เพชรบุรี 14 ก.ค. – กรมอุทยานแห่งชาติฯ เตรียมส่งคณะสัตวแพทย์ลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อวางมาตรการเฝ้าระวังการระบาดของโรคลัมปี สกิน จากโค-กระบือ ของชาวบ้านติดต่อไปยังกระทิง
นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี กล่าวว่า ได้ผลการผ่าพิสูจน์ซากกระทิงของอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ. ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งพบเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ปรากฏว่ากระทิงตัวนี้ตายจากการต่อสู้กับกระทิงตัวอื่น แต่ตรวจตรวจพบสารพันธุกรรมของเชื้อโรคลัมปี สกิน (Lumpy Skin Disease Virus-LSDV) คาดว่าระบาดจากติดเชื้อจากฟาร์มปศุสัตว์ในพื้นที่ใกล้เคียง โดยมีแมลงกินเลือดเป็นพาหะ
เบื้องต้นแจ้งปศุสัตว์อำเภอเข้าหากแนวทางป้องกันโรคจากโค-กระบือ ในพื้นที่ 4 หมู่บ้าน ใน ต.หาดขาม เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโดยเร็วที่สุด โดยการฉีดพ่นยากำจัดแมลง กางมุ้งให้โค-กระบือ และเร่งฉีดวัคซีน ประชาสัมพันธ์ไม่ให้ชาวบ้านนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาในเขตป่า
ล่าสุดมอบหมายให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ติดตามพฤติกรรมหากินและเฝ้าสังเกตอาการของกระทิงและวัวป่า โดยอธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งการให้นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน หรือหมอล็อต หัวหน้ากลุ่มงานสุขภาพสัตว์ป่านำคณะสัตวแพทย์ของกรมอุทยานฯ ลงพื้นที่เพื่อติดตามข้อมูลทางวิชาการและวางแผนป้องกันปัญหาไม่ให้กระทิงติดเชื้อเพิ่ม เนื่องจากการป้องกันการติดเชื้อในสัตว์ป่า ทั้งการฉีดวัคซีนหรือป้องกันการติดเชื้อที่มีพาหะจากแมลงนั้น ทำได้ยากกว่าการป้องกันการระบาดในปศุสัตว์มาก. – สำนักข่าวไทย