พรรคประชาธิปัตย์ 23 มี.ค.-ปชป.ตั้ง “ปริญญ์” ผอ.เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.-สก. – วอนชาว กทม.เปิดใจหนุนเหมือนในอดีต
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความพร้อมของพรรคในสนามการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร(ส.ก.) ว่า หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และกรรมการบริหารพรรคฯ มีมติ แต่งตั้งนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.และส.ก. โดยจะนำทีมเศรษฐกิจทันสมัยและความเชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจที่เป็นคนรุ่นใหม่มาทำงาน เพื่อนำเทคโนโลยี กลยุทธ์การเลือกตั้งที่ทันสมัย และสอดคล้องกับสถานการณ์มาใช้ในการเลือกตั้ง เพื่อผลักดันและขับเคลื่อนภารกิจการเลือกตั้งร่วมกับพรรค และนำชัยชนะมาสู่พรรคต่อไป โดยมีรองผู้อำนวยการศูนย์ 9 คน อาทิ ม.ล.อภิมงคล โสณกุล อดีตส.ส.กรุงเทพฯ นายณัฏฐ์ บรรทัดฐาน อดีตส.ส.กรุงเทพฯ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ และนางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒน์ชัย รองโฆษกพรรค
“การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.และ ส.ก. ที่กำลังจะเกิดขึ้น สำคัญต่อบ้านเมือง และจำเป็นต้องได้ผู้นำที่จะมาเปลี่ยนแปลงกรุงเทพมหานครและประเทศในอนาคต ซึ่งพรรคทุ่มเทและนำเสนอบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ พร้อมทำงานทันที และทำได้จริงตามนโยบาย ที่จะนำเสนอหลังการรับสมัครเลือกตั้ง เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน ตอบโจทย์ปัญหาและช่วยกันพัฒนากรุงเทพฯ ให้ดียิ่งขึ้น จึงขอให้ชาวกรุงเทพฯ พิจารณาผู้สมัครของพรรคทั้งผู้ว่าฯ กทม.และส.ก.ทั้ง 50 เขต เหมือนในอดีตที่เคยให้การสนับสนุนต่อเนื่องตลอดมา” นายองอาจ กล่าว
ด้านนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรค กล่าวว่า ขอให้ชาวกรุงเทพฯ เปิดใจรับฟังนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ในการสร้างกรุงเทพฯ และเปลี่ยนกรุงเทพฯ มั่นใจว่าผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ จะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงในกรุงเทพมหานครได้
ขณะที่นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงภาพรวมการช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์โควิด พื้นที่กรุงเทพมหานคร พร้อมแถลงยุติการตั้งศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินโควิด-19 ของพรรคฯ ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว หลังสถานการณ์โควิด-19 รุนแรงจนเกินการรับมือของระบบสาธารณสุข เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร หรือ ส.ก. พร้อมยืนยันความตั้งใจในการช่วยเหลือประชาชนในกรุงเทพฯ ตลอด 1 ปี ที่ผ่านมา ทั้งกรณีที่ประชาชนรวม ที่ไม่สามารถเข้าถึงเตียงรักษาโควิด-19 ได้ หรืออาการรุนแรงเชื้อลงปอด รวมถึงการนำสิ่งของ และอาหารจำเป็น แจกจ่ายให้แก่ประชาชนตามชุมชนต่าง ๆ.-สำนักข่าวไทย