kick off จนท.ชุดตรวจสอบการทำงานต่างด้าวฯ

ก.แรงงาน 13 ธ.ค.-  หลายฝ่ายหน่วยผนึกกำลัง ตรวจสอบการทำงานของคนต่างด้าวและสถานประกอบการ 123 นาย ลุยตรวจสอบเป้าหมายแรงงานข้ามชาติ ตามมติครม. 28 ก.ย. 64 ที่ไม่ดำเนินการตามมติ ย้ำเอาจริงไม่แค่ขู่


นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีมอบนโยบายและปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ด้านการตรวจสอบการทำงานของคนต่างด้าวและสถานประกอบการ จำนวน 123 นาย ประกอบด้วยพนักงานเจ้าหน้าที่จากกรมการจัดหางาน 90 นาย คณะทำงานเฉพาะกิจต่อต้านการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน 13 นาย สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 10 นาย และกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ 10 นาย ณ บริเวณด้านหน้าศาลาพระพุทธสุทธิธรรมบพิตร กระทรวงแรงงาน โดยมีนายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พลตำรวจตรี นันทชาติ ศุภมงคล ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน ผู้แทนจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ร่วมพิธี

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า การสนับสนุนการควบคุม และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 เป็นสิ่งที่ทุกหน่วยงานต้องบูรณาการร่วมกัน ตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลโดยการนำของพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ที่ต้องการชะลอ และหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด จากกลุ่มแรงงานข้ามชาติที่ลักลอบทำงานโดยผิดกฎหมาย กระทรวงแรงงานได้ดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆ เพื่อเป็นการบริหารจัดการการทำงานของแรงงานข้ามชาติ โดยการบังคับใช้กฎหมายต่อแรงงานข้ามชาติ นายจ้าง และสถานประกอบการ ที่จ้างแรงงานข้ามชาติทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญที่เจ้าหน้าที่ด้านการตรวจสอบการทำงานของคนต่างด้าวและสถานประกอบการ จากการบูรณาการร่วมกันระหว่างกระทรวงแรงงาน สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์


“ขอให้เจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ สุจริต ยุติธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ และไม่เรียกรับผลประโยชน์ใดๆ โดยต้องคำนึงถึงผลประโยชน์โดยรวมของประเทศชาติเป็นหลัก และขอให้ได้รับความปลอดภัยในการปฏิบัติภารกิจทุกครั้ง ในนามของกระทรวงแรงงาน ขอขอบคุณ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ที่ได้ให้ความร่วมมือส่งเจ้าหน้าที่มาร่วมปฏิบัติงานกับพนักงานเจ้าหน้าที่ของกระทรวงแรงงานในครั้งนี้” รมว.แรงงานกล่าว

ด้านนายสมชาย มรกตศรีวรรณ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน มอบหมายตนกล่าวรายงานในพิธีปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ด้านการตรวจสอบการทำงานของคนต่างด้าวและสถานประกอบการ ซึ่งในวันนี้มีท่านรัฐมนตรีสุชาติ ชมกลิ่น กรุณาให้เกียรติมอบนโยบายและเป็นประธานในพิธี เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และมอบแนวทางให้เจ้าหน้าที่นำไปปฎิบัติงาน โดยที่ผ่านมากรมการจัดหางานได้ลงพื้นที่ตรวจสถานประกอบการตามมติครม.วันที่ 28 ก.ย. 64  เพื่อให้คำแนะนำการปฏิบัติตนตามมาตรการทางสาธารณสุขแก่นายจ้างและแรงงานข้ามชาติ ที่มีสถานะไม่ถูกต้องตามกฎหมาย กำหนดระยะเวลา 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 พฤศจิกายน 64 โดยเจ้าหน้าที่จะทำแบบบันทึกข้อมูล และให้นายจ้างมาดำเนินการยื่นคำขออนุญาตทำงานแทนแรงงานข้ามชาติ ภายใน 7 วัน หลังได้รับแบบบันทึกข้อมูลแรงงานข้ามชาติจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งปัจจุบัน พ้นระยะเวลาดำเนินการตามที่กำหนดแล้ว แต่พบว่ายังมีแรงงานข้ามชาติ ที่นายจ้าง สถานประกอบการยังไม่มาดำเนินการ 64,472 ราย คิดเป็นร้อยละ 18.22 จากจำนวนที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสถานประกอบและบันทึกข้อมูลไว้ทั้งสิ้น 353,776 ราย ซึ่งทำให้กลุ่มดังกล่าวกลายเป็นแรงงานข้ามชาติที่มีสถานะผิดกฎหมายทันที โดยเจ้าหน้าที่ด้านการตรวจสอบการทำงานของคนต่างด้าวและสถานประกอบการ จะเริ่มปฏิบัติงานโดยมีเป้าหมายตรวจสอบกลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มแรก

“สำหรับนายจ้างที่รับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน จะมีโทษปรับตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท ต่อคนต่างด้าวหนึ่งคน หากทำผิดซ้ำมีโทษถึงจำคุก และห้ามจ้างคนต่างด้าวทำงานอีก 3 ปี ส่วนคนต่างด้าวที่ลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตมีโทษปรับตั้งแต่ 5,000 – 50,000 บาท และถูกส่งตัวกลับออกไปนอกราชอาณาจักร และไม่สามารถขอรับใบอนุญาตทำงานได้จนกว่าจะพ้นโทษมาแล้วเป็นระยะเวลา 2 ปี” รองอธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง