กรุงเทพฯ 24 ก.ค.- ร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์แหล่งใหญ่ย่านเสาชิงช้า ต่างปรับรูปแบบการขาย ทำบุญสู้โควิด มุ่งสู่ตลาดออนไลน์มากขึ้น พร้อมบริการช่วยจัดส่งให้ถึงวัด หลังเจอปัญหาวิกฤตโควิดและมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้ยอดขายหน้าร้านในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาปีนี้ ลดฮวบ รายได้หายไปเกือบ 80 %
ที่ถนนบำรุงเมือง เขตพระนคร ย่านเสาชิงช้า แหล่งค้าปลีกและค้าส่งเครื่องสังฆภัณฑ์ แหล่งใหญ่ของกรุงเทพฯ ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาปีนี้ ถือว่าเงียบเหงาที่สุดในรอบ 40 กว่าปี จากปกติที่ถนนเส้นนี้จะคราคร่ำไปด้วยลูกค้าที่เริ่มมาหาเลือกซื้อเครื่องสังฆภัณฑ์กันตั้งแต่ 1 เดือน ก่อนถึงวันเข้าพรรษา
เจ้าของร้าน “ศิริวรรณสังฆภัณฑ์” ที่เปิดขายมานานกว่า 40 ปี บอกว่าปกติช่วงเทศกาลเข้าพรรษาของทุกปี คือช่วงเวลาที่ทางร้านขายดีที่สุด แต่ละวันเคยขายเทียนพรรษาได้วันละเป็นร้อยต้น แต่มาปีนี้เจอสถานการณ์โควิดและมาตรการล็อกดาวน์ เหลือขายได้แค่วันละต้นสองต้นเท่านั้น ลูกค้าหดหายทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ต้องปรับรูปการขายมาสู่ระบบออนไลน์มากขึ้น แต่เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ประสบปัญหาโควิด จึงยังไม่มีกำลังซื้อมากนัก
“นพรัตน์สังฆภัณฑ์” อีกหนึ่งร้านเก่าแก่ในย่านนี้ก็ได้รับผลกระทบไม่แพ้กัน ความเชื่อที่ว่าธุรกิจสังฆภัณฑ์อยู่ได้ในทุกวิกฤตไม่สามารถใช้ได้กับสถานการณ์โควิด ตอนนี้ยอดขายหายไปกว่า 70-80% ย่ำแย่ยิ่งช่วงเทศกาลเข้าพรรษาปีที่แล้ว โชคดียังพอมีลูกค้าประจำมาสั่งซื้ออยู่บ้าง ส่วนลูกค้าจรแทบไม่มี
ช่วงนี้จึงต้องปรับวิธีการขาย มุ่งสู่ตลาดออนไลน์ในทุกแพลตฟอร์ม รวมถึงไลฟ์สดจัดโปรทำบุญสู้โควิด ขายเทียนพรรษา พุ่มเทียน ผ้าไตรจีวร ผ้าอาบน้ำฝน และเครื่องสังคภัณฑ์ต่างๆ ช่วยอำนวยความสะดวก จัดส่งไปถวายให้ถึงวัดตามที่ลูกค้าต้องการ พร้อมทั้งถ่ายภาพถ่ายคลิปให้ลูกค้าได้ร่วมอนุโมทนาบุญและรับพรไปพร้อมกันด้วย
แม้เจ้าของร้านสังฆภัณฑ์ส่วนใหญ่ จะพยายามปรับรูปแบบการขาย ชวนให้คนมาทำบุญในช่วงเทศกาลสำคัญอย่างเทศกาลเข้าพรรษา แต่ในยามยากเช่นนี้พวกเขาก็แนะนำให้ลูกค้าทำบุญตามกำลังเท่าที่ทำไหว เพื่อเก็บเงินไว้ใช้ดูแลตัวเองและครอบครัว ในช่วงวิกฤตโควิดที่ยังไม่มีท่าทีว่าสถานการณ์จะดีขึ้นในเร็ววันนี้.-สำนักข่าวไทย