22 ก.ย. – “เกาะกูด” เปรียบได้ดั่งขุมทรัพย์แห่งธรรมชาติบริสุทธิ์ ทรายสีขาวสะอาดตา น้ำทะเลใสสีมรกต จนได้รับฉายาว่า อันดามันแห่งทะเลตะวันออก ไปจนถึงมัลดีฟส์เมืองไทย
ท่ามกลางกระแสการท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง หลายคนเป็นห่วงจะมีผลกระทบต่อความเป็นอยู่ จนนำไปสู่กระบวนการต่อสู้ เปลี่ยนแปลงสู่ความยั่งยืน เริ่มตั้งแต่วิถีชีวิตของคนในชุมชนเกาะกูด ที่ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีชาวเกาะกูดไว้อย่างเหนียวแน่น รักษา สานต่อ ไม่ทำลายถิ่นที่อยู่ พร้อมกับสร้างสรรค์กิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับพื้นที่มากมาย เช่น ดำน้ำปลูกปะการัง ธนาคารปู บริเวณกลางอ่าวสลัด สถานที่อนุรักษ์และเพาะพันธุ์ปูม้า โดยรับบริจาคปูม้าไข่นอกกระดองมาปล่อย
พร้อมยกระดับการเที่ยวเชิงสุขภาพผ่านกิจกรรมอาบป่า เป็นไอเดียที่ทำให้ทั้งคนในชุมชนและนักท่องเที่ยวใส่ใจพื้นที่สีเขียว โดยใช้การสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิดผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 คือ รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส ด้วยใจที่นิ่ง สงบ มีสมาธิ และที่สำคัญช่วยสร้างความรู้สึกรัก หวงแหนป่า ต้องไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม จะช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชน รวมไปถึงสังคมที่นักท่องเที่ยวอยู่
เกาะกูดเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ภาครัฐให้ความสำคัญ และพร้อมผลักดันต่อยอด แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบกติกาชุมชนเพื่อให้เกิดความสุขที่ยั่งยืนมากที่สุด.-สำนักข่าวไทย