มะนิลา 5 ส.ค. – ชาวฟิลิปปินส์จำนวนมากแห่กันไปเข้าแถวฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 จนทำให้เกิดความโกลาหลที่ศูนย์ฉีดวัคซีนหลายแห่งในกรุงมะนิลา เนื่องจากประชาชนหวังว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนก่อนเข้าสู่มาตรการล็อกดาวน์เป็นเวลา 2 สัปดาห์ตั้งแต่เที่ยงคืนวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น
แม่บ้านชาวฟิลิปปินส์ วัย 59 ปี กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์สในขณะที่เธอกำลังเข้าแถวรอฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเมืองอันตีโปโลของจังหวัดรีซัลตั้งแต่เวลา 03.00 น. ว่า เธอได้ยินข่าวที่ระบุว่าทางการจะไม่อนุญาตให้ประชาชนที่ยังไม่ฉีดวัคซีนเข้าห้างสรรพสินค้าหรือซูเปอร์มาร์เก็ต จึงต้องรีบมาเข้าแถวรอฉีดวัคซีนตั้งแต่เช้ามืด ขณะที่ภาพถ่ายที่เผยแพร่ในสื่อโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นว่า ผู้คนต่างเบียดกันเพื่อให้ตัวเองได้อยู่ในแถวแรกของผู้มีสิทธิได้รับการฉีดวัคซีนจนทำให้ตำรวจฟิลิปปินส์ต้องเข้ามาควบคุมสถานการณ์และกำชับให้ทุกคนปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ทั้งนี้ รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ประกาศใช้มาตรการจำกัดการเดินทางทั่วกรุงมะนิลาและอีก 16 เมืองโดยรอบ ซึ่งมีประชากรราว 13 ล้านคนอีกครั้งตั้งแต่เที่ยงคืนของวันนี้ เพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาที่พบครั้งแรกในอินเดียและแพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็ว
ในขณะเดียวกัน นายแฮร์รี โรเก้ โฆษกประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์เผยว่า ประชาชนที่มีความจำเป็น เช่น ผู้ที่ต้องซื้อของ ผู้ที่ต้องออกนอกบ้านด้วยเหตุผลทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ด่านหน้า จะได้รับอนุญาตให้เดินทางออกนอกบ้านในช่วงล็อกดาวน์แม้จะยังไม่ได้ฉีดวัคซีนก็ตาม ขณะนี้ ฟิลิปปินส์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบสองโดสให้แก่ประชาชนได้เพียง 10.3 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 9.3 จากประชากรทั้งหมด 110 ล้านคน โดยมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมราว 1.6 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 28,000 คน ทำสถิติผู้ป่วยติดเชื้อและผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับสองของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากอินโดนีเซีย.-สำนักข่าวไทย