กาญจนบุรี 13 ธ.ค. – กรมอุทยานฯ เข้าตรวจสอบการทุบรื้อถอนรีสอร์ทที่ปลูกสร้างริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ล่าสุดคืบหน้าแล้ว 90% คาดแล้วเสร็จก่อนสิ้นเดือนนี้ เตือนนายทุนทุกรายที่รุกที่อุทยานฯ ให้เร่งรื้อถอนออก ไม่เช่นนั้นกรมอุทยานฯ จะฟ้องเรียกค่ารื้อถอนด้วย
นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า ได้เข้าตรวจสอบการทุบรื้อถอนสวนพิศตะวันรีสอร์ท ซึ่งมีสิ่งปลูกสร้างบ้านพัก ร้านอาหารขนาดใหญ่ 17 รายการ ในพื้นที่ประมาณ 20 ไร่ ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ เขตท้องที่ป่าท่าแพขนานยนต์ หมู่ที่ 6 ตำบลด่านแม่แฉลบ อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งเจ้าของรีสอร์ทยินยอมรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดด้วยตนเอง ล่าสุดรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างไปได้ประมาณ 90% แล้ว โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชจะควบคุมให้รื้อถอนแล้วเสร็จ คาดว่า ไม่เกินสิ้นเดือนธ.ค. นี้
สำหรับบ้านพักตากอากาศชื่อ พิศตะวันรีสอร์ท มีนายสมภพ มีชูเวทเป็นผู้ครอบครอง กรมอุทยานฯได้ฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 954,307 บาท ต่อมานายสมภพ มีชูเวท ถึงแก่ความตาย และได้มีนางพิศมัย มีชูเวท เป็นผู้จัดการมรดกแทน โดยพนักงานอัยการจังหวัดกาญจนบุรี ได้ยื่นฟ้องนางพิศมัย มีชูเวท ผู้จัดการมรดก เป็นคดีความแพ่ง คดีหมายเลขดำที่ 96/2561 เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2561ในระหว่างการพิจารณาของศาล นางพิศมัยขอเจรจาไกล่เกลี่ยชดใช้ค่าเสียหายในการบุกรุกป่าให้กรมอุทยานฯ เป็นเงิน 600,000 บาท และผ่อนชำระเดือนละ 10,000 บาท เป็นเวลา 5 ปี
ส่วนคดีทางปกครอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ได้ออกคำสั่งให้ผู้กระทำผิดทำลายหรือสิ่งปลูกสร้าง พืชผลอาสิน หรือสิ่งอื่นใดที่ผิดไปจากสภาพเดิมออกไปให้พ้นอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ หรือทำให้สิ่งนั้นกลับสู่สภาพเดิม หลังจากรื้อถอนรีสอร์ทขนาดใหญ่สุดหรูดังกล่าวไปหมดแล้วทางเจ้าหน้าที่จะนำพื้นที่ที่ยึดคืนมาฟื้นฟูสภาพป่าและจะพัฒนาเป็นแหล่งกางเต็นท์ของประชาชนให้มาพักผ่อนหย่อนใจชมทัศนียภาพสภาพธรรมชาติที่สวยงามริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์
นายนิพนธ์กล่าวต่อว่า ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ยังมีแปลงตรวจยึดเนินคดีบ้านพักตากอากาศ หรือรีสอร์ทอีกหลายแปลง ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการต่อสู้อยู่ในศาลปกครอง ซึ่งส่วนใหญ่ศาลมีคำสั่งยกฟ้องให้อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์รื้อถอนได้ จึงเตือนผู้ประกอบการที่อยู่ระหว่างดำเนินคดีให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างเสียเอง ทางกรมอุทยานฯ จะไม่ฟ้องร้องเรียกค่าดำเนินการในการรื้อถอน อีกทั้งทรัพย์สินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวเจ้าของยังที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้ ทั้งนี้แม้ปัจจุบันกรมอุทยาฯจะมีแนวทางผ่อนผันให้ราษฎรอยู่อาศัยทำกินในพื้นที่ ตามมาตรา 64 แห่ง พ.ร.บ.อุทยานฯ 2562 แต่พื้นที่แปลงตรวจยึดดำเนินคดี และเป็นของนายทุนที่มิใช่ราษฎรในพื้นที่ ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาทมาก่อนผู้ครอบครองจะไม่ได้รับสิทธิใดๆ จากแนวทางดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย