บริสเบน 15 พ.ค.- นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันของออสเตรเลียชูนโยบายทำให้ที่อยู่อาศัยมีราคาถูกลงเพื่อให้คนเป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น ในช่วงที่รัฐบาลผสมของเขามีคะแนนนิยมตามหลังพรรคฝ่ายค้านในการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในวันที่ 21 พฤษภาคมนี้
พรรคเสรีนิยมของนายกรัฐมนตรีมอร์ริสันเปิดการหาเสียงอย่างเป็นทางการที่นครเมลเบิร์น รัฐควีนส์แลนด์ในวันนี้ ขณะที่ผลสำรวจชี้ว่า รัฐบาลผสมพรรคเสรีนิยมและพรรคแห่งชาติมีแนวโน้มจะพ่ายแพ้ให้แก่พรรคแรงงานในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาครั้งที่ 47 ในวันเสาร์หน้า ปิดฉากการบริหารประเทศนานติดต่อกัน 9 ปีของรัฐบาลสายอนุรักษ์นิยม นายกรัฐมนตรีมอร์ริสันแจกแจงนโยบายที่อยู่อาศัยหวังกอบกู้คะแนนเสียงว่า จะสนับสนุนให้ผู้มีอายุ 55 ปีขึ้นไปสามารถขายอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ของครอบครัวเพื่อซื้อที่พักอาศัยขนาดเล็กลง ทำให้ในตลาดมีจำนวนที่พักอาศัยสำหรับครอบครัวเพิ่มขึ้น และส่งเสริมให้ชาวออสเตรเลียสามารถลงทุนในกองทุนเกษียณอายุนอกเหนือจากเพดานปัจจุบันได้สูงสุด 300,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (กว่า 7 ล้าน 2 แสนบาท) หากเลือกรัฐบาลผสมให้บริหารประเทศอีกครั้ง ผู้ซื้อบ้านหลังแรกจะสามารถนำเงินบางส่วนจากการออมในกองทุนดังกล่าวมาซื้อบ้านได้ ถือเป็นจุดเปลี่ยนของครอบครัวจำนวนมาก
รอยเตอร์ชี้ว่า นโยบายดังกล่าวของนายมอร์ริสันหวังลดแรงกดดันเรื่องที่อยู่อาศัยมีราคาแพง เนื่องจากการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้เน้นเรื่องค่าครองชีพสูง ความมั่นคงแห่งชาติ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นหลัก ขณะที่พรรคแรงงานชูนโยบายว่า หากได้รับเลือกตั้งจะทุ่มงบประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 24,080 ล้านบาท) ส่งเสริมการสร้างงานและกระจายฐานการผลิตอุตสาหกรรมของประเทศ.-สำนักข่าวไทย