หลายประเทศต้องมาอันตรายจากสุราปนเปื้อนในลาว

ลอนดอน 22 พ.ย. – นักท่องเที่ยวหญิงชาวอังกฤษเป็นเหยื่อรายที่ 5 ที่เสียชีวิตเพราะต้องสงสัยว่าดื่มสุราปนเปื้อนระหว่างการท่องเที่ยวในเมืองวังเวียงของ สปป.ลาว จนหลายประเทศต้องมาเตือนถึงอันตรายดังกล่าว


กระทรวงต่างประเทศอังกฤษแถลงยืนยันเมื่อวานนี้ว่า ซิโมน บราวน์ วัย 28 ปี เสียชีวิตจากการดื่มสุราปนเปื้อนใน สปป.ลาว ขณะนี้กำลังติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของที่นั่น และพร้อมช่วยเหลือด้านต่างๆ แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต บราวน์ถือเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติรายที่ 5 ที่เสียชีวิตเพราะต้องสงสัยว่าดื่มเหล้าเถื่อนระหว่างการท่องเที่ยวในเมืองวังเวียง หลังจาก เบียงก้า โจนส์ หญิงออสเตรเลีย 19 ปี เสียชีวิตในวันเดียวกันหลังมีอาการป่วยและถูกส่งตัวเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลในจังหวัดอุดรธานี ขณะที่เพื่อนสาวอายุ 19 ปีเท่ากัน ยังคงป่วยหนักถึงขั้นต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ เวลานี้กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในประเทศ โดยมีพ่อแม่เดินทางจากออสเตรเลียมาเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด ขณะที่ทางการไทยยืนยันว่า โจนส์เสียชีวิตจากภาวะสมองบวม และพบปริมาณเมทานอลระดับสูงในร่างกาย

ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน มีนักท่องเที่ยวอเมริกัน 1 คนและเดนมาร์ก 2 คน เสียชีวิตจากสาเหตุเดียวกัน และมีสื่อต่างประเทศหลายสำนักรายงานว่า อาจมีนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ จากหลายชาติอีกอย่างน้อย 14 คนที่ล้มป่วย ในจำนวนนี้เป็นชาวอังกฤษ 6 คน หลายคนเริ่มมีอาการป่วยตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ระหว่างการท่องเที่ยวที่เมืองวังเวียง แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของ สปป.ลาว เมืองนี้ตั้งอยู่ห่างจากกรุงเวียงจันทน์ไปทางเหนือประมาณ 2 ชั่วโมง ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา บรรยากาศในเมืองนี้คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และนักท่องเที่ยวแบกเป้ ที่มาร่วมทำกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ และกระจายไปพักตามโฮสเทลราคาถูกที่มีอยู่มากมาย รวมถึงบาร์ที่มีอยู่หลายแห่งตามแหล่งท่องเที่ยวและย่านที่ชาวต่างชาติพัก


ขณะนี้ หลายประเทศทั้งอังกฤษ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ออกมาเตือนให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังอันตรายจากการดื่มสุราเถื่อน
ขณะอยู่ใน สปป.ลาว เพราะอาจปนเปื้อนเมทานอลซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต

ด้าน นานา แบ็คแพ็คเกอร์ โฮสเทล โรงแรมที่สองนักท่องเที่ยวหญิงออสเตรเลียเข้าพักและล้มป่วยก่อนเสียชีวิตไป 1 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างปิดทำการและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการสืบสวนเหตุการณ์นี้ เจ้าของโรงแรมบอกว่า นักท่องเที่ยวหญิงทั้ง 2 คนอยู่ในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาตินับร้อยคนที่ได้รับแจกเหล้าขาวพื้นเมืองคนละช็อตเมื่อสัปดาห์ก่อน จากนั้นก็ออกไปท่องราตรีกันต่อ ยืนยันว่านอกจากทั้งสองคนนี้แล้ว นักท่องเที่ยวต่างชาติคนอื่นๆ ที่พักในโรงแรมไม่มีอาการป่วยผิดปกติใดๆ และขอให้ตำรวจเร่งสืบสวนเหตุการณ์นี้ เพื่อช่วยกู้ชื่อเสียงของโรงแรมที่ตอนนี้ถูกมองว่าเป็นสาเหตุทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตและล้มป่วย.-815.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

5 แรงงานไทยปลอดภัยดี พูดคุยปกติ หลังฮามาสปล่อยตัว

“พิพัฒน์” เผย 5 แรงงานไทยปลอดภัยดี พูดคุยปกติ หลังได้รับการปล่อยตัว มอบปลัดแรงงาน ดูแลสิทธิประโยชน์กองทุนฯ ต่างประเทศ และประกันสังคม

นายกฯ ยินดีหลังได้รับยืนยัน 5 คนไทยได้รับการปล่อยตัวจากกาซาแล้ว

“นายกฯ แพทองธาร” ยินดีหลังได้รับการยืนยัน 5 คนไทยได้รับการปล่อยตัวจากกาซาแล้ว สั่ง รมต.ต่างประเทศ เดินทางไปรับตัวกลับสู่อ้อมกอดประเทศไทย พร้อมขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสำหรับการช่วยเหลือ หวังคนไทยที่เหลือจะได้รับการปล่อยตัวกลับบ้านอย่างปลอดภัย

ฮามาสปล่อย 5 ตัวประกันคนไทยแล้ว

อิสราเอลยืนยัน 5 ตัวประกันคนไทย อยู่กับสภากาชาดสากลแล้ว กำลังเดินทางข้ามแดนเข้าอิสราเอล หลังถูกกลุ่มฮามาสจับกุมไปตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.66

ศาลธัญบุรีให้ประกัน “ต้า โอริโอ้” กับพวก

ศาลธัญบุรีให้ประกัน “ต้า โอริโอ้” กับพวก คนละ 1 เเสนบาทคดีร่วมกันทำร้ายโดยใช้อาวุธ ออกคำสั่งห้ามเข้าใกล้ผู้เสียหาย นัดรายงานตัว 24 เม.ย.นี้