“อิทธิพร” ระบุยังไม่ต้องส่งหนังสือเตือน “ทักษิณ” ปมหาเสียง

กกต. 10 ม.ค.- “อิทธิพร” ระบุยังไม่ต้องส่งหนังสือเตือน “ทักษิณ” หาเสียงเกินอำนาจท้องถิ่น ผิดหรือไม่ต้องดูแต่ละกรณี แนะหาเสียงอยู่ในขอบเขตกฎหมาย


นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปปราศรัยช่วยหาเสียงในการเลือกตั้งสมาขิกและนายก อบจ. โดยการพูดถึงภาพใหญ่ของนโยบายรัฐบาล และหลังจากนั้นรัฐบาลก็รับลูกสามารถทำได้หรือไม่ ในเวทีของท้องถิ่น ว่า การพูดถึงนโยบายโดยบุคคลใดก็ตามที่เป็นปัญหาเลือกตั้งท้องถิ่น กับการหาเสียงตั้งท้องถิ่น มันเป็นสิ่งที่เกี่ยวพันกันได้ แต่จะถึงขั้นผิดหรือไม่ จะให้ตอบตอนนี้คงไม่ได้ เพราะจะสับสนและไขว้เขว่ ฉะนั้นผู้สมัคร ผู้ช่วยหาเสียงก็ต้องมีบทบาทหน้าที่ของตัวเองในการที่จะทำอะไร ให้มั่นใจว่าทำไปแล้วไม่ฝ่าฝืนกฎหมาย และอย่าลืมว่ามีมาตรา 23 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.) ว่าด้วย กกต.ที่กำหนดว่ พรรคการเมืองหรือผู้สมัครที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายเลือกตั้ง หรือพรรคการเมืองสามารถสอบถามมายัง กกต.ได้ กกต.มีหน้าที่ต้องตอบภายใน 30 วัน ซึ่งก็เป็นอีกช่องทางหนึ่ง แต่ตนก็เชื่อว่าผู้สมัครและผู้ช่วยหาเสียงนั้นตระหนักดี ว่าจะทำได้มากน้อยแค่ไหน เพราะตัวอย่างก็มี คำวินิจฉัยที่เรามีว่าเป็นอย่างไร ที่เข้าข่ายหลอกลวง เสนอว่าจะให้ ฉะนั้นถือว่าการที่จะพูดอะไรบางอย่าง มันอาจจะไม่ตรงประเด็นร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้ามันเชื่อมโยงกันได้ อย่าเพิ่งไปรีบตัดสินว่ามันถูกหรือผิด เราต้องดูพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงเป็นกรณี

เมื่อถามอีกว่า กรณีที่นายทักษิณ ปราศรัยว่าจะลดค่าไฟจาก 4 บาทให้เหลือ 3 บาทกว่า น่าจะไม่ใช่อำนาจของ อบจ.ที่จะสามารถทำได้ นายอิทธิพร กล่าวว่า ท้องถิ่นเท่าที่ตนจำได้ก็มีหน้าที่ในการให้บริการและทำนุบำรุงสาธารณูปโภค ซึ่งอันนี้ก็คือสาธารณูปโภคมีหน้าที่อย่างนั้น อย่างไรก็ตามจะให้ไปตอบตอนนี้คงไม่ได้ เพราะความเห็น อย่าลืมว่าคณะกรรมการ กกต.มี 7 คน ฉะนั้นจุดเชื่อมโยงตรงไหนที่ว่าเป็นการพูดถึงนโยบายของตัวเองโดยแท้ ไม่เกี่ยวกับการหาเสียง หรือเข้าข่ายหาเสียงหลอกลวง มันยังตอบจริงๆไม่ได้ เพราะข้อเท็จจริงที่พูดกันต้องมาดู ก่อนหน้านี้ตนก็พูดไปแล้ว ว่าอะไรทำได้ ไม่ได้มันมีเส้นแบ่งอยู่เสมอ ต้องนำข้อเท็จจริงมาประกอบ แต่ถ้าเป็นไปได้ในเรื่องของการหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่นก็ควรมุ่งเน้นที่นโยบาย ที่ผู้สมัครผู้นำมุ่งเน้นการดำเนินการเมื่อได้รับเลือกตั้ง ถ้ามันเกินขอบเขตอะไรไปแล้วมีคนร้อง ก็ต้องเอาเรื่องทั้งหมดมาดู


เมื่อถามอีกว่า กกต.ควรต้องทำหนังสือเตือนหรือไม่ ประธานกกต. กล่าวว่า คงไม่ต้องทำถึงขนาดนั้น เพราะผู้สมัครรู้ดีอยู่แล้วว่าตัวเองต้องทำอะไรบ้าง เพราะเมื่อรับสมัครเสร็จแล้วก็จะมีการประชุมเชิงสมานฉันท์แจ้งให้ทราบอยู่แล้ว ฉะนั้นผู้สมัครจะบอกว่าตัวเองไม่ทราบคงไม่ได้ ผู้สมัคร และพรรคการเมืองมีหน้าที่ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย ขณะเดียวกันพรรคการเมืองก็ต้องดูแลสมาชิกให้ปฏิบัติไปตามกฎหมาย มันก็จะไม่เกิดปัญหาความก้ำกึ่งอะไรแบบนี้ก็จะเป็นประเด็นขึ้นมา แล้วถ้ามาให้ กกต.พิจารณา ผู้สมัครเมื่อแต่งตั้งผู้ช่วยหาเสียงแล้ว ทั้งผู้สมัครและผู้ช่วยหาเสียงต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตัวเองพูดไป ผู้สมัครก็ต้องรู้ ว่าจะปฏิบัติตามกฎหมายอย่างไร ผู้ช่วยหาเสียงก็ต้องรู้ว่าผู้สมัครของตัวเองมีนโยบายอย่างไร และหาเสียงช่วยสนับสนุนในประเด็นที่เป็นอำนาจหน้าที่ในกรอบที่กฎหมายกำหนด

เมื่อถามว่า ขณะนี้ กกต.ได้จับตาจังหวัดไหนเป็นพิเศษหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ทุกจังหวัด ผอ.กกต.ทำงานเรื่องของการเลือกตั้งอย่างเข้มข้นตั้งแต่ปี 2561 ตระหนักในสถานการณ์ของจังหวัดตัวเอง อาจมีบางจังหวะที่จะต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ ให้การแข่งขันเป็นไปตามกฎกติกา อย่างจังหวัดปราจีนบุรี ทีมสอบสวนของกกต. ก็จะลงพื้นที่ 2 สัปดาห์ก่อนวันเลือกตั้ง เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า การแข่งขันจะอยู่ในกรอบกติกา ส่วนจังหวัดอื่นก็มีการพูดคุยกับผู้บังคับการตำรวจภูธรเป็นประจำอยู่แล้ว ซึ่งตำรวจเอง ก็ทราบว่าสถานการณ์การแข่งขันแต่ละพื้นที่ว่ามีความเข้มข้นขนาดไหน ถ้าพื้นที่ไหนมีความเข้มข้นมากก็จะมีทีมงานของกกต.ร่วมกับตำรวจ ก็จะเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีคำร้องเกี่ยวกับการหาเสียงของนายทักษิณ เข้ามา .314.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก จะทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์

พรรคภูมิใจไทย 10 ก.ย.-“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก ขอนำประสบการณ์ที่มีทั้งหมด ทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขอบคุณเสียงชื่นชม-ความคาดหวัง เป็นกำลังใจทำงาน รับทำไม่ได้ทุกเรื่อง แต่จะเลือกทำสิ่งที่เกิดผลอย่างดีที่สุด นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเปิดใจถึงความมุ่งมั่นที่เข้ามารับตำแหน่งในครั้งนี้ว่า ตนมีความตั้งใจเหมือนนายกฯ พูดไปแล้วว่า ระยะเวลาสั้นๆ นี้ เป็นระยะเวลาที่มีความท้าทาย และมีความสำคัญมาก ประเทศเราต้องเดินไปข้างหน้า ไม่ว่าจะระยะเวลาสั้นแค่ไหน “ดิฉันในฐานะที่มีโอกาสได้ทำงานมาหลากหลาย รวมถึงงานระหว่างประเทศด้วย ตั้งใจจะนำเอาประสบการณ์ ความสามารถที่มีอยู่ทั้งหมด มาทุ่มเทให้ในระยะเวลาสั้นๆ นี้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งมีธงเดียวกับนายกฯ คือ ทำประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศชาติและพี่น้องประชาชนให้ได้อย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ” นางศุภจี กล่าว เมื่อถามว่า สังคมชื่นชมและคาดหวังผลงานต่อจากนี้ นางศุภจี กล่าวว่า ขอบคุณที่ได้รับการชื่นชม และได้รับการคาดหวัง ถือเป็นกำลังใจที่ดีอย่างยิ่ง และจะยิ่งเป็นกำลังใจที่ทำให้ทุกคนไม่ผิดหวัง ดังนั้นก็จะประสานมือกับทีมงานทุกคนภายใต้นโยบายของนายกฯ และนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ ทำเรื่องเศรษฐกิจของประเทศไทยให้กลับมาให้ได้ ภายในระยะเวลาอันสั้น เมื่อถามว่า ถือเป็นการบ้านที่หนักหรือไม่ เพราะเข้ามาในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศเป็นแบบนี้ นางศุภจี กล่าวว่า […]

ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ถอนอาวุธหนัก เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์

กัมพูชา 10 ก.ย.- ไทย-กัมพูชา เดินหน้าคืนสันติภาพชายแดน ผลประชุม GBC สมัยพิเศษ ที่เกาะกง สรุป 5 ประเด็นสำคัญ ตั้งแต่ถอนอาวุธหนัก เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์ ไปจนถึงจัดการพื้นที่พิพาท รมช.กลาโหม ย้ำสองประเทศต้องอยู่ร่วมกันด้วยสันติวิธี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ วันที่ 10 กันยายน 2568 ณ จังหวัดเกาะกง ราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการตามผลการประชุม GBC ที่มาเลเซียที่ผ่านมา เพื่อนำสันติภาพและความสงบสุขกลับมาสู่พื้นที่ชายแดนได้อย่างถาวร พร้อมย้ำถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ในภาพรวม หลังการหยุดยิงดำเนินมากว่า 1 เดือน ว่ามีความสงบมากขึ้น แม้ยังมีข้อกังวลบางประการที่ต้องแก้ไข เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กลับมาเต็มร้อย โดยผลการประชุมสรุปประเด็นสำคัญได้ดังนี้ 1. การถอนอาวุธหนักและยุทโธปกรณ์ทำลายล้างสูง ออกจากพื้นที่ชายแดนกลับสู่ที่ตั้งปกติ โดยฝ่ายเลขานุการ GBC และ RBC จะหารือกันภายใน 3 […]

พนังกั้นน้ำขาด ทะลักท่วมนาข้าว-ถนนถูกตัดขาด

ร้อยเอ็ด 10 ก.ย. – ผลพวงอุทกภัยจากพายุหนองฟ้า ทำพนังกั้นลำน้ำยัง บ้านทรายมูล ต.ขวาว อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ทรุดตัวและขาด ส่งผลมวลน้ำทะลักท่วมนาข้าวเกือบพันไร่ เส้นทางสัญจรถูกตัดขาด ภาพนาทีน้ำจากตอนบนในพื้นที่ อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ไหลทะลักท่วมพื้นที่ ทำให้พนังกั้นลำน้ำยัง บ้านทรายมูล ต.ขวาว อ.เสลภูมิ ถูกน้ำกัดเซาะจนทรุดและขาดกว้างประมาณ 5 เมตร ยาว 6 เมตร และเอ่อเข้าท่วมนาข้าวของชาวบ้าน 3 ตำบล คือ ต.ขวาว, ต.นางาม และ ต.นางาม ชาวบ้านและผู้นำชุมชนต้องระดมเครื่องจักรกล ถุงบิ๊กแบ็ก เข้าอุดพนังที่ขาด เพราะวิตกว่ามวลน้ำจำนวนมากจะทำให้นาข้าวที่กำลังหว่านปุ๋ยรับรวง จำนวนเกือบ 1,000 ไร่ เสียหาย จนไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด ได้สั่งการให้ ปภ. ประสานนำเครื่องจักรกลหนักเข้าเสริมกั้นน้ำ นำถุงบิ๊กแบ็ก 280 ถุง เข้า จัดวาง […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย