ซิดนีย์ 15 ต.ค. – นครซิดนีย์ของออสเตรเลียจะยกเลิกการใช้มาตรการกักตัวในกลุ่มนักเดินทางชาวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ครบสองโดสตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการกลับมาเปิดการเดินทางระหว่างประเทศอย่างเต็มรูปแบบหลังออสเตรเลียใช้มาตรการปิดพรมแดนมาเป็นเวลากว่า 19 เดือน
นายโดมินิก เพอร์โรต์เทต์ มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีนครซิดนีย์เป็นเมืองเอก กล่าววันนี้ว่า รัฐนิวเซาท์เวลส์ต้องการให้นักเดินทางต่างชาติกลับมาที่นี่อีกครั้ง และนำประเทศให้ผ่านพ้นจากการระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยการเปิดนครซิดนีย์และรัฐนิวเซาท์เวลส์ต้อนรับนักเดินทางต่างชาติ ก่อนหน้านี้ รัฐบาลกลางของออสเตรเลียเผยแผนกลับมาเปิดประเทศอีกครั้งในเดือนกรกฎาคม โดยจะอนุญาตให้ยกเลิกการใช้มาตรการต่าง ๆ ในกลุ่มชาวออสเตรเลียที่ฉีดวัคซีนครบสองโดสและต้องการเดินทางกลับประเทศ หลังจากนั้นจึงค่อย ๆ กลับมาเปิดการเดินทางระหว่างประเทศกับประเทศที่ปลอดภัยเมื่อมีอัตราฉีดวัคซีนร้อยละ 80 ส่วนรัฐนิวเซาท์เวลส์คาดว่าจะฉีดวัคซีนครบสองโดสให้ประชาชนวัยผู้ใหญ่ถึงร้อยละ 80 ภายในสัปดาห์นี้ ขณะที่รัฐอื่น ๆ ของออสเตรเลียจะต้องใช้เวลาอีกหลายสัปดาห์กว่าจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว
ในขณะเดียวกัน รัฐนิวเซาท์เวลส์รายงานว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ 399 คน ลดลงจากวันพฤหัสบดีที่มี 406 คน และลดลงอย่างมากจากที่เคยพบผู้ป่วยติดเชื้อมากถึง 1,599 คนในช่วงต้นเดือนกันยายน ส่วนรัฐวิกตอเรีย ซึ่งมีนครเมลเบิร์นเป็นเมืองเอก พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 2,179 คน ลดลงจากวันก่อนที่มีผู้ป่วยติดเชื้อทำสถิติสูงสุดถึง 2,297 คน ขณะนี้ ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมราว 139,000 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 1,500 คน.-สำนักข่าวไทย