จีน 23 ธ.ค. – กระแสความนิยมอีกอย่างหนึ่งที่ได้รับความสนใจอย่างมากในหมู่ผู้หญิงจีน หลังรัฐบาลยกเลิกนโยบายลูกคนเดียวคืออะไร ไปชมกันในสารคดีโลก
หลังจากใช้นโยบายลูกคนเดียวมานานถึง 40 ปี ในที่สุดรัฐบาลจีนได้ประกาศยกเลิกนโยบายนี้ไปเมื่อต้นปี 2559 ที่ผ่านมา ส่งผลให้บรรดาผู้หญิงที่มีอายุมากแต่ต้องการจะมีบุตรเพิ่มพากันไปใช้บริการคลินิกผู้มีบุตรยาก ด้วยเหตุที่พวกเธอวัยเกินกว่า 40 ปี ซึ่งทำให้ตั้งครรภ์ได้ไม่ง่ายนัก เพราะอยู่ในวัยที่ไข่ไม่มีคุณภาพพอจะเติบโตเป็นตัวอ่อนได้จึงต้องพึ่งพาบริการนี้ และหนทางที่จะช่วยให้พวกเธอมีบุตรได้ก็มีเพียงแค่การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ที่นำอสุจิมาผสมกับไข่ภายในหลอดแก้ว และวิธีการฉีดอสุจิเข้าไปในรังไข่ที่เรียกว่า อิ๊กซี่
เจ้าของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่งบอกว่า หลังจากรัฐบาลยกเลิกนโยบายลูกคนเดียวไป จำนวนผู้ที่เข้ามารับการรักษาภาวะมีบุตรยากก็เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 15 และยังคงเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ
สังคมจีนมองว่าการมีบุตรยากเป็นเรื่องน่าอับอาย และจะไม่นำมาพูดคุยปรึกษากันในหมู่เพื่อนฝูงหรือญาติพี่น้อง ผู้หญิงบางคนจึงเลือกไปใช้บริการของโรงพยาบาลเอกชนซึ่งให้บริการที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว และไม่ต้องเสียเวลารอคิวนาน แต่ค่าใช้จ่ายก็แพงกว่าโรงพยาบาลของรัฐ ด้วยอัตราค่าใช้จ่ายราว 40,000-45,000 หยวน (ราว 210,000-235,000 บาท)
แม้ตลอดระยะ 20 ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีการทำเด็กหลอดแก้วของจีนพัฒนาก้าวหน้าขึ้นมาก แต่ก็มีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยเลือกที่จะรักษาด้วยการแพทย์แผนจีนมากกว่าการแพทย์แผนตะวันตก เนื่องจากการแพทย์แผนจีนมุ่งเน้นไปที่การรักษาแบบองค์รวมทั่วทั้งร่างกาย ด้วยการปรับสมดุลหยินหยางในตัวผู้ป่วย ขณะที่การแพทย์แผนตะวันตกเน้นการรักษาเฉพาะจุดที่เป็นปัญหา พวกเธอจึงเชื่อว่าการแพทย์ตะวันตกเป็นอันตรายต่อสภาพร่างกายมากกว่า จึงเลือกใช้การแพทย์แผนจีนเพื่อช่วยให้มีบุตรได้อีกครั้ง. – สำนักข่าวไทย