เซี่ยงไฮ้ 4 เม.ย. – ตัวแทนด้านการทูตของชาติตะวันตกกว่า 30 ประเทศได้ส่งจดหมายถึงกระทรวงต่างประเทศของจีนเพื่อแสดงถึงความวิตกกังวลเกี่ยวกับนโยบายแยกเด็กติดเชื้อโควิด-19 ออกจากผู้ปกครอง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมการระบาดรุนแรงในนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเงินของจีน
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ทางการนครเซี่ยงไฮ้ได้ใช้นโยบายแยกเด็กติดเชื้อโควิดออกจากผู้ปกครอง โดยให้เหตุผลว่าเป็นมาตรการป้องกันการระบาดของโรคโควิด จนทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงแนวทางดังกล่าวเป็นวงกว้าง ขณะที่ตัวแทนด้านการทูตของชาติตะวันตกกว่า 30 ประเทศได้ส่งจดหมายถึงกระทรวงต่างประเทศจีนเพื่อเรียกร้องให้ทางการจีนเลิกใช้นโยบายนี้ สถานกงสุลฝรั่งเศสในนครเซี่ยงไฮ้ได้ส่งจดหมายถึงสำนักงานต่างประเทศของนครเซี่ยงไฮ้ลงวันที่ 31 มีนาคม โดยระบุว่า ฝรั่งเศสขอให้ทางการนครเซี่ยงไฮ้ยกเลิกนโยบายแยกเด็กติดเชื้อโควิดออกจากผู้ปกครอง ส่วนสถานทูตอังกฤษในกรุงปักกิ่งได้ส่งจดหมายถึงกระทรวงต่างประเทศจีนในวันเดียวกัน โดยระบุว่า อังกฤษรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับการใช้นโยบายแยกผู้เยาว์ที่ติดเชื้อโควิดออกจากผู้ปกครอง และขอให้จีนยืนยันว่าแนวทางดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นกับครอบครัวของเจ้าหน้าที่การทูต สถานกงสุลฝรั่งเศสและสถานทูตอังกฤษระบุว่า ส่งจดหมายดังกล่าวในนามตัวแทนของชาติอื่น ๆ รวมถึงสมาชิกสหภาพยุโรป หรืออียู นอร์เวย์ สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ หลังจากได้รับทราบข่าวคราวเกี่ยวกับความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์นครเซี่ยงไฮ้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 มีนาคม
ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ของทางการนครเซี่ยงไฮ้ระบุในงานแถลงข่าวประจำวันนี้ว่า เด็กที่ติดเชื้อโควิดจะได้รับอนุญาตให้มีผู้ปกครองดูแลได้ในกรณีที่ผู้ปกครองติดเชื้อโควิดเช่นกัน แต่เด็กที่ติดเชื้อโควิดจะต้องถูกแยกจากผู้ปกครองในกรณีที่ผู้ปกครองไม่ได้ติดเชื้อโควิด ทั้งยังระบุว่า ทางการท้องถิ่นกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาปรับปรุงแนวทางดังกล่าว ขณะที่ในวันนี้จีนได้ส่งทหารและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหลายพันคนลงพื้นที่นครเซี่ยงไฮ้เพื่อช่วยตรวจหาเชื้อโควิดในประชาชนราว 26 ล้านคน เนื่องจากนครเซี่ยงไฮ้ยังคงพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ ขณะนี้ จีนมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 156,000 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 4,600 คน. -สำนักข่าวไทย