ปภ. เตรียมพร้อมรับมืออุทกภัยภาคใต้

ปภ. 6 พ.ย.-ปภ. เตรียมพร้อมรับมืออุทกภัยภาคใต้ ย้ำให้จังหวัดเตรียมการรับมือล่วงหน้า กำชับศูนย์ ปภ. เขตเตรียมเครื่องจักรกลออกปฏิบัติการ พร้อมส่ง KA-32 จำนวน 1 ลำ ประจำการที่สุราษฎร์ฯ สนับสนุนภารกิจอย่างทันท่วงที

นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า จากการที่กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) ได้ติดตามการคาดหมายลักษณะอากาศร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ประเทศไทยมีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือปกคลุม ประกอบกับมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยเป็นระยะ และอาจมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนตัวผ่านเข้าใกล้หรือเคลื่อนเข้าสู่บริเวณภาคตะวันออกต่อเนื่องลงมาถึงบริเวณอ่าวไทยตอนบน รวมถึงภาคใต้ของประเทศไทย ซึ่งทำให้มีฝนตกชุก และอาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ภาคใต้ ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมีความห่วงใยในความปลอดภัยของประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบ จึงได้มีข้อสั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในฐานะหน่วยงานกลางของรัฐในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของประเทศ เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยที่อาจเกิดขึ้น เพื่อป้องกันอันตรายและลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชน


นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้เน้นย้ำ 14 จังหวัดภาคใต้ รวมถึงจังหวัดเพชรบุรีและจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ให้ร่วมกันทำงานอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อความปลอดภัยของประชาชน โดยในส่วนของการเตรียมการนั้น ได้กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด วางแผนติดตั้งเครื่องจักรกลสาธารณภัยในพื้นที่เสี่ยงภัยล่วงหน้าเพื่อลดความรุนแรงของสถานการณ์ภัย และเตรียมความพร้อมจุดอพยพและศูนย์พักพิงให้พร้อมใช้งานเมื่อมีความจำเป็นต้องอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย ในด้านการดูแลความปลอดภัยของสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ให้กำหนดมาตรการปิดกั้นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ อาทิ น้ำตก ถ้ำ ชายหาด ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่ในช่วงที่มีความเสี่ยงอันตราย และประสานผู้ประกอบการริมชายฝั่งห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำในช่วงที่มีคลื่นลมแรง สำหรับการเดินเรือ ให้แจ้งผู้ประกอบการเดินเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และห้ามออกเดินเรือในช่วงที่มีคลื่นลมแรงโดยเด็ดขาด และที่สำคัญที่สุด ให้จังหวัดให้ความสำคัญกับการประชาสัมพันธ์ประชาชนให้ทราบถึงสถานการณ์ภัยในพื้นที่ วิธีการเตรียมพร้อมรับมือและแนวทางการปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยผ่านทุกช่องทางการสื่อสารอย่างต่อเนื่อง รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนทันทีในกรณีที่สถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงหรือมีความจำเป็นต้องอพยพออกจากพื้นที่

สำหรับการเผชิญเหตุเมื่อเกิดสถานการณ์ภัยขึ้น ให้ระดมกำลังพล อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบทันทีที่เกิดสถานการณ์ โดยให้ความสำคัญกับการดำรงชีพของประชาชน โดยเฉพาะการจัดระบบการแจกจ่ายสิ่งของช่วยเหลือเพื่อให้ประชาชนมีสิ่งของจำเป็นใช้ในการดำรงชีพอย่างเพียงพอ หากสถานการณ์มีความรุนแรงให้เร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ และดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างดีที่สุดจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ และเมื่อสถานการณ์คลี่คลายแล้ว ให้เร่งสำรวจความเสียหายให้ครอบคลุมครบทุกด้าน เพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง และฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่สภาพเดิมโดยเร็ว


นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า การดำเนินงานของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้กำชับให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย ได้แก่ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 12 สงขลา และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 18 ภูเก็ต ให้สำรวจและจัดเตรียมอุปกรณ์และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้พร้อมใช้งาน รวมถึงจัดทีมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการให้พร้อมออกปฏิบัติการทันทีที่ได้รับการประสานขอรับความช่วยเหลือจากจังหวัดที่เกิดสถานการณ์ภัย และเพื่อเป็นการเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ขณะนี้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ร่วมกับกองทัพบกส่งเฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 จำนวน 1 ลำ ลงไปประจำที่ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งได้ยกตัวขึ้นบินจากฐานประจำการ จ.ลพบุรี แล้วเมื่อวานนี้ (5 พ.ย.67) และลงจอด ณ ค่ายวิภาวดีรังสิต จ.สุราษฎร์ธานี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมปฏิบัติภารกิจทันทีที่ได้รับการร้องขอจากพื้นที่

ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและรายงานเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยประชาชนสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์ ข่าวสารสาธารณภัย ได้ทาง Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews รวมถึงติดตามการประกาศแจ้งเตือนภัยได้ทางแอปพลิเคชัน “Thai Disaster Alert” ทั้งระบบ IOS และ Android และหากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง.-314.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

เชิญชวนร่วมงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025”

“กำภู-รัชนีย์” พาทัวร์งาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025” ณ ลานจอดรถ บมจ.อสมท พบปะผู้ประกาศ ดีเจ และอินฟลูเอนเซอร์ รวมไปถึงศิลปินที่จะมาร่วมสนุกในงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟู ปาร์ตี้ 2025”

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

แม่คะนิ้งโผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดอุทยานฯ พรุ่งนี้

จังหวัดเลย อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ “แม่คะนิ้ง” โผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดให้ท่องเที่ยวพรุ่งนี้ (23 ธ.ค.) หลังปิดมา 9 วัน จากเหตุช้างป่า