ปักกิ่ง 15 ก.ค. – เศรษฐกิจจีนเกิดการหดตัวในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรก หลังจากที่นครเซี่ยงไฮ้และเมืองอื่นๆ ใช้มาตรการล็อกดาวน์ เพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 แต่รัฐบาลกล่าวว่า ขณะนี้จะเข้าสู่ช่วงการฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพ หลังจากธุรกิจเริ่มกลับมาเปิดตามปกติอีกครั้ง
ข้อมูลตัวเลขของทางการจีนแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจจีนหดตัวลงร้อยละ 2.6 เพิ่มขึ้นจากช่วงไตรมาสแรกระหว่างเดือนมกราคมถึงมีนาคมที่ร้อยละ 1.4 โฆษกของสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนกล่าวว่า ในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ เศรษฐกิจจีนกำลังอยู่ในภาวะขาลงและอยู่ภายใต้ความกดดันอย่างเห็นได้ชัด การควบคุมการระบาดของไวรัสด้วยการล็อกดาวน์ในนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเงินของจีนและมีท่าเรือที่มีการขนส่งสินค้ามากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกและเมืองศูนย์กลางอุตสาหกรรมอื่น ๆ ในช่วงปลายเดือนมีนาคม ยิ่งเพิ่มความกังวลว่า การค้าและการผลิตของโลกอาจจะต้องสะดุดและไม่ราบรื่น ในช่วงล็อกดาวน์นั้น ชาวจีนหลายล้านครอบครัวต้องถูกจำกัดให้อยู่ภายในบ้าน ทำให้การใช้จ่ายเรื่องสินค้าอุปโภคบริโภคลดลง โรงงานและสำนักงานได้รับอนุญาตให้กลับมาเริ่มเปิดดำเนินกิจการได้ในเดือนพฤษภาคม แต่นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า จะต้องใช้เวล่อีกหลายสัปดาห์ หรือ หลายเดือนกว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ การขยายตัวทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ร้อยละ 2.5 เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในรอบ 30 ปี.-สำนักข่าวไทย