ชัวร์ก่อนแชร์ : แม่ทัพและรองแม่ทัพภาคที่ 2 ได้รับการโปรดเกล้าฯ เลื่อนยศ จริงหรือ ? 

ตามที่มีการแชร์ข้อความระบุว่า แม่ทัพและรองแม่ทัพภาคที่ 2 ได้รับการโปรดเกล้าฯ เลื่อนยศ นั้น บทสรุป : ❌  ไม่จริง ไม่ควรแชร์ต่อ ❌ การเลื่อนชั้นของทหารยศนายพลจะต้องดำเนินการโดยกระบวนการทางราชการตามลำดับเท่านั้น และจะต้องมีประกาศราชกิจจานุเบกษารับรอง ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพบว่า เพจเฟซบุ๊กของกองทัพภาคที่ 2 ได้ประกาศยืนยันว่า ไม่จริง โดยระบุข้อความว่า  กองทัพภาคที่ 2 ขอเรียนชี้แจงต่อพี่น้องประชาชนว่า ขณะนี้ได้ปรากฏข้อมูลข่าวสารที่มีการเผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและไม่เป็นความจริง เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง กองทัพภาคที่ 2 ขอชี้แจงว่า ขั้นตอนการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล จะต้องดำเนินการโดยกระบวนการทางราชการตามลำดับ ดังนี้  1. คณะกรรมการกลาโหมเป็นผู้พิจารณาและดำเนินการเสนอรายชื่อ  2. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมลงนามรับรองตามระเบียบราชการ  3. ทูลเกล้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ  4. การโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งจะมีผลสมบูรณ์เมื่อมีประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา เท่านั้น ดังนั้น ข้อมูลที่มีการเผยแพร่ในช่องทางต่าง ๆ ที่อ้างถึงการโปรดเกล้าฯ โดยไม่มีประกาศราชกิจจานุเบกษารับรอง จึงถือว่าเป็นข่าวเท็จ ไม่ควรเผยแพร่หรือส่งต่อ […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : คลิปเสียง “ในหลวง และพระราชินี ทรงขับร้องเพลงใจ” จริงหรือ ?

ตามที่มีการแชร์คลิปเสียง ในหลวง ร.10 และพระราชินี ทรงขับร้องเพลงใจ นั้น  บทสรุป : ❌  ไม่จริง ไม่ควรแชร์ต่อ ❌ เป็นบทเพลง คนดีไม่มีวันตาย ขับร้องโดย คุณธีร์ ไชยเดช และ คุณรัตนา จงสุทธานามณี ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบว่า คลิปเสียงและข้อความที่แชร์กัน เป็นเรื่องเก่า ตั้งแต่ปี 2563 และคลิปเสียงที่แชร์กันนั้น เป็นเพลงที่มีชื่อว่า คนดีไม่มีวันตาย ขับร้องโดย คุณธีร์ ไชยเดช และ คุณรัตนา จงสุทธานามณี ไม่ใช่ พระสุรเสียงของในหลวงรัชกาลที่ 10 และพระราชินี แต่อย่างใด  15 สิงหาคม 2568ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์สำนักข่าวไทย อสมทเสาวภาคย์ รัตนพงศ์ ข้อความที่แชร์กัน เชิญฟังในหลวง ร10 และพระราชินี ทรงร้องเพลง ใจ ความคิดดีๆมีประโยชน์ ทุกคนนำไปใช้ได้อย่างดี นึกไม่ถึงว่าทั้งสองพระองค์จะทรงขับร้องได้ไพเราะเพียงนี้

ชัวร์ก่อนแชร์ : วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ทำให้เกิดลิ่มเลือดในสมอง ญี่ปุ่นไม่บังคับประชาชนฉีดแล้ว จริงหรือ ?

ตามที่บนสื่อสังคมออนไลน์มีการเผยแพร่วิดีโอคำแนะนำข้อควรระวังในการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ โดยอ้างว่าเมื่อฉีดวัคซีนแล้วจะขึ้นสมอง เป็นลิ่มไปอุดในสมอง ทำลายระบบประสาท และรัฐบาลญี่ปุ่นไม่บังคับให้ประชาชนฉีดวัคซีนอีกต่อไป นั้น บทสรุป : ไม่จริง ไม่ควรแชร์ต่อ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ไม่ทำให้เกิดลิ่มเลือดในสมอง ตรงกันข้าม การติดเชื้อไข้หวัดใหญ่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้ และญี่ปุ่นไม่มีนโยบายบังคับฉีดวัคซีนทุกชนิดอยู่แล้ว FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพบว่า วิดีโอคำดังกล่าวเป็นคำแนะนำเกี่ยวกับข้อควรระวังในการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ โดยอ้างว่าเมื่อฉีดวัคซีนแล้วจะขึ้นสมอง เป็นลิ่มไปอุดในสมอง ทำให้ประสาทเพี้ยน คล้ายกับเหตุการณ์ลิ่มเลือดอุดตันในสมองที่พบมากในช่วงการระบาดของโควิด โดยผู้พูดกล่าวว่า การติดไข้หวัดใหญ่ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต หากดูแลรักษาตัวเองดี ไข้หวัดใหญ่ก็จะไม่ติด และรัฐบาลญี่ปุ่นไม่มีการบังคับให้ประชาชนฉีดวัคซีน ทั้งนี้ คลิปวิดีโอดังกล่าวมีการเผยแพร่และส่งต่อในสังคมออนไลน์เป็นจำนวนมาก วัคซีนไข้หวัดใหญ่ไม่ทำให้เกิดลิ่มเลือดในสมอง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์พิสนธิ์ จงตระกูล ประธานคณะทำงานสร้างความเข้มแข็งประชาชนด้านการใช้ยาอย่างสมเหตุผล (สยส.) และคณะทำงานด้านวิชาการเพื่อการใช้ยาอย่างสมเหตุผลแพทยสภา ให้ข้อมูลผ่านรายการ FM91 ก้าวทันโรคกับแพทยสภา เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. ​2568 ว่า ข้อมูลที่ว่าการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่จะทำให้เกิดลิ่มเลือดในสมองนั้นไม่เป็นความจริง วัคซีนไม่ทำให้เกิดลิ่มเลือด ตรงกันข้าม การติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ต่างหากที่เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้ ทั้งนี้  ข้อห้ามใช้ของวัคซีนไข้หวัดใหญ่มีเพียงกรณีเดียวคือผู้ที่มีประวัติแพ้วัคซีนหรือส่วนประกอบของวัคซีนอย่างรุนแรงเท่านั้น […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : ต่างชาติมอบเครื่องบินให้ไทย 10 ลำ ยกระดับพลังรบ จริงหรือ ?

ตามที่มีการแชร์คลิป พร้อมข้อความต่างชาติมอบเครื่องบินให้ไทย 10 ลำ ยกระดับพลังรบ นั้น บทสรุป : ❌  ไม่จริง ไม่ควรแชร์ต่อ ❌เป็นภาพที่สร้างโดยคอมพิวเตอร์ (เอไอ-ปัญญาประดิษฐ์) และไม่เคยมีหลักฐานหรือเอกสารทางการว่ามีการส่งมอบเครื่องบินแต่อย่างใด ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพบว่า คลิปวิดีโอดังกล่าวเผยแพร่ผ่านทางช่องยูทูบที่ชื่อ พลังการรบอาวุธของไทย โดยได้นำเสนอคลิปในลักษณะคล้ายกัน คือ ต่างประเทศ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น รัสเซีย สหรัฐอเมริกา และฝรั่งเศส ได้มอบเครื่องบินรบให้แก่ประเทศไทย โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งทุกคลิปที่นำเสนอมีการใช้ภาพเครื่องบินและฉากหลังที่เหมือนกัน เปลี่ยนเพียงชื่อประเทศ ธงชาติ ชื่อเครื่องบินและเสียงบรรยายเท่านั้น เมื่อตรวจสอบที่คำอธิบายวิดีโอ (Video Description) พบว่า ยูทูบระบุว่าเป็นคลิปหรือภาพถูกแก้ไขอย่างมีนัยสำคัญ หรือสร้างขึ้นด้วยระบบดิจิทัล (Altered or synthetic contentSound or visuals were significantly edited or digitally generated.) หากสังเกตจะพบหลายจุดที่ผิดปกติที่เกิดจากการสร้างภาพโดยคอมพิวเตอร์ (AI) เช่น ตัวอักษรที่ไม่ชัดและไม่สามารถอ่านได้ […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : รพ.พนมดงรักฯ เปิดรับบริจาค ช่วยชายแดนไทย-กัมพูชา จริงหรือ ?

ตามที่บนสื่อสังคมออนไลน์มีการเผยแพร่ข้อมูลโรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เปิดรับบริจาคเงินเพื่อพัฒนาโรงพยาบาล และซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ขาดแคลน นั้น บทสรุป : แชร์ได้ อธิบายเพิ่ม เลขบัญชีที่แชร์กันเป็นของโรงพยาบาลพนมดงรักฯ จริง แต่เป็นข้อมูลเก่าตั้งแต่ช่วงสถานการณ์โควิด-19 เมื่อปี พ.ศ. 2563 FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพบว่า จากโพสต์โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ชี้แจงว่า ทางโรงพยาบาลยังไม่มีการเปิดรับบริจาคโดยเฉพาะสำหรับเหตุการณ์การสู้รบระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชา โดยข้อมูลที่แชร์กันเป็นข้อมูลเก่าที่เปิดรับบริจาคในช่วงสถานการณ์โควิด-19 อย่างไรก็ตาม ยังคงสามารถบริจาคทั่วไปเพื่อนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามปกติ โดยขอความกรุณาตรวจสอบชื่อบัญชีและเลขที่บัญชีให้ถูกต้องทุกครั้งก่อนทำรายการ สำหรับข้อมูลที่แชร์กัน เป็นภาพอินโฟกราฟิกเชิญร่วมบริจาคเงินเพื่อพัฒนาโรงพยาบาลและซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ขาดแคลน ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 เมื่อปี พ.ศ. 2563 ทำให้ประชาชนหลายคนอาจเกิดความสับสนและไม่แน่ใจเกี่ยวกับสถานะการบริจาคปัจจุบัน โรงพยาบาลพนมดงรักฯ ยังเปิดรับบริจาคอยู่หรือไม่ ? โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ได้ชี้แจงเพิ่มเติมผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจว่า ปัจจุบันทางโรงพยาบาลยังไม่มีการเปิดรับบริจาคโดยเฉพาะสำหรับเหตุการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา แต่ยังสามารถบริจาคทั่วไปได้ตามปกติ และสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้  ทั้งนี้ ขอให้ระมัดระวังมิจฉาชีพที่อาจแอบอ้างชื่อโรงพยาบาลเพื่อหลอกลวงขอรับบริจาค ก่อนโอนเงินทุกครั้งโปรดตรวจสอบชื่อและเลขที่บัญชีให้ถูกต้อง โดยชื่อบัญชีที่ถูกต้องคือ : โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : ครม. เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ สูงสุด 1,250 บาท/เดือน เริ่ม 1 ต.ค. 68 จริงหรือ ?

ตามที่มีการแชร์ข้อความ ครม. เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ สูงสุด 1,250 บาท/เดือน เริ่ม 1 ต.ค. 68 นั้น  📌 บทสรุป : ❌  ไม่จริง ไม่ควรแชร์ต่อ ❌ ปัจจุบันรัฐบาลยังจ่ายเบี้ยผู้สูงอายุเท่าเดิม คือ– อายุ 60-69 ปี จะได้รับเบี้ยยังชีพ อัตรา 600 บาทเดือน– อายุ 70-79 ปี จะได้รับเบี้ยยังชีพ อัตรา 700 บาท/เดือน– อายุ 80-89 ปี จะได้รับเบี้ยยังชีพ อัตรา 800 บาท/เดือน– อายุ 90 ปี ขึ้นไป จะได้รับเบี้ยยังชีพ อัตรา 1,000 บาท/เดือน ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพบว่า กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ยืนยัน ผ่านเพจเฟซบุ๊กว่า […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : 20 เคล็ดลับอายุยืนปี 2025 จาก WHO จริงหรือ ?

บทสรุป ไม่จริง ❌ ไม่ควรแชร์ต่อ ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพบว่า บทความ 20 เคล็ดลับอายุยืนที่อ้างว่ามาจากองค์การอนามัยโลก​ (WHO)​ แปลมาจากบทความภาษาจีนที่เผยแพร่ในปี 2562 ถูกนำมาแปลและแชร์ต่อเป็นภาษาไทยในปีเดียวกัน โดยมีการเปลี่ยนเนื้อหาเคล็ดลับข้อที่ 1 ถึง 3 ครั้ง ในปี 2562 2563 และ 2568 จาก การร้องเพลง เป็น การกินเนื้อสัตว์ให้มากขึ้น และสุดท้ายเป็น การดื่มไวน์ดี ๆ ในปริมาณที่พอเหมาะ จากการตรวจสอบบนเว็บไซต์ทางการขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยใช้คำสำคัญ อย่าง WHO Tips, longevity, long life, Hug, Run, Happy ไม่พบข้อมูลที่ตรงกับเคล็ดลับอายุยืนที่แชร์กันแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ พบบทความของ WHO เกี่ยวกับ 10 เคล็ดลับสุขภาพที่จะช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้นในปี 2025 โดยมีเนื้อหาสำคัญ ได้แก่ 30 มิถุนายน […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : คนไทยเดินทางไปยุโรปไม่ต้องขอวีซ่า สามารถยื่นผ่านระบ ETIAS ได้ จริงหรือ ?

ตามที่มีการแชร์ข้อความ คนไทยเดินทางไปยุโรปไม่ต้องขอวีซ่า สามารถยื่นผ่านระบ ETIAS นั้น บทสรุป ไม่จริง ❌ ไม่ควรแชร์ต่อ ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพบว่า ข้อความที่เผยแพร่กันดังกล่าว มาจากเว็บไซต์ Scandasia เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 ใจความว่า ยุโรปได้เปิดกฎการเข้าประเทศใหม่โดยนักท่องเที่ยวจากประเทศไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ จะได้รับการยกเว้นวีซ่าสำหรับการเดินทางเข้าเขตเชงเกน บทความดังกล่าวถูกนำมาแปลต่อเป็นภาษาไทย โดยมีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กแชร์ลงในกลุ่มท่องเที่ยวยุโรปจำนวนหลายกลุ่ม รวมถึงแชร์ออกไปยังแพลตฟอร์มต่าง ๆ อีกจำนวนมาก  ต่อมา ผู้เขียนบทความได้ออกมาแก้ไขบทความและขอโทษที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด พร้อมระบุว่า ตนเองได้ใช้ AI ช่วยเขียนบทความและไม่ได้ตรวจสอบให้ดี ทั้งนี้คนไทยที่ต้องการเดินทางไปยังยุโรปยังต้องขอวีซ่าเชงเกน “A previous version of this article mistakenly listed also Thailand as a visa-exempt country for travel to the Schengen Area […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : กินทุเรียนพร้อมกาแฟ อันตราย จริงหรือ ?

ตามที่บนสื่อสังคมออนไลน์มีการเผยแพร่คำแนะนำเกี่ยวกับข้อควรระวังในการบริโภคทุเรียน โดยระบุว่า “ทุเรียนไม่ควรรับประทานคู่กับกาแฟ อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างรุนแรง จนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้” นั้น บทสรุป : แชร์ได้ อธิบายเพิ่ม “ทุเรียน” เป็นผลไม้ที่มีคาร์โบไฮเดรตและไขมันสูง ขณะที่กาแฟมีสารที่อาจส่งผลต่อระดับไขมันในเลือด รวมถึงมีกาเฟอีนซึ่งออกฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของหัวใจ การบริโภคทั้งสองอย่างพร้อมกันอาจทำให้ได้รับพลังงานสูงและกาเฟอีนซึ่งส่งผลต่อผู้ที่มีโรคประจำตัวที่จำเป็นต้องคุมอาหาร เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ อาการของโรคกำเริบ ซึ่งในบางกรณีอาจรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพบว่า ข้อแนะนำที่ว่า “ห้ามรับประทานทุเรียนร่วมกับกาแฟ” เป็นข้อมูลที่มีการส่งต่อและเผยแพร่กันอย่างแพร่หลายในสื่อสังคมออนไลน์ โดยมักปรากฏในรูปแบบของการให้ความรู้ควบคู่กับเรื่องเล่าเชิงอุทาหรณ์เกี่ยวกับอันตรายจากการบริโภคทุเรียนร่วมกับอาหารบางประเภท โดย “การรับประทานทุเรียนกับกาแฟ”  เป็นสิ่งหนึ่งที่ได้รับการแนะนำว่า “ไม่ควรรับประทานคู่กัน” อ้างว่าอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพอย่างรุนแรง ถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ รวมทั้งยังมีประชาชนสอบถามในประเด็นดังกล่าวเข้ามาที่ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ด้วย ทำไมทุเรียน ห้ามรับประทานคู่กับกาแฟ ?รศ.ดร.รัชนี คงคาฉุยฉาย อาจารย์ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลเกี่ยวกับทุเรียน ในรายการชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : 5 ข้อควรรู้ ก่อนกินทุเรียน จริงหรือ ? ว่า […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : โดนยึดใบขับขี่จะไม่ได้คืน ต้องไปสอบทำใหม่เท่านั้น จริงหรือ ?

ตามที่มีการแชร์ข้อความ “ใครที่โดนยึดใบขับขี่จะไม่ได้คืน ต้องไปสอบใหม่เท่านั้น เริ่ม 1 ก.ค. นี้” นั้น  📌 บทสรุป : ❌  ไม่จริง ไม่ควรแชร์ต่อ ❌ ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพบว่า กรมขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ยืนยันผ่าน ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย ว่า ข้อความดังกล่าวเป็นเท็จ หากประชาชนผู้ใช้รถขับรถฝ่าฝืนกฎหมายจราจร เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถยึดใบอนุญาตขับรถ และออกใบสั่งซึ่งใช้เป็นใบแทนใบอนุญาตขับรถได้เพียง 7 วันเท่านั้น ประชาชนจึงต้องติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อรับใบอนุญาตขับรถคืนหลังชำระค่าปรับตามความผิดเรียบร้อยแล้วเท่านั้น ส่วนกรณีที่ได้รับใบสั่งจากกล้องบันทึกการทำความผิดอัตโนมัติ กรณีนี้จะไม่มีการยึดใบขับขี่ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะส่งใบสั่งไปยังที่อยู่เจ้าของรถเพื่อให้ดำเนินการชำระค่าปรับตามกฎหมาย ทั้งนี้ หากมีการแอบอ้างว่าใบอนุญาตขับรถสูญหายเพื่อเจตนาขอใบอนุญาตขับรถใบใหม่ ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และกรมการขนส่งทางบกจะไม่ดำเนินการออกใบอนุญาตขับรถฉบับใหม่ให้เด็ดขาด เนื่องจากใบอนุญาตขับรถที่ถูกยึดไว้ยังคงมีผลตามกฎหมาย 25 มิถุนายน 2568ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์สำนักข่าวไทย อสมท ข้อความที่แชร์กันข่าวร้าย! ใครที่โดนยึดใบขับขี่จะไม่ได้คืนแล้วนะ ต้องไปสอบใหม่.. แล้วจะได้แค่ใบขับขี่ชั่วคราวมาแทน ขับรถระวังกฎระเบียบด้วยนะจ้ะเริ่ม 1. กรกฎาคม ..นี้ใบสั่งส่งถึงบ้าน เลย จากกล้องcctvบันทึกส่งถึงบ้าน– จอดล้ำเส้น– ฝ่าไฟแดง– ไม่รัดเข็มขัด-โทรขณะขับรถ– […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : แบคทีเรียกินเนื้อ จุดเริ่มต้นจากแผลเล็ก ๆ

“แบคทีเรียกินเนื้อคน” โรคผิวหนังชื่อน่ากลัว จากแผลเล็ก ๆ ที่หากดูแลไม่ดี ไม่ได้รักษาตั้งแต่ต้นอาจติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อคนจนลุกลามได้ จากกรณีพบศพ ชาย อายุ 38 ปี ชาว ต.พิชัย อ.เมือง จ.ลำปาง เสียชีวิตบนรถทัวร์โดยสารและพบศพขณะรถเข้าจอดที่สถานีขนส่งลำปาง เมื่อ 15 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา นั้น เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย แต่บริเวณน่องด้านซ้ายมีอาการบวม มีแผลลุกลาม และมีเลือดไหลออกมา ญาติให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ผู้เสียชีวิตมีอาการน่องบวมตั้งแต่ 8 มิถุนายน 2568 และเคยป่วยเป็นโรคงูสวัดจนมีอาการลุกลามไปที่หู ผลการชันสูตรพลิกศพพบว่า ชายคนดังกล่าว เสียชีวิตด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือดและเป็นโรคแบคทีเรียกินเนื้อ หรือ โรคเนื้อเน่า ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในชั้นผิวหนัง โดยเริ่มจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังชั้นตื้นลงไปจนถึงผิวหนังชั้นลึก การติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังชั้นลึกถึงระดับเนื้อเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ สาเหตุของการเป็นโรคแบคทีเรียกินเนื้อข้อมูลจาก อ.พญ.ภัทริยา จรรยาชัยเลิศ ภาควิชาตจวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องโรคแบคทีเรียกินเนื้อ หรือ โรคเนื้อเน่า ในรายการชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : แบคทีเรียกินเนื้อคน ว่า โรคแบคทีเรียกินเนื้อ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดการอักเสบแบบมีเนื้อตายที่ผิวหนังตั้งแต่ชั้นหนังกำพร้าถึงชั้นเนื้อเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ  […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : ฉีดวัคซีนมาเลือดจะหนืดข้น จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์มีการแชร์ว่า อาการของผู้ที่ไปฉีดวัคซีนมาเลือดจะหนืดข้นจนสุดท้ายเลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่ได้ และวูบจนถึงขั้นเสียชีวิต จากนั้นแพทย์จะแจ้งว่าหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน จริงหรือ​ ? บทสรุป : ไม่จริง ไม่ควรแชร์ต่อ วัคซีนดังกล่าว คาดว่าหมายถึงวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่า ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าวัคซีนโควิด-19 ทำให้เลือดจะหนืดข้นจนสุดท้ายเลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่ได้ และวูบจนถึงขั้นเสียชีวิต ทั้งนี้ การดำเนินการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้จัดตั้งคณะกรรมการ เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และองค์การอนามัยโลกได้รับรองว่าวัคซีนดังกล่าวสามารถใช้ได้กับทุกประเทศ  FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริงศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพบว่า ข้อมูลเรื่อง “อาการของผู้ที่ไปฉีดวัคซีนมาเลือดจะหนืดข้นจนสุดท้ายเลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่ได้ และวูบจนถึงขั้นเสียชีวิต” เป็นข้อมูลที่มักถูกส่งต่อและเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2566 และเป็นหนึ่งในประเด็นที่ทำให้หลายคนเกิดความกังวล ตรวจสอบข้อเท็จจริงข้อมูลจาก พ.อ.นพ.วิริสสร วงศ์ศรีชนาลัย อายุรแพทย์ โรคระบบการหายใจและภาวะวิกฤต โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย พบว่า  ความเป็นไปได้ที่วัคซีนจะทำให้เกิดลิ่มเลือด เป็นไปได้ว่าวัคซีนโควิด-19 บางชนิดอาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดลิ่มเลือดได้บ้าง แต่ต้องย้ำว่า ความรุนแรงและอัตราการเกิดลิ่มเลือดจากวัคซีนนั้นน้อยกว่าการติดเชื้อโควิด-19 มาก นอกจากนี้ วัคซีนแต่ละชนิดยังมีผลกระทบที่แตกต่าง โดย วัคซีนเชื้อตาย […]

1 2 3 7
...