เชียงใหม่ 23 พ.ย.-มวลน้ำมหาศาลผุดขึ้นจากใต้ดิน เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เกษตร และบ้านเรือนประชาชน หลายหมู่บ้าน ใน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ระดับน้ำบางจุด ท่วมบ้านเกือบถึงหลังคา พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 400 ไร่
เหตุการณ์นี้ ทำให้ชาวบ้าน หนองหมูฮ่อ หรือบ้านรินหลวง หมู่ 3, บ้านหนองเขียวและบ้านหนองวัวแดง หมู่ 12 และหมู่บ้านอรุโณทัย หมู่ 10 ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับผลกระทบหนักถูกน้ำท่วมขังสูง บางหลังสูงเกือบถึงหลังคาบ้าน พืชผลทางการเกษตร อย่างข้าวโพด อะโวคาโด ลำไย มะม่วง จมอยู่ใต้น้ำ ได้รับความเสียหายราว 400 ไร่
นอกจากนี้น้ำที่ผุดขึ้นมา ยังเอ่อเข้าท่วมถนน ที่เป็นเส้นทางเชื่อมต่อ ระหว่างบ้านหนองเขียว และบ้านหนองหมูฮ่อ มีความลึกประมาณ 8 เมตร ทำให้รถไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ชาวบ้านต้องอ้อมไปใช้เส้นทางเส้นทางเลี่ยง ซึ่งน้ำท่วมขังมานานเกือบ 2 เดือน ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวแล้ว ปกติน้ำผุดขึ้นมา มีปริมาณไม่มากขนาดนี้ และไม่นานก็จะลดลง
ดร.พบพร เศรษฐพฤกษา ผู้อำนวยการสำนักทรัพยากรน้ำบาดาลเขต 1 (ลำปาง) และหน่วยงามที่เกี่ยวข้อง เดินทางเข้าพื้นที่ และได้เปิดเผยถึงสาเหตุของการเกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้ว่า พื้นที่ดังกล่าวมีลักษณะภูมิประเทศ เป็นที่ราบหุบเขา มีหลุมยุบขนาดใหญ่ ขนาบด้วยเขาหินปูน และมีหลุมยุบอยู่หลายแห่ง ซึ่งเกิดจากการยุบตัวของถ้ำหินปูนที่อยู่ใต้ดิน เกิดขึ้นมานานนับล้านปีแล้ว ประกอบกับปีนี้ มีปริมาณฝนตกลงมาเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เกิดปรากฏการณ์ การลักน้ำของถ้ำ จึงทำให้น้ำที่ไหลลงไปใต้ดิน ล้นจนไหลย้อน ขึ้นมาบนผิวดินอย่างต่อเนื่อง จนกว่าระดับการไหลของน้ำบาดาลข้างล่างจะไหลไปเรื่อยๆ และน้ำที่ผุดขึ้นมา ถึงจะลดลงไปตามระดับ และจากการคำนวนปริมาณน้ำคร่าวๆ ที่ท่วมในทุกพื้นที่ ในตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว แล้วคาดว่ามีมวลน้ำมากถึง 5-6 ล้านลูกบาศก์เมตร บางพื้นที่มีน้ำท่วมสูงถึง 10-20 เมตร เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ
ส่วนการแก้ปัญหาดังกล่าว กรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้วางแนวทางในการแก้ปัญหาเป็นระยะๆ คือ ระยะเร่งด่วน ขณะที่เกิดน้ำท่วมขังในตอนนี้ ยังมีอีกพื้นที่หนึ่ง ที่ยังขาดแคลนน้ำใช้ จึงวางแผนสูบน้ำที่ท่วมขังอยู่ตอนนี้ขึ้นไปเก็บในอ่างเก็บน้ำ ที่อยู่บนที่สูง และไม่มีน้ำอยู่ในตอนนี้ คือที่โครงการหลวงหนองเขียว มีความจุอยู่ที่ประมาณ 25,000 ลูกบาศก์เมตร และอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก ในพื้นที่บ้านอาข่าและบ้านหนองวัวแดงอีก 2 แห่งที่มีความจุ 12,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะทำให้ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์จากน้ำที่ผันขึ้นไปเก็บด้วย
สำหรับการแก้ปัญหาในระยะยาว กรมทรัพยากรน้ำบาดาลจะดำเนินการสำรวจบริเวณที่มีน้ำผุด และสำรวจหาแหล่งน้ำบาดาลในพื้นที่ เพื่อพิจารณาแนวทางการพัฒนาน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ประโยชน์ ร่วมกับน้ำผิวดิน โดยหลังจากได้รับงบประมาณแล้วจะเร่งดำเนินการ ในระยะเร่งด่วนทันที ให้แล้วเสร็จภายใน 60 ถึง 90 วัน.-สำนักข่าวไทย