Arnat Sakdaronnarong

วอชิงตัน 5 พ.ค. – สื่อสหรัฐรายงานว่า สหรัฐได้ให้ข้อมูลด้านข่าวกรองแก่ยูเครนจนทำให้กองทัพยูเครนสังหารนายพลรัสเซียได้หลายนายในสงครามยูเครน หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐรายงานอ้างเจ้าหน้าที่ระดับสูงไม่เผยนามของสหรัฐว่า รัฐบาลสหรัฐได้ให้ข้อมูลด้านข่าวกรองแก่ยูเครนเกี่ยวกับการเคลื่อนทัพ ตำแหน่งที่ตั้ง และข้อมูลอื่น ๆ เกี่ยวกับกองบัญชาการทหารเคลื่อนที่ของรัสเซีย ยูเครนได้นำข้อมูลเหล่านี้ไปรวมกับข่าวกรองของตนเพื่อตอบโต้การโจมตีของกองทัพรัสเซียจนทำให้สังหารนายพลรัสเซียได้หลายนาย นิวยอร์กไทมส์ยังระบุว่า เจ้าหน้าที่ยูเครนอ้างว่าได้สังหารนายพลรัสเซียราว 12 นายในสงครามยูเครน ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐปฏิเสธที่จะเปิดเผยตัวเลขจำนวนนายพลรัสเซียที่ถูกสังหารจากการให้ข้อมูลข่าวกรองของสหรัฐแก่ยูเครน อย่างไรก็ดี กระทรวงกลาโหมสหรัฐและทำเนียบขาวสหรัฐยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับรายงานนี้ในทันที.-สำนักข่าวไทย

ฟิลิปปินส์เตรียมจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ในวันที่ 9 พฤษภาคมนี้ เพื่อชี้ชะตาว่าใครจะได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของฟิลิปปินส์ในอีก 6 ปีข้างหน้า

ปักกิ่ง 3 พ.ค. – เจ้าหน้าที่กู้ภัยของจีนพบผู้รอดชีวิตเพิ่มอีก 1 คนในวันนี้จากเหตุอาคารพังถล่มที่เมืองฉางซา เมืองเอกของมณฑลหูหนาน ทางตอนกลางของจีน เมื่อวันศุกร์ ทำให้ขณะนี้พบผู้รอดชีวิตจากเหตุดังกล่าวทั้งหมด 9 คนแล้ว สถานีวิทยุโทรทัศน์กลางของจีน หรือซีซีทีวี ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นภาพเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังช่วยเหลือผู้รอดชีวิตรายที่เก้าออกจากซากปรักหักพัง ผู้รอดชีวิตรายนี้เป็นผู้หญิง มีผ้าห่มหนาหุ้มตัว ถูกนำตัวออกมาด้วยเปลหาม ทั้งยังระบุว่า หวังว่าจะเกิดปาฏิหาริย์พบผู้รอดชีวิตเพิ่มจากเหตุอาคารพังถล่มอีก ขณะที่หนังสือพิมพ์พีเพิลส์ เดลี ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน รายงานว่า หญิงผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังมีสติและสามารถพูดคุยกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยผ่านรูเล็ก ๆ ของซากอาคารพังถล่ม ทั้งยังระบุว่า เธอมีสัญญาณชีพจรอยู่ในระดับปกติ เจ้าหน้าที่กู้ภัยระบุว่า จะยังคงเดินหน้าปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตอย่างต่อเนื่องที่จุดเกิดเหตุในวันนี้ เนื่องจากยังมีผู้ติดใต้อาคารอยู่อีกอย่างน้อย 14 คน และติดต่อไม่ได้อีก 39 คน ขณะที่ตำรวจเมืองฉางซาได้จับกุมเจ้าของอาคารและผู้เกี่ยวข้อง 9 คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุอาคารพังถล่มในครั้งนี้ โดยระบุว่าผู้ตรวจสอบความปลอดภัยอาคารทำรายงานเท็จ. -สำนักข่าวไทย

เทลอาวีฟ 3 พ.ค. – อิสราเอลระบุว่า รู้สึกไม่พอใจที่นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย กล่าวอ้างว่า อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำนาซีเยอรมนี มีเชื้อสายยิว และได้เรียกตัวเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำอิสราเอลเข้าพบชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อให้รัสเซียขอโทษ บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า นายลาฟรอฟให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ของอิตาลีเมื่อวันอาทิตย์ หลังจากอิสราเอลเพิ่งจัดพิธีเนื่องในวันรำลึกเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Holocaust Remembrance Day) เมื่อปลายเดือนเมษายน เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์สังหารหมู่ชาวยิวในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง นายลาฟรอฟถูกถามว่า รัสเซียอ้างว่าใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารเพื่อกำจัดนาซีในยูเครนได้อย่างไรในเมื่อประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนนั้นมีเชื้อสายยิว เขาตอบว่า เขาอาจเข้าใจผิด แต่คิดว่าฮิตเลอร์เองก็มีเชื้อสายยิวเช่นกัน เรื่องที่ผู้นำยูเครนมีเชื้อสายยิวจึงไม่มีความหมาย แม้แต่ชาวยิวด้วยกันเองยังมองว่ากลุ่มต่อต้านชาวยิวอย่างรุนแรงส่วนใหญ่ก็เป็นชาวยิวทั้งนั้น ถ้อยแถลงของนายลาฟรอฟทำให้ทางการอิสราเอลรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก นายกรัฐมนตรีนาฟตาลี เบนเน็ตต์ ของอิสราเอล กล่าวว่า การปั้นเรื่องโกหกดังกล่าวมีขึ้นเพื่อกล่าวโทษชาวยิวที่ได้รับผลกระทบในอาชญากรรมครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์และทำให้ผู้กดขี่ชาวยิวไม่ต้องรับผิดใด ๆ ขณะที่นายยาอีร์ ลาปิด รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศอิสราเอล กล่าวตอบโต้อย่างไม่พอใจว่า ถ้อยคำของนายลาฟรอฟเป็นเรื่องที่ให้อภัยไม่ได้ ส่วนกระทรวงต่างประเทศอิสราเอลได้เรียกตัวเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำอิสราเอลเข้าพบเพื่อชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นและเรียกร้องให้รัสเซียขอโทษอิสราเอล ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีเซเลนสกีได้กล่าวผ่านคลิปวิดีโอว่า เขาหมดคำพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะไม่มีใครเคยได้ยินคำปฏิเสธหรือการอธิบายเหตุผลใด ๆ จากรัฐบาลรัสเซียที่มีแต่ความเงียบ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารัสเซียลืมบทเรียนทั้งหมดที่ได้จากสงครามโลกครั้งที่สองไปแล้ว หรือไม่เคยเรียนรู้จากบทเรียนเหล่านั้น ด้านนายเนด […]

เคียฟ 29 เม.ย. – ยูเครนตั้งเป้าอพยพพลเรือนที่ซ่อนตัวอยู่กับทหารกองสุดท้ายของยูเครนที่โรงงานเหล็กอาซอฟสตอลในเมืองมารีอูปอล ซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญทางตอนใต้ของยูเครน ในวันนี้ ขณะที่รัสเซียยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับแผนดังกล่าว ทำเนียบประธานาธิบดียูเครนเผยวันนี้ว่า ยูเครนได้เตรียมแผนอพยพพลเรือนออกจากโรงงานเหล็กอาซอฟสตอลที่เมืองมารีอูปอลในวันนี้ แต่ไม่ได้ระบุรายละเอียดเพิ่มเติม ขณะที่รัสเซียยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับการวางแผนอพยพพลเรือนออกจากโรงงานดังกล่าวของยูเครน ด้านนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น กล่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมกับประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ขณะนี้กำลังมีการหารือเข้มข้นเกี่ยวกับการเปิดเส้นทางอพยพพลเรือนออกจากโรงงานเหล็กอาซอฟสตอลที่ถูกกองทัพรัสเซียปิดล้อมอย่างหนาแน่น ส่วนผู้ประสานงานด้านวิกฤตแห่งสหประชาชาติเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สเมื่อช่วงเช้าวันนี้ว่า ยูเอ็นหวังว่าทุกฝ่ายจะมีความปรารถนาดีต่อกันเพื่อเปิดเส้นทางอพยพในครั้งนี้ ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้เห็นชอบตามหลักการของยูเอ็นและคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ หรือไอซีอาร์ซี ในการมีส่วนร่วมอพยพพลเรือนออกจากโรงงานอาซอฟสตอล ด้านทางการท้องถิ่นของเมืองมารีอูปอลระบุว่า ยังคงมีพลเรือนราว 100,000 คนตกอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากการโจมตีของรัสเซียและการอยู่ในสถานที่ที่ไม่ถูกสุขลักษณะ รวมถึงการขาดแคลนน้ำดื่มและอาหาร.-สำนักข่าวไทย

โตเกียว 29 เม.ย. – ญี่ปุ่นพบซากเรือนำเที่ยวที่สูญหายในพื้นที่นอกชายฝั่งเกาะฮอกไกโด ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น หลังจากเรือลำนี้ได้สูญหายไปเมื่อ 6 วันก่อนและทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 ราย หน่วยยามฝั่งของญี่ปุ่นเผยวันนี้ว่า คลิปวิดีโอจากกล้องใต้น้ำของกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลของญี่ปุ่นแสดงให้เห็นซากเรือนำเที่ยว ‘คาซู 1’ (Kazu l) จมอยู่ที่ก้นทะเลลึก 120 เมตรนอกชายฝั่งเกาะฮอกไกโด ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น เรือลำนี้สูญหายไปตั้งแต่เมื่อวันเสาร์หลังเดินทางออกจากฝั่งคาบสมุทรชิเรโตโกะ ซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องทัศนียภาพที่สวยงามและสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติ เรือบรรทุกผู้โดยสาร 24 คนและลูกเรือ 2 คน ซึ่งมีเด็กรวมอยู่ด้วย 2 คน ขณะนี้ เจ้าหน้าที่พบศพผู้เสียชีวิตแล้ว 14 ราย แต่ยังไม่ทราบชะตากรรมของผู้สูญหายที่เหลือ ก่อนหน้านี้ หน่วยยามฝั่งของญี่ปุ่นระบุว่า เรือลาดตระเวนของรัสเซียแจ้งว่าได้คลาดกับบุคคลสวมเสื้อชูชีพที่ลอยอยู่ในทะเลในน่านน้ำนอกฝั่งตะวันตกของเกาะคุนาชิริเมื่อช่วงบ่ายวันพุธ ทั้งนี้ เกาะคุนาชิริ หรือมีอีกชื่อหนึ่งเป็นภาษารัสเซียว่า เกาะคูนาชีร์ (Kunashir) เป็น 1 ใน 4 เกาะทางตอนเหนือของเกาะฮอกไกโดที่ตกเป็นพื้นที่พิพาทระหว่างรัสเซียกับญี่ปุ่น.-สำนักข่าวไทย

ซิดนีย์ 29 เม.ย. – เกิดเหตุหญิงออสเตรเลีย วัย 69 ปี ถูกจิงโจ้จู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัวด้วยการกระโดดเตะและกระทืบที่สนามกอล์ฟแห่งหนึ่งในเมืองโกลด์โคสต์ของรัฐควีนส์แลนด์ ทางตะวันออกของออสเตรเลีย จนทำให้ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยรอยขีดข่วนและบาดแผลเจ็บหนัก หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการรถพยาบาลของรัฐควีนส์แลนด์ในออสเตรเลียเผยวันนี้ว่า เกิดเหตุจิงโจ้จู่โจมหญิงออสเตรเลียโดยไม่ทันตั้งตัวในขณะที่เธอกำลังเล่นกอล์ฟอยู่ที่สนามกอล์ฟแห่งหนึ่งของเมืองโกลด์โคสต์ จิงโจ้ได้ทำร้ายหญิงคนนี้จนล้มคว่ำไปกองกับพื้น พร้อมทั้งกระโดดเตะและกระทืบบนตัวเธอ เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวหญิงคนดังกล่าวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลโดยที่เธอมีอาการคงที่ แต่ได้รับบาดเจ็บหนักที่บริเวณกราม รวมถึงบาดแผลจำนวนมากบริเวณใบหน้า กราม แขน และขา ข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ออสเตรเลียมีประชากรจิงโจ้ราว 50 ล้านตัว และเป็นที่ทราบกันดีว่าจิงโจ้เหล่านี้มักชอบเข้าไปในสนามกอล์ฟ ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติที่จิงโจ้จะจู่โจมมนุษย์ เนื่องจากถิ่นที่อยู่ของจิงโจ้ได้รับผลกระทบจากการขยายที่อยู่อาศัยของมนุษย์เช่นกัน.-สำนักข่าวไทย