กรุงเทพฯ 10 เม.ย. – ปภ.แนะคนพร้อม รถพร้อม เตรียมเส้นทาง ขับรถยึดหลักปลอดภัย สงกรานต์ไร้อุบัติเหตุ
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า เทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงที่มีสถิติอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าปกติ โดยมีสาเหตุหลักจากพฤติกรรมเสี่ยงของผู้ขับขี่ รวมถึงสภาพรถและเส้นทางไม่ปลอดภัย พร้อมแนะนำข้อควรปฏิบัติในการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน และหลักขับรถอย่างปลอดภัย ด้วยการเตรียมร่างกายให้พร้อมขับรถ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง ไม่อดนอนติดต่อกันหลายวัน ไม่ขับรถติดต่อกันเป็นเวลานาน เพื่อป้องกันการหลับในขณะขับรถ รวมทั้งหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการง่วงนอน ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่รับประทานยาที่มีฤทธิ์กดประสาท เพราะทำให้สมรรถนะในการขับขี่ลดลง
นอกจากนี้ ต้องตรวจสอบสภาพรถให้พร้อมใช้งาน โดยเฉพาะระบบเครื่องยนต์ ระบบเบรก ยางรถยนต์ สัญญาณไฟ จัดเตรียมอุปกรณ์ประจำรถ อาทิ ยางอะไหล่ สายพ่วงแบตเตอรี่ ประแจ ป้ายสามเหลี่ยมสะท้อนแสง ชุดอุปกรณ์ลาก พ่วง จูง ตลอดจนตรวจสอบข้อมูลเส้นทาง จากแผนที่ เว็บไซต์ แอปพลิเคชันแนะนำเส้นทาง ระบบนำทางอัจฉริยะ (GPS Navigator)รวมถึงเตรียมเส้นทางสำรองและเผื่อเวลาการเดินทาง เลือกใช้เส้นทางที่ปลอดภัย เพิ่มความระมัดระวังเมื่อขับรถผ่านเส้นทางชำรุด อยู่ระหว่างการซ่อมแซม หรือเส้นทางไม่คุ้นเคย ขับรถปลอดภัยปฏิบัติตามกฎจราจร ใช้อุปกรณ์นิรภัยทุกครั้ง ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถจักรยานยนต์ควรสวมหมวกนิรภัยที่ได้มาตรฐานและมีขนาดพอดีกับศีรษะ ส่วนผู้ขับขี่และโดยสารรถยนต์ควรคาดเข็มขัดนิรภัยแนบชิดลำตัว รวมถึงให้เด็กเล็กนั่งที่นั่งนิรภัยที่จัดไว้บริเวณกึ่งกลางของเบาะด้านหลังรถ ปฏิบัติตามกฎจราจรและป้ายจราจรอย่างเคร่งครัด เพิ่มความระมัดระวังเมื่อขับรถผ่านจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ โดยเฉพาะเส้นทางที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ทางโค้ง ทางแยก เขตชุมชน ทางตรงที่มีระยะทางยาว และจุดตัดทางรถไฟ เลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ ไม่ขับรถเร็ว ดื่มไม่ขับ ง่วงไม่ขับ หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ไม่แซงในระยะกระชั้นชิด หรือเปลี่ยนช่องทางกะทันหัน ไม่ขับย้อนศร ไม่ขับรถฝ่าสัญญาณไฟจราจร
ทั้งนี้ ผู้ขับขี่ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วประสบอุบัติเหตุ หากปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จะได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 10,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบขับขี่ ขณะที่กฎหมายกำหนดความเร็วของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ตามประเภทของถนน โดยถนนในเขตกรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา และเขตเทศบาล ให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทางหลวงชนบทให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 70 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 สายกรุงเทพมหานคร-เมืองพัทยา ทางหลวงหมายเลข 9 (ถนนกาญจนาภิเษก) ถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร เฉพาะรถยนต์ ให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งผู้ขับขี่ขับรถเร็วเกินกว่าอัตรากฎหมายกำหนด มีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท
อย่างไรก็ตาม การเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนขับรถ การตรวจสอบสภาพรถให้พร้อมใช้งาน การจัดเตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉินไว้ประจำรถ การปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด รวมถึงคาดเข็มขัดนิรภัย สวมหมวกนิรภัย และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ จะช่วยให้การเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ปลอดภัยจากอุบัติเหตุทางถนน. – สำนักข่าวไทย