พาณิชย์คุมราคาสินค้าไม่ให้ค้ากำไรเกินควร

ทำเนียบรัฐบาล 17 พ.ค. – “จุรินทร์” เผยพาณิชย์ทำงานเชิงรุก คุมราคาสินค้าในภาวะน้ำมันแพง ไม่ให้ค้ากำไรเกินควร พร้อมตั้งคณะทำงานดูแลปาล์มทั้งระบบ ทั้งราคา-ปริมาณไม่ให้ขาดแคลน


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีราคาสินค้าที่ยังสูงว่า ทั้งหมดเป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่แพงขึ้น และส่งผลต่อต้นทุนการผลิตและค่าขนส่ง โดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกล ค่าขนส่งจะสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว ทำให้ราคาสินค้าต้องปรับสูงขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม การเข้าไปดูแลปลายทางหรือปลายเหตุ กระทรวงพาณิชย์มีมาตรการทั้งเชิงรุกและเชิงลึกแก้ไขปัญหา โดยพิจารณาอนุญาตให้ปรับราคาขึ้น แต่ต้องดูรายละเอียดของสินค้าแต่ละตัว ไม่เช่นนั้นจะกระทบกับผู้บริโภคเกินสมควร

“ถ้าพบว่าสินค้ารายใดเข้าข่ายการค้ากำไรเกินควร จะดำเนินคดีโดยเด็ดขาด ได้สั่งการพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการดูแลเรื่องราคาสินค้าและบริการของจังหวัด เข้าไปบริหารจัดการ ถ้าพบการค้ากำไรเกินควรมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” รัฐมนตรีว่ากากระทรวงพาณิชย์ กล่าว


นายจุรินทร์ กล่าวถึงราคาปาล์มว่า เกษตรกรพอใจมาก เพราะราคาผลปาล์มสูงขึ้นจาก 2-3 ปีที่แล้ว กิโลกรัมละกว่า 2 บาท ขณะนี้ขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 11-12 บาท เป็นที่พอใจของเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน แต่จะมีผลให้ผู้ประกอบการโรงสกัดและโรงงานผลิตน้ำมันปาล์มขวดบริโภคมีต้นทุนสูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งกระทรวงพาณิชย์เรียกประชุมทุกฝ่าย พยายามกำกับราคาน้ำมันปาล์มบริโภคไม่ให้กลายเป็นค้ากำไรเกินควรและพยายามกดราคาลงมา ขณะนี้ถ้าผลปาล์มกิโลกรัมละ 11-12 บาท ราคาน้ำมันปาล์มขวดตามโครงสร้างต้องขึ้นเป็นประมาณ 75-76 บาทต่อขวด แต่กระทรวงพาณิชย์ดูให้อยู่ในราคาประมาณ 65- 68 บาท ปรับลงมาประมาณ 10 บาท

รัฐมนตรีว่ากากระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่าความคืบหน้าล่าสุด ได้ประชุมคณะกรรมการนโยบายตลาดปาล์มพิจารณาดูเรื่องปาล์มครบวงจร ทั้งราคาผลปาล์มดิบ น้ำมันปาล์มขวดบริโภคให้อยู่ในราคาที่เหมาะสม ไม่ค้ากำไรเกินควรและดูปริมาณไม่ให้ขาดตลาด คณะอนุกรรมการชุดนี้จึงดูทั้งราคาและป้องกันสินค้าขาดตลาด โดยจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มแห่งชาติวันที่ 23 พฤษภาคมนี้ จากนั้นจะประชุมคณะอนุกรรมการฯ ทุกฝ่ายมาดูแลปาล์มทั้งระบบและสั่งการให้ตรวจสต๊อกทุกสัปดาห์และรายงาน ซึ่งคิดว่าเป็นรูปธรรมที่สุด เป็นทั้งนโยบายเชิงรุกและนโยบายเชิงลึก

“ก่อนหน้านี้ราคาผลปาล์มตกต่ำ จึงเป็นที่มาที่ส่งเสริมให้ใช้น้ำมันปาล์มมากขึ้น โดยผสมกับน้ำมันดีเซลเป็น บี 7 บี 10 บี 20 แต่พอถึงช่วงนี้น้ำมันปาล์มราคาสูงขึ้นมาก เมื่อผสมน้ำมันดีเซลทำให้ราคาสูงตามไปด้วย เป็นหน้าที่ที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติเป็นผู้พิจารณาว่าความเหมาะสมในสถานการณ์นี้ว่าอยู่ตรงไหนอย่างไร โดยให้ผู้มีหน้าที่และเชี่ยวชาญโดยตรงเข้าไปพิจารณา โดยตนดูเรื่องราคาและปริมาณไม่ให้ขาดแคลน” นายจุรินทร์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก