่เป็นการระวังที่ปลอดภัยและทุกคนทำได้ด้วยตนเอง

ดูเพิ่มเติม “รายการชัวร์ก่อนแชร์​”

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นักธุรกิจสาวแจ้งความทนายดัง “ฉ้อโกง” ฮุบเงิน 71 ล้าน

นักธุรกิจสาว อดีตลูกความทนายดัง แจ้งความถูกทนายดังฉ้อโกง ฮุบเงิน 71 ล้านบาท เผยถูกหลอกให้ลงทุนซื้อแพลตฟอร์ม “หวยออนไลน์”

สาวแจ้งความภรรยาอดีตบิ๊กตำรวจ ย่องลักทรัพย์ในคอนโดฯ

หญิงสาวแจ้งความภรรยาอดีตตำรวจยศนายพล แอบกิ๊กสามี แถมย่องลักทรัพย์ในคอนโดฯ มูลค่าหลายล้านบาท ด้านตำรวจเรียกผู้เสียหายสอบเพิ่ม พร้อมเก็บภาพวงจรปิดตรวจสอบแล้ว

“ทนายบอสพอล” มองยึดมือถือ พนง.ดิไอคอน เกินเส้นกฎหมาย

“ทนายบอสพอล” พาพนักงานดิไอคอน ลงบันทึกประจำวัน หลังตำรวจบุกค้น 11 จุด และยึดมือถือ มองว่าทำเกินกว่ากฎหมาย พร้อมฝากถึงศาลยุติธรรมในการออกหมายจับรอบ 2 เป็นห่วงสิทธิของทุกฝ่าย

ข่าวแนะนำ

เยี่ยมบอสดิไอคอน

ญาติบอสชายทยอยเข้าเยี่ยมวันแรก หลังครบกักโรค

ครอบครัว-ญาติ ‘บอสชาย’ คดีดิไอคอน เข้าเยี่ยมวันแรก หลังครบกำหนดกักโรค รองโฆษกราชทัณฑ์เผยทุกคนเริ่มปรับตัวได้ดี เครียดน้อยลง ยังไม่มีใครป่วย

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือตอนบน อากาศเย็นในตอนเช้า-ลมแรง

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ตอนบน ยังคงมีฝนฟ้าคะนอง

สายไหมระทึก! ล่าแก๊งค้ายา ยิงเปิดทางหนี รวบ 2 หนี 1

เมื่อคืนที่ผ่านมา ในพื้นที่เขตสายไหม เกิดเหตุระทึก คนร้ายค้ายา 3 คน หลบหนีการจับกุม ยิงตอบโต้กับเจ้าหน้าที่ ก่อนจะไปซ่อนตัวในบ้านประชาชน นานกว่า 6 ชั่วโมง สุดท้ายจับกุมได้ 2 คน ส่วนอีก 1 หลบหนี