ปักกิ่ง 4 พ.ค. – กรุงปักกิ่ง นครหลวงของจีนปิดสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินหลายสิบสถานีและระงับบริการรถโดยสารสาธารณะหลายสิบเส้นทางในวันนี้ ซึ่งเป็นแผนการในการหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 และหลีกเลี่ยงมิให้ต้องเผชิญชะตากรรมเดียวกับนครเซี่ยงไฮ้ ที่ประชาชนหลายล้านคนต้องอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดเป็นเวลานานกว่า 1 เดือนแล้ว
กรุงปักกิ่งปิดสถานีรถไฟใต้ดินมากกว่า 40 สถานี หรือ คิดเป็น 1 ใน 10 ของเครือข่ายบริการรถไฟใต้ดินทั้งหมดด และระงับบริการรถโดยสาร 158 สาย สถานีรถไฟใต้ดินและเส้นทางรถโดยสารที่ถูกระงับส่วนใหญ่อยู่ในเขตเฉาหยาง ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการระบาดของโควิด-19 ในกรุงปักกิ่ง นครหลวงของจีนแห่งนี้พบผู้ติดเชื้อรายวันต่อเนื่องวันละหลายสิบคน ทำให้กรุงปักกิ่งพยายามหลีกเลี่ยงการล็อกดาวน์เต็มรูปแบบเหมือนที่นครเซี่ยงไฮ้ดำเนินการไปก่อนหน้านี้ โดยกรุงปักกิ่งหวังว่า การตรวจหาเชื้อแบบหมู่จะทำให้พบตัวและแยกตัวผู้ติดเชื้อไวรัสก่อนที่จะแพร่เชื้อออกไป กรุงปักกิ่ง ที่มีประชากร 22 ล้านคน สั่งปิดโรงเรียนและธุรกิจบางแห่งและอาคารพักอาศัยในพื้นที่เสี่ยง ประชาชนจำนวนมากเตรียมการกักตุนอาคารและสิ่งของจำเป็นเพราะหวั่นว่าจะเกิดการล็อกดาวน์ในเร็ว ๆ นี้ เขตในกรุงปักกิ่ง 12 จาก 16 เขตตรวจหาเชื้อไวรัสเป็นรอบที่ 2 จากจำนวน 3 รอบในสัปดาห์นี้ หลังจากที่ตรวจหาเชื้อ 3 รอบไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนที่นครเซี่ยงไฮ้ เมืองสำคัญทางด้านการเงินของจีนยังไม่มีวี่แววว่าจะยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์
เมื่อช่วงคำวันอังคารที่ผ่านมา เมืองเจิ้งโจวในภาคกลางของจีนประกาศใช้มาตรการให้ทำงานจากที่บ้าน หรือ เวิร์คฟรอมโฮมและมาตรการอื่น ๆ ในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-16 ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป เมืองเจิ้งโจว ที่มีประชากร 12.6 ล้านคนและเป็นที่ตั้งของโรงงานฟอกซ์คอนน์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตไอโฟนให้กับบริษัทแอปเปิ้ล เป็นอีก 1 เมืองที่เข้าร่วมกับเมืองใหญ่ ๆ อื่น ๆ อีกหลายเมืองในการประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์.-สำนักข่าวไทย