นายกฯ ยันไทยยึดหลัก 3Cs แชร์ผลสำเร็จ 30 บาทรักษาทุกที่

ประชุมลุ่มน้ำโขง

นครคุนหมิง 7 พ.ย.- ไทยแลนด์โดดเด่นบนเวทีผู้นำลุ่มน้ำโขงครั้งที่ 8 เต็มคณะเช้าวันนี้ นายกฯ แพทองธาร ยืนยันไทยยึดหลัก 3Cs “สร้างความเชื่อมโยง เสริมขีดความสามารถ สร้างประชาคมที่ดีขึ้น” เพื่อประชาคมลุ่มน้ำโขงเข้มแข็งและรุ่งเรือง พร้อมแชร์ผลสำเร็จนโยบายที่ทำให้คนไทยสุขภาพดี 30 บาทรักษาทุกที่บนเวทีให้สมาชิก 6 ประเทศ


น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมเต็มคณะ ของการประชุมระดับสุดยอดผู้นำ ครั้งที่ 8 แผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) โดยมีนายกรัฐมนตรีจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม รวมถึงประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) โดยประเทศไทย มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญของถ้อยแถลง ว่านายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณประเทศจีนในการเป็นเจ้าภาพการประชุมในครั้งนี้ และประเทศไทยยินดีที่ได้เข้าร่วมการประชุมที่สำคัญนี้ ร่วมกับผู้นำประเทศสมาชิก GMS และพันธมิตรเพื่อการพัฒนาในภูมิภาค ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญต่อการพัฒนาประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ทั้ง 6 ประเทศ ซึ่งได้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นที่จะสานต่อความร่วมมือและแสดงถึงความพร้อมในการเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ในโลกร่วมกัน


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเราจะมุ่งสู่การเป็นประชาคมที่ดีกว่าเดิมด้วยการพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมที่เหมาะสมกับยุคสมัย และส่งเสริมให้ประเทศสมาชิกตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนา โดยใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการเติบโตและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน และนำไปสู่การยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของคนทั่วทั้งอนุภูมิภาค ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของประเทศไทยในการเป็นผู้ส่งเสริมสันติภาพและความมั่งคั่งร่วมกัน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะร่วมเสริมสร้างการพัฒนาร่วมกันของประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงให้เป็นประชาคมที่เข้มแข็งและเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น ตามแผนงาน GMS คือ 3Cs ดังนี้

(1) ประเทศไทย ได้เร่งสร้างความเชื่อมโยง (Connectivity) ให้เป็นรากฐานของการบูรณาการระดับภูมิภาค ซึ่งไทยมีความก้าวหน้าในการสร้างความเชื่อมโยงอย่างครอบคลุมทั้งภายในและระหว่างภูมิภาค อาทิ การเปิดให้บริการรถไฟระหว่างประเทศ เส้นทางกรุงเทพฯ – เวียงจันทน์ สปป.ลาว การพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี รวมทั้งแผนการก่อสร้างสนามบินล้านนา ที่ภาคเหนือ และสนามบินอันดามันในภาคใต้ ที่จังหวัดพังงาใกล้กับ จังหวัดภูเก็ต

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยินดีที่ประเทศสมาชิกได้กลับมาดำเนินการตามความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงระยะแรก (GMS Cross-Border Transport Agreement: CBTA) หลังจากหยุดชะงักไปชั่วคราวจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งในระยะต่อไปจะต้องอาศัยความพยายามร่วมกันผ่านการพัฒนากฎระเบียบและความร่วมมือต่าง ๆ ในกลุ่มประเทศสมาชิก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยกระดับความเชื่อมโยงบริเวณชายแดน เพื่อให้การค้าและการคมนาคมขนส่ง ข้ามพรมแดนเป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็ว ราบรื่นและไร้รอยต่อมากยิ่งขึ้น


(2) จะส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขัน (Competitiveness) โดยมุ่งเน้นการพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม สอดคล้องกับแนวทางของไทยที่ขับเคลื่อนไปสู่ยุคดิจิทัล ทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม อย่างยั่งยืน โดยปัจจุบันประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่การเป็นสังคมไร้เงินสด โดยมีการใช้เงินในระบบดิจิทัล ระบบพร้อมเพย์ สำหรับการรับและโอนเงิน และการชำระผ่าน QR Code ข้ามพรมแดนอย่างแพร่หลายแล้ว โดยเชื่อว่าเทคโนโลยีทางการเงินนี้ควบคู่ไปกับการพัฒนาอุตสาหกรรมให้ทันสมัย จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศและส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่อำนวยต่อการสร้างนวัตกรรมใหม่ขึ้น

(3) เสริมสร้างประชาคม (Community) ถือเป็นหัวใจสำคัญของ GMS ด้วยการสร้างความร่วมมืออย่างบูรณาการกับทุกภาคส่วน และขยายโครงข่ายการคุ้มครองทางสังคมให้ครอบคลุมประชาชนทุกคน ซึ่งประเทศไทยสนับสนุนยุทธศาสตร์ความเท่าเทียมทางเพศของกลุ่มประเทศ GMS ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาแบบครอบคลุมของไทย และให้ความสำคัญต่อเยาวชนผ่านการส่งเสริมการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพและเท่าเทียม รวมทั้งการรักษาเสถียรภาพทางสังคม เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนในอนุภูมิภาคนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า ประเทศไทยยังเสริมสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ นโยบายสาธารณสุขของไทย ที่ทำให้คนไทยมีสุขภาพดีขึ้น แต่รัฐบาลไทยก็ไม่หยุดนิ่งที่จะยกระดับและพัฒนานโยบายสาธารณสุขจาก “30 บาท รักษาทุกโรค” มาเป็น “30 บาท รักษาทุกที่” พร้อมขยายบริการสุขภาพมาตรฐานโดยใช้ระบบการแพทย์ทางไกล รวมถึงปรับปรุงการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพให้เป็นดิจิทัล ซึ่งไทยพร้อมแบ่งปันประสบการณ์และแนวทางปฏิบัติที่ดีกับประเทศสมาชิก GMS

ทั้งนี้ ประเทศไทยยืนยันความมุ่งมั่นต่อการดำเนินการตามวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ ค.ศ. 2030 ซึ่งได้ถูกบูรณาการในแผนการพัฒนาระดับต่าง ๆ ของประเทศไทยด้วยแล้ว เพื่อให้มั่นใจว่าความเจริญรุ่งเรืองของประชาคม GMS จะเกิดขึ้นอย่างยั่งยืน

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีขอบคุณธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือ เอดีบี สำหรับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง และขอบคุณคณะทำงานเฉพาะกิจต่าง ๆ พันธมิตรเพื่อการพัฒนา สภาธุรกิจ GMS รัฐบาลท้องถิ่น และประเทศสมาชิก GMS ที่ช่วยกันทุ่มเทในการดำเนินงานเพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ของ GMS โดยเชื่อมั่นว่าการประชุมในวันนี้จะส่งเสริมให้ความพยายามร่วมกันเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น และการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาและการบูรณาการระดับภูมิภาค พร้อมทั้งจะร่วมขับเคลื่อน GMS สู่การเป็นอนุภูมิภาคที่มีการบูรณาการมากขึ้น มีความเจริญรุ่งเรือง ยั่งยืน และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

อนึ่ง ที่ประชุมได้ร่วมรับรองเอกสารผลลัพธ์การประชุม 2 ฉบับ ได้แก่ (1) ร่างแถลงการณ์ร่วมระดับผู้นำ 6 ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ 8 (Joint Summit Declaration) และ (2) ร่างยุทธศาสตร์นวัตกรรมเพื่อการพัฒนาของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง พ.ศ. 2573 แผนงาน GMS (Greater Mekong Subregion Innovation Strategy for Development 2030) .314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร

เชิญชวนร่วมงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025”

“กำภู-รัชนีย์” พาทัวร์งาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025” ณ ลานจอดรถ บมจ.อสมท พบปะผู้ประกาศ ดีเจ และอินฟลูเอนเซอร์ รวมไปถึงศิลปินที่จะมาร่วมสนุกในงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟู ปาร์ตี้ 2025”