“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

สหรัฐ 6 พ.ย. – โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน


ผลนับคะแนนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต แน่นอนแล้ว หลังจากได้รับชัยชนะในรัฐสำคัญอย่างวิสคอนซิน 1 ใน 7 รัฐสมรภูมิ หรือ สวิงสเตท ที่เพิ่งนับคะแนนเสร็จสิ้นไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ได้คะแนนคณะผู้เลือกตั้งเพิ่ม 10 คะแนน และชนะในรัฐอะแลสกา ได้คะแนนคณะผู้แทนเพิ่ม 3 คะแนน ทำให้ล่าสุด ทรัมป์ได้คะแนนคณะผู้แทน 279 คะแนน เกินกว่า 270 คะแนน ส่งผลให้กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอีกสมัย นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้คะแนนประชาชน (popular vote) 70,850,467 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 51 ขณะที่ใน 3 รัฐสมรภูมิ หรือ สวิงสเตท ที่เหลือ ซึ่งยังนับคะแนนไม่เสร็จสิ้น คือ มิชิแกน เนวาดา และแอริโซนา ก็ยังมีคะแนนนำอีกด้วย

ทั้งนี้ ทรัมป์ ขึ้นเวทีกล่าวกับบรรดาผู้สนับสนุนที่มารวมตัวกันที่ศูนย์ประชุมปาล์มบีช เคาน์ตี้ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ ในรัฐฟลอริดา ว่า อเมริกาได้ให้อาณัติทางการเมืองที่ทรงพลังและไม่เคยมีมาก่อนแก่เขา ขอขอบคุณประชาชนที่ทำให้เขาได้กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกเป็นสมัยที่ 2 หลังจากนี้ เขาจะฟื้นคืนอเมริกาให้กลับมาแข็งแกร่งและยิ่งใหญ่ และทำให้อเมริกากลับมายืนหนึ่งบนเวทีโลก และหวนกลับสู่ยุคทองของมหาอำนาจอีกครั้ง


ส่วน แฮร์ริส ทำได้ดีที่สุดคือคว้าชัยชนะเพิ่มในการเลือกตั้งที่รัฐนิวแฮมป์เชอร์ ได้คะแนนคณะผู้แทนเพิ่มมา 4 คะแนน และหลังจากเห็นผลการเลือกตั้ง จนถึงขณะนี้ แฮร์ริสยังเก็บตัวเงียบ ไม่ได้ออกมายอมรับความพ่ายแพ้อย่างเป็นทางการ หรือแสดงความยินดีกับทรัมป์. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”

วางระเบิด 4 ลูก เกาะกลางถนนหน้าโรงเรียน จ.นราธิวาส

เช้ามืดวันนี้ (21 พ.ย.) เกิดระเบิดขึ้นอีก 4 ลูก บริเวณเกาะกลางถนนหน้าโรงเรียนบ้านฮูแตทูวอ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน