“ปศุสัตว์” ออก 4 มาตรการ รักษาเสถียรภาพราคา-แก้วิกฤติผู้เลี้ยงหมูขาดทุน

กรุงเทพฯ 7 พ.ย.- อธิบดีกรมปศุสัตว์เผย ประชุมร่วมกับหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และตัวผู้เลี้ยงสุกรเพื่อหารือพัฒนาการเลี้ยงสุกรอย่างยั่งยืน เตรียมจัดทำโครงการเพื่อของบประมาณในการสนับสนุนการลดจำนวนหมูในวงจรการผลิต ผลักดันการส่งออก ควบคู่กับการปราบปราม “หมูเถื่อน” เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาสุกรและแก้วิกฤติผู้เลี้ยงสุกรขาดทุนต่อเนื่อง ล่าสุดสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติประกาศปรับราคาหมูหน้าฟาร์มขึ้นอีก 4 บาท


นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์เป็นประธานการประชุมการเตรียมความพร้อมเพื่อพัฒนาการเลี้ยงสุกรอย่างยั่งยืน โดยมีนายสัตวแพทย์บุญญกฤช ปิ่นประสงค์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์เข้าร่วมประชุมด้วย โดยหารือกับผู้แทนหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนสมาคมผู้เลี้ยงสุกร ผู้แทนภาคเอกชน ผู้แทนผู้เลี้ยงสุกรรายย่อย ตัวแทนจากชมรมและสหกรณ์ผู้เลี้ยงสุกรในประเทศไทย ณ ห้องประชุมพระพิรุณ กรมปศุสัตว์ พญาไท กรุงเทพฯ

ในที่ประชุมได้มีการรายงานสถานการณ์การผลิตการตลาดสุกรในปัจจุบันเพื่อหารือเกี่ยวกับการรักษาเสถียรภาพราคาสุกร การแก้ไขปัญหาวิกฤตผู้เลี้ยงสุกรขาดทุนอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนแนวทางการทำงานเพื่อพัฒนาการเลี้ยงสุกรอย่างยั่งยืน โดยการกำหนดแผนการปฏิบัติงานเป็นระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ซึ่งที่ประชุมมีมติให้ดำเนินการเบื้องต้นดังนี้


1. การจัดทำโครงการเพื่อของบประมาณในการสนับสนุนการลดประชากรสุกรในวงจรการผลิต โดยนำลูกสุกรส่วนเกินไปผลิตหมูหัน เป้าหมาย 5,000 ตัวต่อสัปดาห์ กำหนดแผนการดำเนินงาน 450,000 ตัวในระยะเวลา 3 เดือน ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 180 ล้านบาท

2. การผลักดันการส่งออกสินค้าและผลิตภัณฑ์จากสุกรไปยังต่างประเทศ โดยกรมปศุสัตว์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการหาตลาดเพื่อการส่งออกและหาแหล่งเงินทุนเพื่อจัดสรรงบประมาณสนับสนุนส่วนต่างราคา เพื่อเพิ่มช่องทางการระบายสินค้าและจัดการอุปทานส่วนเกินภายในประเทศ ตั้งเป้าหมายในการส่งออกสุกรแปรรูปจากสุกร 60,000 ตัว ภายใน 3 เดือน

3. การดำเนินการรวบรวมข้อมูลผู้ค้าสุกรหน้าฟาร์มได้แล้ว 500 ราย ซึ่งจะรวบรวมต่อเนื่องให้ครบถ้วน โดยจะขอความร่วมมือผู้ค้าสุกรหน้าฟาร์มให้ร่วมมือกัน ดำเนินการตามโครงการรักษาเสถียรภาพราคาสุกรที่คณะกรรมการนโยบายพัฒนาสุกรและผลิตภัณฑ์ (Pig Board) ให้ความเห็นชอบแล้ว


4. การเดินหน้าปราบปรามหมูเถื่อน รวมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยการตรวจสอบห้องเย็นทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้กรมปศุสัตว์ได้รับข้อมูลห้องเย็นทั่วประเทศจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมเรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ กรมปศุสัตว์เปิดรับข้อร้องเรียน กรณีที่เกษตรกรหรือผู้บริโภค พบการขายสินค้าสุกรที่มีราคาต่ำกว่าท้องตลาดหรือมีราคาต่ำจนผิดปกติ สามารถแจ้งข้อมูลมายังช่องทางของกรมปศุสัตว์ได้ เช่น แอฟพลิเคชัน DLD4.0 สายด่านกรมปศุสัตว์ และสำนักงานปศุสัตว์ในพื้นที่ เพื่อกรมปศุสัตว์จะดำเนินการตรวจสอบตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด

สำหรับการดำเนินการมาตรการเตรียมความพร้อมเพื่อพัฒนาการเลี้ยงสุกรอย่างยั่งยืนของกรมปศุสัตว์ เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ซึ่งกำหนดมาตรการประกาศสงครามกับสินค้าเกษตรเถื่อน มุ่งปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรด้านพืช ประมง และปศุสัตว์ที่ผิดกฎหมายอย่างจริงจัง จึงได้มีประกาศคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารแก้ไขปัญหาการนำเข้าและส่งออกสินค้าเกษตรที่ผิดกฎหมาย รวมทั้งแต่งตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาการนำเข้าและส่งออกสินค้าด้านปศุสัตว์ที่ผิดกฎหมายเป็นการเฉพาะ มีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดนโยบายแก้ไขปัญหาการลักลอบนำเข้าและส่งออกสินค้าด้านปศุสัตว์ที่ผิดกฎหมาย กำหนดมาตรการ แนวทางการช่วยเหลือแก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการนำเข้าและส่งออกสินค้าปศุสัตว์ที่ผิดกฎหมาย โดยบูรณาการระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคส่วนอื่นที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ยังเป็นการดำเนินมาตรการเพื่อดูแลเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรให้มีรายได้อย่างมั่นคง ส่งเสริมให้ภาคปศุสัตว์ไทยแข็งแกร่งตามภารกิจของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตลอดจนเป็นการการขับเคลื่อนนโยบายด้านการเกษตรของรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติให้เป็นผลสำเร็จ

สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติได้ปรับเพิ่มราคาสุกรหน้าฟาร์มขึ้นอีก 4 บาทตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน 2566 โดยระบุว่า เป็นการปรับขึ้นเพื่อลดความเสียหายจากการขายต่ำกว่าต้นทุนการเลี้ยงอย่างยาวนาน ส่งผลให้ราคาอยู่ระหว่าง 64- 72 บาท/กิโลกรัมตามแต่ละภูมิภาค ดังนี้

  • ภาคตะวันตก 64-66 บาท/กิโลกรัม
  • ภาคตะวันออก 66-68 บาท/กิโลกรัม
  • ภาคอีสาน 68-70 บาท/กิโลกรัม
  • ภาคเหนือ 70-72 บาท/กิโลกรัม
  • ภาคใต้ปรับฐานเพิ่มขึ้น 4 บาท/กิโลกรัม

ทั้งนี้การปรับราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มครั้งนี้ เป็นการปรับขึ้นครั้งที่ 3 แล้ว แต่ยังต่ำกว่าต้นทุนการผลิตซึ่งคณะอนุกรรมการวิเคราะห์ต้นทุนการผลิตสุกรของ Pig Board ประเมินว่า ในไตรมาส 3/66 เฉลี่ยที่ 80.79 บาท/กิโลกรัม โดยคณะอนุกรรมการต้นทุนการผลิตสุกรมีกำหนดประชุมคาดการณ์ต้นทุนการเลี้ยงไตรมาสที่ 4/2566 ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ