“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

กรุงเทพฯ 7 พ.ย.-“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดีเตรียมแจ้งหาเพิ่ม


พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงการจับกุม “ทนายตั้ม-ภรรยา” โดยระบุว่าคดีดังกล่าว ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับให้ตนเข้ามาดูแลและให้สอบสวนด้วยความรัดกุม รอบคอบ ซึ่งที่ผ่านมาตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานมาระยะหนึ่งจนแน่นหนา ก่อนจะออกหมายจับในวันนี้

เท่าที่ทราบ ทนายตั้มและภรรยา มีพฤติการณ์จะหลบหนีออกนอกประเทศ เพราะน่าจะรู้ว่าตำรวจจะออกหมายจับ ซึ่งดูได้จากพฤติกรรมของทนายตั้ม ที่ตำรวจขอศาลอนุมัติหมายจับ เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ แต่ทนายตั้มขับรถออกจากบ้านย่านตลิ่งชัน ช่วงเวลา 09.00 น. มุ่งหน้าประเทศเพื่อนบ้านฝั่งตะวันออก ตำรวจกองปราบฯ จึงประสานตำรวจทางหลวงในพื้นที่ช่วยกันสกัดจับ ก่อนที่ทั้งคู่จะหนีออกนอกประเทศไปได้ โดยตำรวจเริ่มสะกดรอย ตั้งแต่บ้านพักย่านตลิ่งชัน และพบว่าเริ่มขับออกจากกรุงเทพมหานคร เข้าพื้นที่เขตปริมณฑล มุ่งหน้า ไปภาคตะวันออก จึงตัดสินใจสกัดจับ ซึ่งหากปล่อยไป อาจจะคลาดกันระหว่างทาง เนื่องจากสมรรถนะรถตำรวจไม่เทียบเท่ารถที่ ทนายตั้ม ขับอยู่ในขณะนั้น ทำให้การติดตามตัวในภายหลังอาจเป็นเรื่องลำบาก


พล.ต.ท.อัคราเดช ยังระบุว่า การออกหมายจับในวันนี้เพราะทนายตั้มมีความพยายามเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ในคดี “มาดามอ้อย” 71 ล้านบาท ตามปรากฏในสื่อ มีการไปปรากฏตัวตามที่ต่าง ๆ และพูดจาในลักษณะกดดัน ข่มขู่พยาน ส่วนที่ทนายตั้มและภรรยาอ้างว่าจะไปปฏิบัติธรรมก็เป็นคำให้การของผู้ต้องหาที่มีสิทธิ์จะพูด โดยคดีฉ้อโกงเจ๊อ้อย 71 ล้านบาท ถือเป็นสารตั้งต้น ที่นำไปสู่การออกหมายจับ ทนายตั้มและภรรยา อีก 3 คดี อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป ประกอบด้วย คดีคริปโต 39 ล้านบาท คดีรถเบนซ์ 13 ล้านบาท และคดีค่าโรงแรมอีก 9 ล้านบาท

สำหรับการจะออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการของทนายตั้มเพิ่มเติมอีกหรือไม่นั้น ผู้ช่วย ผบ.ตร ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มี และยังต้องชั่งน้ำหนัก ส่วนการที่ผู้ต้องหาในคดีนี้เป็นผู้รู้กฎหมายและอาจรู้จักนายตำรวจระดับสูงและผู้หลักผู้ใหญ่หลายๆ คน จะมีผลต่อคดีหรือไม่ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ระบุสั้นๆว่า “ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม แต่การทำงานของตำรวจต้อง ซื่อตรง ชัดเจน โปร่งใส เที่ยงธรรม”.-414-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เผยผลสำเร็จร่วมประชุมเวทีอนุภูมิภาค GMS ACMECS

“แพทองธาร” นายกฯ เผยผลสำเร็จร่วมประชุมเวทีอนุภูมิภาค GMS ACMECS ขับเคลื่อนความร่วมมือสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต การพัฒนาคุณภาพชีวิต และความกินดีอยู่ดีของประชาชนในภูมิภาคอย่างไร้รอยต่อ

ตำรวจแจ้ง 4 ข้อหา “ทนายตั้ม-ภรรยา” เจ้าตัวปฏิเสธ

ตำรวจแยกสอบ ”ทนายตั้ม” และภรรยา แจ้ง 4 ข้อหาหนัก ฉ้อโกง และ พ.ร.บ.ฟอกเงิน โดยทั้งคู่ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เตรียมคุมฝากขังพรุ่งนี้ พร้อมค้านประกันตัว

“ชูวิทย์” เข้าขอโทษ “สนธิ” เคลียร์ใจ มอบพวงมาลัยอวยพรวันเกิด

“ชูวิทย์” เข้าขอโทษ “สนธิ” เคลียร์ใจ มอบพวงมาลัยอวยพรวันเกิด ขณะ “สนธิ” โผกอด ลั่นลืมไปหมดแล้ว อวยพรกลับให้หายป่วยไว ๆ เดินหน้าขับไล่คนชั่วไม่ให้มีที่ยืนในสังคม