ทหารว้าแดงยังไม่ถอนทัพชายแดนไทย

แม่ฮ่องสอน 19 ธ.ค. – ทหารว้าที่รุกล้ำเข้ามาในเขตไทย บริเวณชายแดนปาย จ.แม่ฮ่องสอน ยังไร้ความเคลื่อนไหว หลังทหารไทยเจรจาขอให้ย้ายฐานออกไป


ทหารว้าในฐานคายหลวงและฐานคอม้า ที่ตั้งอยู่บนสันเขา บริเวณชายแดนด้าน อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ที่รุกล้ำเข้ามาในเขตไทย ซึ่งมีกำลังฐานละประมาณ 50 นาย ยังไร้ความเคลื่อนไหว หลังทหารไทยได้เจรจาทั้งว้าและเมียนมาเพื่อขอให้ย้ายฐานออกไป มีรายงานว่าทางทหารว้าขอเวลาแจ้งกับหน่วยเหนือเพื่อพิจารณาก่อน ซึ่งฝ่ายไทยยังคงยึดการเจรจาเป็นหลัก

มีรายงานว่า พื้นที่ฐานของทหารว้าหรือ UWSA ทั้ง 2จุด รวมทั้งฐานย่อยหนองหลวง ซึ่งเป็นเหมือนฐานส่วนล่วงหน้า ระยะทางตามแผนที่อยู่ห่างจากหย่อมบ้านปายสองแง่ง ในตำบลเวียงเหนือ ของอำเภอปาย ราว 8 กิโลเมตร ซึ่งมีการรุกล้ำเขตแดนมาหลายสิบปีแล้ว ตั้งแต่สมัยขุนส่า ราชายาเสพติด ที่เข้ามาตั้งฐาน จนกองกำลังล่มสลาย กองกำลังชนกลุ่มน้อยในฝั่งเมียนมาเข้ามายึดฐานไว้ จนกระทั่งกองกำลังว้าเข้ามามีอิทธิพลในพื้นที่และเข้ามาใช้ฐานแห่งนี้กว่า 10 ปีแล้ว เนื่องจากเป็นพื้นที่ ที่ยังไม่มีการสำรวจและปักหมุดเขตแดนอย่างเป็นทางการระหว่างไทย-เมียนมา ต่างยึดถือแผนที่คนละฉบับ ทำให้เกิดปัญหาในการตั้งฐานทหารบนสันเขาเหลื่อมล้ำเขตแดนกันอยู่ โดยทางการเมียนมายังไม่สามารถควบคุมพื้นที่ได้อย่างเบ็ดเสร็จ จึงยังไม่สามารถสำรวจและปักหมุดเขตแดนร่วมกันได้


แม้ที่ผ่านมามีการพูดคุยกันของฝ่ายทหารทั้งสองฝ่ายในเรื่องนี้มาโดยตลอด จนมาถึงครั้งนี้ ซึ่งคาดว่าจะต้องเจรจาของทหารไทยและเมียนมาทั้งในระดับท้องถิ่นหรือทีบีซี และคณะกรรมการในระดับภาคหรืออาร์บีซี ด้วย ขณะเดียวกันที่ผ่านมา หน่วยงานด้านการป้องกันยาเสพติดของไทย จับตาพื้นที่อิทธิพลของกลุ่มว้า ซึ่งขึ้นชื่อในการผลิตและค้ายาเสพติดรายใหญ่ รวมถึงบริเวณชายแดนด้านแม่ฮ่องสอน

นายธันวา ผุดผ่อง ผู้อำนวยการ ปปส.ภาค 5 เผยด้านการข่าวกลุ่มว้าที่ตั้งฐานที่มีปัญหาลุกล้ำเขตแดนกับไทยบริเวณแนวชายแดนตรงข้าม อ.ปาย อ.ปางมะผ้า แม่ฮ่องสอน และ อ.เวียงแหง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ มีประมาณ 6-7 ฐาน กำลังเร่งจัดระเบียบ และถอยตั้งหลัก หากมีอะไรเกิดขึ้น กลุ่มว้าเองก็กลัวว่าไทยจะไปเจอกับแหล่งผลิตยาเสพติด

ด้านนายมาริษ เสงี่ยมพงศ์ รมว.ต่างประเทศ นำคณะแถลงข่าว กรณีกองทัพกลุ่มว้าแดงจะเคลื่อนฐานทัพออกจากพื้นที่ชายแดนไทยนั้น เรื่องนี้จะมีการกลับไปใช้กลไกเดิมที่มีอยู่แล้ว โดยจะหารือทวิภาคีระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันจะกลับไปใช้กลไกชายแดน ผ่านคณะกรรมการเขตแดนร่วม หรือ JBC พร้อมปฏิเสธว่า กรณีกลไกชายแดน ไม่เกี่ยวกับเรื่องการช่วยเหลือลูกเรือประมง .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

นายกฯ ปัดตอบ ผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม.

“นายกฯ อิ๊งค์” ไม่ตอบคำถามผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม. บอกพรุ่งนี้ตอบทีเดียว ก่อนแซว “ประเสริฐ” ปรับให้แล้ว เหตุพูดตำแหน่ง “จุลพันธ์” ผิด จาก รมช.คลัง เป็น รมช.มหาดไทย

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]