เฮก 24 ก.พ. – ประเทศแกมเบียกล่าววานนี้เรียกร้องให้ศาลโลกไม่ยอมรับคำคัดค้านของเมียนมาให้ยุติการสอบสวนในคดีที่เมียนมาถูกกล่าวหาว่ากระทำการที่เป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมโรฮิงญา โดยระบุว่า แกมเบียไม่ได้เป็นตัวแทนของไคร
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รัฐบาลทหารเมียนมา ซึ่งก่อรัฐประหารและควบคุมตัวนางอองซาน ซูจี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนที่ถูกยึดอำนาจเอาไว้ตั้งแต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว เรียกร้องให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice) หรือ ศาลโลก ยุติการดำเนินคดีนี้ เนื่องจากแกมเบีย ปฎิบัติตัวเป็นตัวแทนกระทำการแทนผู้อื่นและไม่อยู่ในฐานะตามกฎหมายที่จะยื่นฟ้องเรื่องนี้ต่อศาลโลก คดีที่มีการกล่าวหาว่า เมียนมาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์นี้ เป็นคดีที่แกมเบียยื่นเรื่องให้ศาลโลกได้พิจารณาเมื่อปี 2019 โดยแกมเบีย ซึ่งประชากรนับถือศาสนาอิสลามเป็นส่วนใหญ่ ได้รับการสนับสนุนจากองค์การความร่วมมืออิสลามที่มีสมาชิก 57 ประเทศ ทั้งเมียนมาและแกมเบียลงนามเข้าเป็นภาคีสนธิสัญญาว่าด้วยการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ปี 1948 แกมเบีย แย้งว่า เมียนมาละเมิดอนุสัญญาฉบับนี้ โดยอ้างเหตุการณ์เมื่อปี 2017 ที่ชาวมุสลิมโรฮิงญากว่า 730,000 คน ต้องอพยพออกจากเมียนมาไปยังบังกลาเทศหลังถูกกองทัพเมียนมากวาดล้าง คณะทำงานค้นหาข้อเท็จจริงของสหประชาชาติลงความเห็นว่า การกระทำของทหารเมียนมาเข้าข่ายการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ดอว์ดา จาลโลว์ อัยการสูงสุดและรัฐมนตรียุติธรรมแกมเบียกล่าวว่า ตามอนุสัญญานั้น แกมเบียสามารถยื่นเรื่องของเมียนมาต่อศาลโลกได้ และศาลโลกจะเป็นผู้ที่ทำให้เมียมาต้องรับผิดชอบในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญา หากศาลไม่รับคำคัดค้านของเมียนมา ก็คาดว่าศาลจะลงความเห็นเรื่องขอบเขตอำนาจในการตัดสินคดีในปลายปีนี้ หากคดีนี้เดินหน้าต่อไป คาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาคดีอีกหลายปีกว่าจะสิ้นสุด.-สำนักข่าวไทย