“ก่อแก้ว” ไม่ติดใจ เพื่อไทย ร่วมงาน ปชป. มองผลัดใบแล้ว

รัฐสภา 28 ส.ค.-“ก่อแก้ว” ไม่ติดใจ เพื่อไทย ร่วมงาน ปชป. มองผลัดใบแล้ว บอก “เฉลิมชัย-แกนนำรุ่นใหม่” ไม่อยู่ในเหตุสลายชุมนุมปี 53 ชี้ “ชวน-บัญญัติ-จุรินทร์” เป็นไม้แก่ดัดยาก พาพรรคตกต่ำ ขออย่ามองสกัดพรรคประชาชน แค่ร่วมกันทำงาน

นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะอดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แสดงความเห็นกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ตอบรับคำเชิญร่วมรัฐบาลจากพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับว่าคนเสื้อแดงจำนวนมากยังติดใจกับคำว่าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เป็นองค์กรที่บริหารโดยผู้บริหารแต่ละยุคแต่ละสมัย ซึ่งผู้บริหารในยุคปัจจุบัน คือนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นหัวหน้าพรรคและคณะ เป็นผู้บริหารหลัก ไม่ได้เป็นกลุ่มคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง กับเหตุการณ์ในช่วงปี 2553 แต่อย่างใด ซึ่งเป็นคนละทีมกัน ซึ่งทีมที่มีปัญหา ในการออกคำสั่งใช้กำลังสลายการชุมนุม ด้วยความโหดเหี้ยม วันนี้ไม่อยู่กันแล้ว สลายกันไปหมด แยกย้ายกันไปหลายที่


”พรรคประชาธิปัตย์เป็นการผลัดคนกลุ่มใหม่เข้ามาทำหน้าที่บริหารแล้ว และเท่าที่ได้สัมผัส โดยส่วนตัวหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค ก็มีมุมมองต่อการเมืองที่ดี เป็นการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองในเชิงบวก ไม่ฝักใฝ่ทหาร ไม่ฝักใฝ่อำนาจนอกระบบ และมีความตั้งใจที่จะจับมือกับพรรคการเมืองต่างๆ ในการขับเคลื่อนผลงาน ถ้าเป็นพรรครัฐบาลด้วยกัน โดยส่วนตัว ผมไม่ติดใจเลย แต่ถ้าเป็นบุคคลที่เคยเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปี 2553 และเข้ามาเป็นรัฐมนตรีอย่างนี้คงไม่เห็นด้วย“ นายก่อแก้ว กล่าว

เมื่อถามว่า แต่ชื่อของพรรคประชาธิปัตย์อาจทำให้คนเข้าใจพรรคเพื่อไทยผิดได้ นายก่อแก้ว กล่าวว่า ก็เป็นไปได้ จึงต้องอธิบายให้ฟังว่า คนละกลุ่มกัน กลุ่มนี้ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด และ อย่าลืมว่า กลุ่มนี้ เป็นกลุ่มที่มาแย่งชิงอำนาจ การบริหารพรรคประชาธิปัตย์ทำให้กลุ่มเดิมต้องทดถอยไปเรียกว่าหมดอำนาจในพรรค ซึ่งเป็นการดีเสียอีก เพราะทำให้สถาบันการเมืองเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น ทำให้การเมืองของประเทศไทยกลับเข้าสู่ในระบบ ไม่เหมือนเมื่อก่อน เวลาแพ้เลือกตั้ง ก็จะนำเข้าออกมาชุมนุมประท้วงขับไล่รัฐบาล แต่เท่าที่คุยกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค และนายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค ไม่มีแนวคิดเรื่องพวกนี้ ตั้งใจทำการเมืองในระบบให้อยู่ในรัฐสภาให้ถูกต้องตามกระบวนการ ซึ่งอยากเห็นประชาธิปัตย์เป็นไปในทิศทางนี้ เพราะฉะนั้นการที่ได้ผู้บริหารชุดนี้มาร่วมงานกัน จึงเป็นเรื่องดีเสียอีกที่จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น ส่วนกลุ่มบุคคลที่เป็นผู้บริหารเก่าๆ ที่เคยนำพาพรรคประชาธิปัตย์ในทางที่ไม่ถูกต้อง จนทำให้พรรคประชาธิปัตย์ตกต่ำอย่างมาก วันนี้เห็นแล้วว่า ได้รับผลกลับ แม้กระทั่งสมาชิกเองก็ไม่ยอมรับ ประชาชนทั่วไปก็หนีหายไปหมด โหวตเตอร์ในภาคใต้ก็หันไปเลือกพรรคอื่นเสียส่วนใหญ่


“วันนี้ผมก็คาดหวังว่าการเข้ามาของพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้บรรยากาศการเมืองดีขึ้น ช่วยลดความขัดแย้ง ช่วยลดความอคติในใจของคนเสื้อแดงด้วย และของแฟนคลับที่เหนียวแน่นของพรรค ประชาธิปัตย์ด้วย ให้หันมาทำงานการเมืองในเชิงสร้างสรรค์ด้วยกัน แข่งขันการสร้างผลงานและสร้างนโยบายที่ดีให้กับประชาชน” นายก่อแก้ว กล่าว

ทั้งนี้ ในพรรคประชาธิปัตย์ ยังมีคนเก่าๆ อยู่ อาทิ นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน สส.บัญชีรายชื่อ และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎฺ์นั้น นายก่อแก้ว กล่าวว่า 3 คนนั้น เรียกว่าเป็นไม้แก่ที่ดัดยากดัดอย่างไรก็ไม่ได้ ห่วงอย่างเดียวว่า ถ้าทั้ง 3 คนนั้นออกมาขับเคลื่อนอะไรที่ขัดแย้งกับกลุ่มผู้บริหารชุดปัจจุบัน อาจมีมีปัญหาถูกขับไล่ออกจากพรรคได้ ก็ไม่อยากให้ท่านต้องถูกขับไล่ออกจากพรรค อยากให้อยู่ แต่ว่าอยากให้อยู่ในจุดที่มีมารยาทในการอยู่เหมือนกัน เพราะวันนี้มาร่วมเป็นรัฐบาลเดียวกันแล้ว ทุกท่านต้องเข้าใจกติกาการอยู่ร่วมกันและมารยาทของแต่ละคนต้องมี เพื่อให้พรรคร่วมรัฐบาลทำงานด้วยความสมานฉันท์และเดินหน้าสร้างผลงานได้ ถ้าขัดแข้งขัดขากันเอง ก็ไม่เหมาะที่จะมาเป็นรัฐบาลร่วมกัน การตัดสินใจนำประชาธิปัตย์มาร่วม สส. ในพรรคทุกคนโอเคใช่หรือไม่ นายก่อแก้ว กล่าวว่า โดยรวมถือว่าโอเค เนื่องจาก สส. เพื่อไทย ไม่ต้องการพรรคพลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ก็เป็นโจทย์ที่ลงตัวในการแก้ปัญหา จากการที่ไม่เอาพรรคพลังประชารัฐ

ทั้งนี้ ประเมินถึงเสถียรภาพของรัฐบาลอย่างไร นายก่อแก้ว กล่าวว่า ดูในการทำงานของสมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน มีการปรับตัวเข้าหากันอยู่แทบทุกเรื่อง มีบางเรื่องที่อาจจะเห็นต่างกันบ้างแต่ก็พยายามหาทางออก แล้วคุยกัน พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่เพิ่มเข้ามา ซึ่งมีแค่ 20 เสียง ถือว่าจำนวนน้อย ซึ่งก็เข้าใจสถานการณ์และต้องปรับตัวให้ได้เหมือนพรรคอื่นๆ ในการอยู่ร่วมกัน เพราะฉะนั้นถ้าไม่มีข้อขัดแย้งสำคัญ ในนโยบายของแต่ละพรรค เชื่อว่าก็เดินหน้ากันไปเรื่อยๆได้ไม่มีปัญหา


นอกจากพรรคประชาธิปัตย์การเทียบเชิญพรรคอื่นๆ เช่น พรรคไทยสร้างไทย สส. พรรคเพื่อไทยรับได้หรือไม่ นายก่อแก้ว กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกันแล้วจากการติดตามสถานการณ์การเมือง เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยยังไม่มีแนวคิดในการเชิญพรรคอื่นที่อาจจะมีข้อขัดแย้งในการทำงานร่วมกัน ซึ่งเรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ เท่าที่ติดตาม ผู้ใหญ่ก็พยายาม หาพรรคที่ทำงานด้วยกันได้ คุยกันได้ทุกเรื่อง อย่างที่ผ่านมาในสมัยคณะรัฐมนตรีนายเศรษฐา พรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคใหญ่และมีความเห็นต่างกันในเรื่องนโยบายกัญชา แต่สุดท้ายก็หาทางออกร่วมกัน ส่วนข้อขัดแย้งอื่น เชื่อว่าคุยกันได้ ไม่มีปัญหา โดยธรรมชาติการเมืองถ้ามีทิศทางเดียวกันและใกล้เคียงกันก็ไม่มีปัญหาเลย

ทั้งนี้ คนภายนอกมองว่าการรวมกันครั้งนี้เป็นเฉพาะกิจ เพื่อสกัดกั้นพรรคประชาชน นายก่อแก้วกล่าวว่า อย่าใช้คำว่าสกัดกั้น การเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเป็นการทำงานร่วมกัน ถ้ามีพรรคการเมืองใดที่มีแนวคิดแตกต่างกัน บางพรรคก็ไม่อยากไป จับมือด้วยเพราะทำงานด้วยกันยาก เพราะฉะนั้นการที่พรรครัฐบาลชุดปัจจุบันจับมือด้วยกันก็มองว่าอยู่ในกลุ่มทำงานด้วยกันได้ คุยกันได้และมีภาพรวมที่เข้าใจกัน.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]