กรุงเทพ 22 ก.ค.-กูรูด้านเศรษฐกิจระดับชั้นแนวหน้าไทย แนะผลักดัน อีอีซี เป็นเขตพัฒนาพิเศษระดับโลก เดินหน้าเพิ่มการลงทุนสูงถึงปีละ 6 แสนล้านต่อปี ฟื้นเศรษฐกิจจากภัยโควิด-19
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) จัดเสวนาวิชาการ “จาก ESB สู่ EEC กับการเป็นเขตพัฒนาพิเศษระดับโลก” ในรูปแบบออนไลน์ (VDO conference) นำโดย ดร.เสนาะ อูนากูล ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สกพอ. ดร.อาณัติ อาภาภิรม ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สกพอ. ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธานมูลนิธิเสนาะอูนากูล และ ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการอีอีซี โดยมีกลุ่มผู้บริหารระดับสูงจากภาคเอกชน นักธุรกิจระดับ CEO ชั้นนำในเมืองไทย มาร่วมแสดงความเห็น เพื่อร่วมกันฉายภาพแนวคิดของการพัฒนาโครงการพัฒนาชายฝั่งทะเลตะวันออก หรือ “อีสเทิร์นซีบอร์ด” (ESB) และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 5 (พ.ศ.2525-2529) ช่วยให้เศรษฐกิจไทยในช่วงกว่า 30 ปีก่อนเติบโตแบบก้าวกระโดด เติบโตเฉลี่ยสูงถึง 9.3%
เมื่อเข้าสู่ยุคการพัฒนาพื้นที่ อีอีซี ในปัจจุบัน ยังได้นำแนวคิด และต่อยอดเพิ่มสิ่งที่ได้รับจากอีสเทิร์นซีบอร์ด ที่สำคัญ ๆ เช่น แนวคิดให้เกิดการพัฒนาต่อเนื่อง ด้วยการมี พ.ร.บ. และสำนักงานอีอีซี การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ สนามบินอู่ตะเภา ขยายท่าเรือมาบตาพุด และแหลมฉบัง รถไฟความเร็วสูง ลดการพึ่งพางบประมาณรัฐและเงินกู้ด้วยสัญญา PPP ที่โปร่งใส รัดกุม และรัฐได้ประโยชน์สูงสุด การส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงที่ไม่เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น 5G ระบบโซลาร์เซลล์ ยานยนต์ไฟฟ้า และการสร้างงานให้เยาวชนในพื้นที่มีรายได้ดี รวมทั้ง ทำงานกับท้องถิ่น กลุ่มสตรี เยาวชน เพื่อให้โครงการอีอีซีอยู่คู่กับชุมชนได้อย่างยั่งยืน
พร้อมกันนี้ อีอีซี ยังปรับแผนทำงานให้หนักเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว เพื่อเร่งลดผลกระทบจากสถานการณ์โควิด จำเป็นต้องเพิ่มการลงทุนสูงถึงปีละ 6 แสนล้านต่อปี จากเดิมที่เป้าหมายการลงทุน 3 แสนล้านบาท หากทำได้สำเร็จคาด GDP โตขึ้น 5% ภายหลังสถานการณ์โควิด และจะเป็นส่วนสำคัญให้ไทยก้าวสู่ประเทศที่พัฒนาได้ในปี 2572
สำหรับการเสวนาดังกล่าว ภาคเอกชน และนักธุรกิจชั้นนำ ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นตรงกันว่า มีความจำเป็นต้องร่วมขับเคลื่อนอีอีซี ให้เกิดการลงทุนต่อเนื่อง ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ๆ และการลงทุนในอุตสาหกรรมนวัตกรรมขั้นสูง ที่ อีอีซี พร้อมดึงดูดนักลงทุนทั่วโลกให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ช่วยให้เศรษฐกิจไทยเติบโตในระยะยาว
การเสวนาฯ ในครั้งนี้ สกพอ. พร้อมนำข้อมูล ชุดความรู้ที่ได้รับประกอบการจัดตั้ง ศูนย์การเรียนรู้ /พิพิธภัณฑ์เขตพัฒนาพิเศษชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกประเทศไทย (EEC Learning Center /EEC Museum) และมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ซึ่งจะเป็นศูนย์การเรียนรู้สำคัญ ของการพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออก และพร้อมจะเป็นแหล่งเรียนรู้ของนักลงทุนรุ่นใหม่ และผู้ที่สนใจได้ศึกษาถึงความเป็นมาของ อีสเทิร์นซีบอร์ด และการพัฒนาอีอีซี เพื่อเป็นต้นแบบของการพัฒนาประเทศ.- สำนักข่าวไทย