ตรัง 16 พ.ค. – คนต่างจังหวัดที่ผ่านไปมายังเมืองตรัง ต่างให้ความสนใจวัฒนธรรมติดป้ายประกาศงานศพ แปรเปลี่ยนจากการติดใบประกาศตามบ้านเรือนมาเป็นการติดป้ายประกาศตามแยกต่างๆ
วัฒนธรรมการบอกประกาศงานศพของจังหวัดตรัง ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านที่น่าสนใจยิ่ง จากเดิมใช้วิธีการพิมพ์ใบประกาศงานศพ ซึ่งถูกนักวิชาการขนานนามว่าเป็นการ์ดเชิญที่ใหญ่ที่สุดในโลก แล้วนำไปติดตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะร้านโกปี้ หรือร้านกาแฟ ซึ่งเป็นจุดพบปะที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองตรัง เพื่อให้บรรดาญาติมิตรรู้ข่าว แล้วเดินทางมาร่วมงานศพ เพราะถือว่าได้เป็นการเชื้อเชิญแล้ว จึงนับเป็นจังหวัดเดียวของไทยที่ไม่มีการแจกการ์ดเชิญให้เดินทางมาร่วมงานศพ แต่จะใช้วิธีการบอกกล่าวกันด้วยใบประกาศแทน
โดยยุคสมัยที่แปรเปลี่ยนได้ทำให้วัฒนธรรมการบอกประกาศงานศพของจังหวัดตรัง ด้วยวิธีการพิมพ์ใบประกาศค่อยๆ ลดลง และหันมาใช้วิธีการทำป้ายไวนิล แล้วนำไปติดตามสถานที่ต่างๆ แทน โดยเฉพาะตามแยกริมถนนสายสำคัญแถวชานเมือง เนื่องจากเป็นจุดที่มีผู้คนผ่านไปมาเป็นจำนวนมาก และบางจุดถึงกับมีการติดป้ายประกาศงานศพกันยาวเหยียดนับสิบงานเลยทีเดียว หลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลายลง และอนุญาตให้สามารถจัดงานศพตามประเพณีได้ จนสร้างความฮือฮาให้กับชาวต่างจังหวัดที่เดินทางมาพบเห็นอย่างมาก
พระมหาธีระยุทธ จิตตปุญโญ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดตันตยาภิรม พระอารามหลวง และเลขานุการเจ้าคณะอำเภอเมืองตรัง บอกว่า วัฒนธรรมการติดใบประกาศ หรือติดป้ายประกาศงานศพ ถือเป็นอัตลักษณ์อันโดดเด่นของจังหวัดตรัง ที่เมื่อชาวต่างจังหวัดผ่านมาพบเห็นจะให้ความสนใจอย่างมาก โดยใบประกาศ หรือป้ายประกาศเหล่านั้น จะบอกรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับผู้ตาย อาทิ ชื่อ/นามสกุล อายุ วัน/สถานที่จัดงานศพ รวมทั้งรายชื่อเจ้าภาพ ซึ่งเปรียบเสมือนจดหมายฉบับสุดท้ายของผู้ตาย เพื่อให้ญาติมิตรเพื่อนฝูงที่รับทราบข่าวได้เดินทางมาร่วมไว้อาลัย.-สำนักข่าวไทย