นครราชสีมา 25 มิ.ย. – งานศพไร้เศร้า มีแต่รอยยิ้ม-เสียงหัวเราะ พอเปิดโลงร่ำลาครั้งสุดท้าย กลายเป็น “หลวงตากล้วย” ที่แท้เป็นการเผาหลอก แก้เคล็ดหลังสร้างเมรุใหม่ ตามความเชื่อโบราณ
งานศพนี้จัดขึ้นเหมือนงานศพทั่วไป เริ่มด้วยการตั้งสวดพระอภิธรรม ถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ สวดบังสุกุล จุดธูปเคารพศพ โดยมีชาวบ้านในชุมชนแต่งกายด้วยชุดดำไว้ทุกข์ ก่อนนำโลงผูกด้วยสายสิญจน์ เดินแห่รอบเมรุ ระหว่างเดินรอบเมรุมีการโปรยทาน แต่สังเกตได้ว่า ชาวบ้านต่างอมยิ้มและมีเสียงหัวเราะอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นภาพที่น่าประหลาดใจ ต่างจากงานศพทั่วไปที่จะโศกเศร้า
หลังนำโลงเดินแห่รอบเมรุแล้ว ก็เข้าสู่ขั้นตอนการฌาปนกิจ โดยกลุ่มชาวบ้านช่วยกันแบกโลงขึ้นเมรุ เพื่อทำพิธีฌาปนกิจ และเปิดฝาโลงให้ได้ร่ำลา สั่งเสียเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนเข้าเตาเผา แต่พอเปิดโลงออกมาก็ต้องตกใจ เพราะภายในโลงแทนที่จะเป็นศพ กลับกลายเป็นต้นกล้วย จากนั้นก็เริ่มพิธีฌาปนกิจ โดยชาวบ้านต่างเดินขึ้นมาวางดอกไม้จันทน์ และไม่ลืมที่จะส่องเลขบนฝาโลง รวมทั้งเลขบนรถเข็นโลงศพที่จะนำเข้าเตาเผา
นายอาเขต แววกระโทก ผู้ใหญ่บ้านทรัพย์เจริญ จ.นครราชสีมา เล่าว่า เนื่องจากทางวัดได้บูรณะซ่อมแซมเมรุเผาศพ ซึ่งชาวบ้านต่างก็รวมเงินกันภายในหมู่บ้าน และรับบริจาคทางเฟซบุ๊ก โอนเงินเข้ามาให้ทางวัด เพื่อสมทบทุนในการบูรณะเมรุเผาศพของวัดบ้านทรัพย์เจริญ เพราะเมรุเก่าทรุดโทรมมานาน หลังจากซ่อมแซมและทำนุบำรุงเสร็จแล้ว ตนฝันว่า มีวิญญาณหลายร้อยตนไปหาที่บ้าน จึงบอกวิญญาณเหล่านั้นไปว่า เดี๋ยวจะมีการทำบุญให้ พร้อมกับการแก้เคล็ดตามขนบธรรมเนียมประเพณีโบราณ คือ หากมีการสร้างเมรุใหม่ หรือซ่อมแซม จะต้องมีการเผาหลอก ซึ่งทางชุมชนไม่อยากให้มีใครเสียชีวิต จึงต้องมีการแก้เคล็ดด้วยการเผาหลอกก่อน โดยใช้ต้นกล้วยแทนศพคนตาย สำหรับใช้ในการเผาหลอก มีกุศโลบายคือ กล้วยนั้นเป็นการสื่อว่า อะไรยากๆ จะได้เป็นเรื่องง่ายๆ เหมือนปอกกล้วยเข้าปาก และเป็นความสามัคคีของชาวบ้านในชุมชนด้วย. – สำนักข่าวไทย