ผู้ว่าฯ หมูป่า ขอบคุณผู้ใหญ่ทาบทามลงชิงผู้ว่าฯ กทม. แย้มขาดคุณสมบัติ

ปทุมธานี 14 ธ.ค.- “ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์” เผยไม่ถนัดเข้าไปอยู่พื้นที่หัวใจของประเทศ ขอดูแลพี่น้องในส่วนภูมิภาค บอกมาสายราชการ อยากอยู่จนเกษียณอายุ ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีทาบทามไปลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. แย้มคุณสมบัติไม่ได้

เมื่อเวลา 15.56 น. วันที่ 14 ธ.ค. 2564 ที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ถึงกระแสข่าวเตรียมไปลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามพรรคพลังประชารัฐ ว่า หากทำงานกับตนเองมาจะรู้ว่าคนเรามีหมวกที่สวมคนละบทบาท ซึ่งเมื่อเดินมาทางสายราชการ และเดินมาทางนี้แล้ว จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด โดยตนเองเติบโตมาจากกรมที่ดิน ก่อนจะได้รับการแต่งตั้งมาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พะเยา ลำปาง และปทุมธานี แม้จะอยู่สั้น แต่ทำงานเต็มที่


“เพราะเมื่อยังสวมหมวกราชการ อยากจะสวมหมวกราชการให้ดีที่สุด แล้วความภาคภูมิใจของราชการที่ดีที่สุดก็คือ การเดินจากราชการไปอย่างสง่าผ่าเผย คือความตั้งใจ และเป็น intention (เจตนา) จริงๆ มีคนเคยถามผมว่า แล้วหลังชีวิตราชการจริงๆ อยากไปไหน ผมบอกว่า ผมอยากสอนหนังสือ ถ้าใครจำที่ถ้ำหลวงได้ วันนี้ความตั้งใจคืออยากเกษียณอายุราชการ และอยากสอนหนังสืออยู่เสมอ” ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ กล่าว

นอกจากนี้ นายณรงค์ศักดิ์ ยังระบุว่า การเป็นผู้ว่าฯ แต่ละจังหวัดต้องย้ายทะเบียนบ้านเข้าจังหวัดนั้นๆ โดยวันนี้ทะเบียนบ้านของตนเองยังอยู่ที่ปทุมธานี ดังนั้นคุณสมบัติจึงเป็นไปไม่ได้ จึงขอบคุณพี่น้อง ผู้ใหญ่ใจดีหลายๆ คนที่พยายามชวนและทาบทาม และถือเป็นการให้เกียรติ รวมถึงกรณีที่มีประชาชนบอกอยากให้ไปช่วย กทม. ถือเป็นเกียรติยศอย่างสูง แต่ตนเองเพิ่งย้ายมาอยู่ปทุมธานีแค่ 2 เดือน จึงไม่รู้จะตอบคนปทุมฯ อย่างไร พร้อมเชื่อว่าใน 3 จังหวัดที่ผ่านมามีคนรักมากกว่าคนเกลียด ถือเป็นความภาคภูมิใจของตนเองและครอบครัว อีกทั้งเชื่อว่าจากการที่มาอยู่ 2 เดือน คนปทุมฯ เห็นความเปลี่ยนแปลง อยากให้เป็นผู้ว่าฯ ปทุมธานีต่อ จึงขอให้สื่อมวลชนไปตีความเอง


ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า กังวลหรือไม่ชีวิตข้าราชการจะถึงทางตัน โดย นายณรงค์ศักดิ์ ระบุว่า ในฐานะของข้าราชการ และในวันนี้สวมบทบาทพ่อเมือง ภูมิใจที่เป็น 1 ในนั้น จริงๆ แล้วตนเองอยากเกษียณ ตอนอายุ 60 ปี และอยากอยู่กับครอบครัว เพราะตลอดเวลาที่ทำงานไม่ค่อยได้ดูแลลูก และสุขภาพของตนเอง ใจตรงๆ ก็คืออยากรับราชการจนเกษียณอายุ และอยู่ข้างทางรอดูคนอื่นต่อไป

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังถามเพิ่มเติมว่า ไม่อยากมี intention ไปเป็นผู้ว่าฯ กทม. หรือไม่ นายณรงค์ศักดิ์ ระบุว่า ได้ตอบไปแล้วว่าคุณสมบัติไม่ได้ อีกทั้งงานของ กทม.ซับซ้อนมากกว่า แต่เป้าหมายของผู้ว่าฯ ทุกคน คือ ตั้งใจอยากให้ประชาชนมีความสุข ส่วนตนเองมีเป้าหมาย ขอให้ประชาชนในพื้นที่ที่ดูแลกินอิ่ม นอนหลับ เวลาเป็นพ่อเมืองแล้วเห็นคนด้อยโอกาสในพื้นที่ไกลๆ มีความสุขและยิ้มได้ ตนเองก็มีความสุขเพราะเป็นกำลังใจให้ตนเองมหาศาล ส่วนวันนี้มาอยู่ จ.ปทุมธานี จึงคงไม่ถนัดที่จะเข้าไปอยู่พื้นที่ที่เป็นหัวใจของประเทศ จึงขอดูแลพี่น้องในส่วนภูมิภาคจะดีกว่า .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง