สธ.ซักซ้อมเตรียมพร้อมฉีดวัคซีนโควิดให้เด็กเล็ก 12 ต.ค.นี้

สธ. 6 ต.ค. – สธ.ซักซ้อมเตรียมความพร้อมเริ่มฉีดวัคซีนโควิดในเด็กเล็ก 6 เดือน ไม่ถึง 5 ปี วันที่ 12 ต.ค.นี้ ย้ำการรับวัคซีนมีความปลอดภัย ลดการติดเชื้อ การเกิดมิสซี โดยปริมาณวัคซีนที่รับ 3 ไมโครกรัม และต้องรับ 3 เข็ม ให้ครบภายใน 3 เดือน ติดตามอาการ 1 เดือน ทั้งนี้ วัคซีนถึงไทยวันศุกร์ที่ 7 ต.ค.นี้


นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วย นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมฉีดวัคซีนโควิด-19 ในเด็กอายุ 6 เดือน แต่ไม่ถึง 5 ปี ว่าการฉีดวัคซีนในเด็กกลุ่มนี้จะดำเนินการในวันที่ 12 ตุลาคมนี้ ที่ รพ.พระนั่งเกล้า โดยวันนี้ (6 ต.ค.) ได้มีการซักซ้อมกับ รพ.ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ทั้งเรื่องการจัดเก็บวัคซีน การฉีด โดยเด็กกลุ่มเป้าหมายมีจำนวนทั้งสิ้น 3 แสนคน และเป็นการรับวัคซีนโดยความสมัครใจ ทั้งนี้วัคซีนที่จะฉีดนี้เป็นวัคซีนไฟเซอร์ฝาสีแดงเข้ม จะมาถึงไทยในวันศุกร์ 7 ตุลาคมนี้ จากนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะดำเนินการตรวจสอบรับคุณภาพการผลิต และเข้าสู่กระบวนการกระจายวัคซีนไปยังสถานพยาบาลที่ทางผู้ปกครองแสดงความจำนงรับวัคซีนให้กับบุตรหลาน โดยการรับวัคซีนโควิดนี้สามารถรับร่วมกับวัคซีนพื้นฐานในเด็กเล็กอื่น ๆ ได้ และมีความปลอดภัยสูงเหมือนกับวัคซีนอื่นๆ สำหรับการติดตามขั้นตอนความปลอดภัยในการรับวัคซีน สังเกตอาการ 30 นาที จากนั้นติดตามอาการเด็กอีก 1 เดือน ส่วนสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ขณะนี้มีการายงานเป็นรายสัปดาห์ 2-5 ต.ค.ที่ผ่านมา มีการติดเชื้อรวม 1,305 คน เฉลี่ยวันละ 326 คน และมีการเสียชีวิต เฉลี่ยแค่ 9 คน/วัน

นพ.โสภณ กล่าวว่า สำหรับการติดเชื้อโควิด-19 ในเด็กเล็กนั้น พบว่ามีมากกว่าเด็กโตถึง 3 เท่า การฉีดวัคซีนช่วยลดอัตราป่วย การติดเชื้อ เกิดภาวะแทรกซ้อน หรือโอกาสการเกิด MIS-C ให้ลดลง โดยเด็กที่รับวัคซีนโควิดนี้จะได้รับวัคซีนปริมาณ 3 ไมโครกรัม หรือ 0.2 มิลลิลิตร ซึ่งมีปริมาณน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนวัคซีนที่ให้ผู้ใหญ่อยู่ที่ 30 ไมโครกรัม, เด็ก 5-11 ปี อยู่ที่ 10 ไมโครกรัม ทั้งระยะห่างในการรับวัคซีนเข็ม 1 กับ เข็ม 2 ห่างกัน 1 เดือน และเข็ม 3 ห่างจากเข็ม 2 จำนวน 2 เดือน รวมเด็กต้องรับครบ 3 เข็ม ภายใน 3 เดือน ทั้งนี้ผู้ปกครองไม่ต้องกังวลเรื่องการฉีดวัคซีนสลับระหว่างเด็กเล็ก และเด็กโต เนื่องจากมีการนัดหมายฉีดวัคซีน เฉพาะเด็กเล็กเท่านั้น เพื่อป้องกันการสับสน. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

บิ๊กอ๊อดรอดคุก

“บิ๊กอ๊อด” รอดคุก คดี “บอส อยู่วิทยา” อัยการเนตร คุก 3 ปี

“บิ๊กอ๊อด-ตร.” ทำคดี “บอส” รอดคุก ศาลยกฟ้อง ส่วน “อัยการเนตร” ศาลสั่งจำคุก 3 ปี และ “อัยการชัยณรงค์” จำคุก 2 ปี

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

สป.สายไหม

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐานร้องสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนัน

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐาน ร้องตรวจสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ ยินดีให้ตำรวจตรวจสอบกลับ มั่นใจประวัติขาวสะอาด ย้ำ “ลูกพีช” ควรขอโทษอย่างจริงใจ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เตรียมเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา

นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-กัมพูชา และการส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ปัญหาและการพัฒนาของสองประเทศ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยรายงาน

9 ทันโลก : เตรียมเริ่มกระบวนการเลือกโป๊ปองค์ใหม่

หลังจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประมุขแห่งศาสนจักรสิ้นพระชนม์ รายงาน 9 ทันโลกวันนี้จะพาไปรำลึกถึงพระองค์และติดตามกระบวนการเลือกพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่

พิพากษาแก๊งช่วยแก้ความเร็วรถ “บอส”

วันนี้คดีทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตัดสินจำคุกอดีตรองอัยการสูงสุด และอดีตอัยการอีก 1 คน ฐานความผิดแก้ความเร็วรถคันเกิดเหตุ หวังช่วยผู้ต้องหา