เวลลิงตัน 10 ก.พ.- ตำรวจนิวซีแลนด์จับกุมผู้ประท้วงมากกว่า 50 คนและเริ่มบังคับให้ผู้ประท้วงหลายร้อยคนเคลื่อนย้ายออกจากจุดที่ปักหลักอยู่ที่หน้ารัฐสภาเป็นวันที่ 3 ซึ่งเป็นการรวมตัวต่อต้านมาตรการบังคับฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และมาตรการที่เป็นข้อจำกัดอื่น ๆ
นายเทรเวอร์ มัลลาร์ด ประธานสภาผู้แทนราษฎรนิวซีแลนด์สั่งปิดพื้นที่รอบอาคารรัฐสภา หลังจากผู้ประท้วงเผชิญหน้ากับตำรวจ และมีการขว้างปาขวดน้ำใส่ตำรวจ หลายคนเผยว่า ตนเองฉีดวัคซีนแล้วแต่ไม่เห็นด้วยกับการบังคับฉีดวัคซีน และต้องการเสรีภาพในการดำเนินชีวิตกลับคืน เพราะมาตรการบังคับและจำกัดทำให้ต้องตกงานและกระทบกับการดำเนินชีวิต ตำรวจระบุว่า ผู้ถูกจับกุมจะถูกตั้งข้อหาบุกรุกและขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และขอให้เจ้าของยวดยานเคลื่อนย้ายรถที่ปิดกั้นถนนรอบอาคารรัฐสภา ไม่เช่นนั้นจะใช้กำลังบังคับ
ชาวนิวซีแลนด์จำนวนมากนำรถประเภทต่าง ๆ มาจอดปิดกั้นถนนใกล้อาคารรัฐสภาในกรุงเวลลิงตัน ประท้วงมาตรการเรื่องโควิด เลียนแบบคนขับรถบรรทุกในแคนาดาที่นำรถไปจอดปิดกั้นด่านข้ามพรมแดนติดกับสหรัฐเป็นวันที่ 13 แล้ว นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ขอให้ผู้ประท้วงเคลื่อนย้ายออก เพราะไม่ใช่การแสดงความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ เธอยอมรับว่าประชาชนมีสิทธิประท้วง แต่ต้องไม่รบกวนชีวิตผู้อื่น และการรื้อม็อบถือเป็นปฏิบัติการของตำรวจ อย่างไรก็ดี นับจนถึงเวลา 14:45 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 08:45 น.วันนี้ตามเวลาในไทย ผู้ประท้วงจำนวนมากยังคงปักหลักอยู่ แม้ว่าตำรวจแจ้งเตือนและพยายามเข้าสลายการชุมนุมปักหลักของผู้ประท้วง.-สำนักข่าวไทย