วอชิงตัน 18 พ.ค.- กระทรวงยุติธรรมสหรัฐเผยว่า ช่วง 20 ปีที่ผ่านมาสหรัฐผลิตปืนเพื่อจำหน่ายมากกว่า 139 ล้านกระบอก และยังนำเข้ามาอีก 71 ล้านกระบอก บ่งชี้ว่าประเทศกำลังเต็มไปด้วยอาวุธปืนส่วนบุคคลที่ส่งผลให้เกิดเหตุรุนแรงจากปืนเพิ่มมากขึ้น
รายงานฉบับใหม่ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐรวบรวมข้อมูลระหว่างปี 2543-2563 เฉพาะปี 2563 สหรัฐผลิตปืนเพื่อจำหน่าย 11 ล้าน 3 แสนกระบอก มีผู้ผลิตที่จดทะเบียนและยังดำเนินงานอยู่ 16,963 ราย เพิ่มขึ้นจาก 2,222 รายในปี 2543 รายงานพบว่า ชาวอเมริกันนิยมสะสมปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติ ซึ่งเป็นอาวุธที่คนร้ายใช้ก่อเหตุสังหารหมู่หลายครั้ง และยังซื้อปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติขนาด 9 มิลลิเมตรที่มีราคาถูกลง ใช้งานง่าย มีความแม่นยำ คล้ายอาวุธคู่กายตำรวจในปัจจุบัน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังประสบปัญหาปืนเถื่อนที่มีจำนวนมากขึ้น มีทั้งปืนประกอบขึ้นเองจากชิ้นส่วนที่หาซื้อทางออนไลน์ และปืนพิมพ์จากเครื่องพิมพ์ 3 มิติ
นางลิซา โมนาโก รองอัยการสูงสุดสหรัฐระบุว่า ทางการจะแก้ปัญหาความรุนแรงจากปืนซึ่งกำลังเพิ่มขึ้นในขณะนี้ได้ต่อเมื่อมีข้อมูลอย่างละเอียด แล้วนำเครื่องมือและงานวิจัยที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดมาใช้ให้เกิดประโยชน์ รายงานฉบับนี้จึงถือเป็นก้าวสำคัญ กระทรวงยุติธรรมจะเดินหน้าเก็บรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นต่อการออกแบบวิธีจัดการกับปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดเหตุรุนแรงจากปืน และนำคนใช้ปืนก่อความรุนแรงออกจากท้องถนน
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า สหรัฐมีคนเสียชีวิตเพราะปืนเพิ่มขึ้นมากที่สุดในปี 2563 โดยมีคนถูกปืนยิงตาย 19,350 ราย เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 35 จากปี 2562 และมีคนใช้ปืนยิงตัวตาย 24,245 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 อัตราส่วนคนตายเพราะปืนในสหรัฐในปี 2563 อยู่ที่ 6.1 ต่อประชากร 100,000 คน สูงที่สุดในรอบกว่า 25 ปี.-สำนักข่าวไทย