ขีดเส้นให้ออกจากวัดพระธรรมกายภายใน 15.00 น.วันนี้

กทม.19 ก.พ.-เจ้าหน้าที่ขีดเส้นตายให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องออกจากวัดพระธรรมกายซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมตามคำสั่ง คสช.ภายใน 15.00 น.วันนี้(19ก.พ.) ผู้ใดฝ่าฝืนหรือขัดขวางจะดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่ทางวัดออกหนังสือคำชี้แจง 5 ข้อแจกจ่ายให้สื่อมวลชน


ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณประตู 7 ประตู 5 และประตู 6 ของวัดพระธรรมกาย เช้าวันนี้(19 ก.พ.) มีตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ประจำจุดเข้าออก อย่างเข้มงวด

โดยยังกั้น ถนนเลียบคลองแอน ห้ามผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าเด็ดขาด รวมทั้งศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย สำหรับพระของวัดพระ สามารถเข้าออกประตู 5 และ 6 ได้ แต่ต้องนำเอกสารประจำตัวแสดงต่อเจ้าหน้าที่


ขณะที่ศิษยานุศิษย์ยังคงปักหลักนั่งสวนมนต์ตั้งแต่ช่วงเช้า โดยเจ้าหน้าที่ได้นำผ้าสแลนและแผงเหล็กมากั้นพื้นที่ เพื่อความสะดวกต่อการเข้าตรวจค้น

พระสนิทวงศ์ วุฑฺฒิวํโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ออกหนังสือคำชี้แจง แจกจ่ายให้สื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่จำนวน 5 ข้อ ประกอบด้วย

1.ที่ผ่านมา 3 วัน ทางเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจค้นอย่างละเอียดทุกอาคาร ทุกชั้น ทุกห้อง ทั้งพื้นที่เป้าหมายทุกจุดและอาคารต่างๆ รวมทั้ง พื้นที่รอบนอกวัด และได้นำสกอตช์เทปสีแดง โลโก้ดีเอสไอ ซีล ประตูทางเข้าอาคารสำนักงานและอาคารบริเวณรอบๆ และอาคารดาวดึงส์ รวม 15 หลัง ซึ่งทางวัดได้อำนวยความสะดวกทุกประการด้วยความเรียบร้อยดี


2.กรณีญาติโยมยังอยู่กันมากและไม่ได้กลับออกไป ไม่ใช่เพราะประเด็นของหลวงพ่อธัมมชโย แต่เพราะห่วงพระลูกพระหลานในวัด เพราะญาติโยมเหล่านี้เป็นโยมพ่อแม่ ปู่ย่าตายายของพระเณร จึงมาดูแลด้วยความเป็นห่วง และสวดมนต์เจริญสมาธิภาวนา รวมทั้ง เป็นห่วงวัดและทรัพย์สินของวัด เนื่องจากมีข่าวจากโซเชียลเน็ตเวิร์กแพร่หลายว่า อาจมีการเข้ามายึดทรัพย์สินของวัด ยึดรูปเหมือนทองคำหลวงปู่วัดปากน้ำ ยึดอาคารสถานที่ของวัดไปทำเป็นที่ทำงานของเจ้าหน้าที่ นำของผิดกฏหมาย เช่น อาวุธ ยาเสพติด มายัดเยียดแล้วใส่ร้ายพระและวัด ฯลฯ โดยเฉพาะวันที่ 2 ของการตรวจค้น เจ้าหน้าที่มาเต็มอัตรา ทั้งรถตู้ รถบัส หลายสิบคัน สร้างความตื่นตระหนักอย่างมากให้กับสาธุชนที่มาปฏิบัติธรรม ซึ่งทางวัดไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบภายในรถได้ รวมทั้ง การนำสุนัขตำรวจเข้ามาด้วยก็ยิ่งไม่สบายใจ ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า เจ้าหน้าที่จะเป็นคนทำ

เรื่องไม่ดีดังกล่าว แต่ข่าวลือผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก ทำให้ทุกคนหวาดระแวงไปหมดในทุกเรื่อง จึงขอได้โปรดเห็นใจพระเณรและญาติโยมด้วย

3.ขอความกรุณา คสช. และรัฐบาล ยกเลิก ม.44 เพราะพระภิกษุสามเณร ได้รับความลำบากในการบิณฑบาต และบำเพ็ญสมณะกิจอื่นๆ และเนื่องจากมีการสับเปลี่ยนกำลังของเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา บางครั้งข้อมูลสื่อสารไม่ถึงกัน พระเณรออกไปงานศพญาตินอกวัด ก็ไม่สามารถกลับเข้าวัดได้

4.วันที่ 21-23 ก.พ. 2560 ที่จะถึงนี้ เป็นการสอบพระบาลีของพระภิกษุสามเณรทั่วประเทศ โดยพระภิกษุสามเณรของวัดหลายร้อยรูปต้องออกไปสอบพระบาลี ขอความกรุณาเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้สามารถสอบได้ หรือขอความเมตตาไปยังการคณะสงฆ์และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้จัดส่งตัวแทนเจ้าหน้าที่ผู้คุมสอบจากมหาเถรสมาคม เข้ามาจัดสนามสอบภายในวัดพระธรรมกาย เพราะสามเณร คือเยาวชนที่ดีของชาติ มาศึกษาเล่าเรียนเพื่อพัฒนาตนเอง ไม่ได้ทำร้ายสังคม ไม่เป็นภาระของชาติ แต่ช่วยให้การสืบสานวัฒนธรรมไทยและสืบอายุพระพุทธศาสนาต่อไปในอนาคตอีกด้วย

5.มีข่าวจากสื่อมวลชนว่า จะมีการตัดน้ำตัดไฟวัด ทางวัดขอความเห็นใจว่า จะสร้างความเดือดร้อนให้พระภิกษุสามเณรที่บำเพ็ญสมณกิจ รวมทั้งญาติโยมที่มาปฏิบัติธรรมจำนวนมาก ขอความกรุณาอย่าใช้มาตรการนี้ เพราะไม่สมเหตุสมผล ที่ผ่านทางวัดเองก็ให้ความร่วมมือด้วยดีเสมอมา

ด้านดีเอสไอ หลังประกาศเส้นตาย ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกจากวัดภายใน 15.00 น.วันนี้(19 ก.พ.) ล่าสุดที่ประตู 5 ทางเข้าถนนเลียบคลองแอน มีการนำแผงเหล็กมากั้น ไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในวัด ฝั่งประตู 5 และ 6 หลังกรมสอบสวนคดีพิเศษ และสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ประชุมสรุปแผนตรวจค้นวัดพระธรรมกายเสร็จสิ้น

พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า การตรวจค้นวัดทั้งโซน เอ บี และซี ครบ แต่เนื่องจากพื้นที่กว้างและยังมีศิษยานุศิษย์และพระสงฆ์ที่ไม่ใช่วัดพระธรรมกายอยู่ในวัด โดยจะตรวจสอบใบสุทธิของพระสงฆ์ทุกรูปที่ไม่เกี่ยวข้องและให้ออกจากวัดภายในเวลา 15.00 น.เช่นเดียวกับลูกศิษย์ทุกคนต้องออกจากวัด ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมตาม คำสั่ง คสช. โดยเจ้าหน้าที่จะนำรถยนต์ติดตั้งเครื่องขยายเสียงประกาศให้เคลื่อนย้ายรถยนต์ เครื่องกีดขวางออกไปให้หมด ผู้ใดขัดขวางจะถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย

S__48030350

นอกจากนนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำเฮลิคอปเตอร์ บินสำรวจพื้นที่รอบวัดพระธรรมกาย ส่วนการตรวจค้นวัด ยังไม่พบพระธรรมชโย แต่อำนาจของคำสั่ง คสช.ให้เวลาเจ้าหน้าที่อีกหลายวันในการดำเนินการให้เสร็จสิ้น และยังไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการตัดน้ำตัดไฟวัดพระธรรมกาย.-สำนักข่าวไทย

 

 

 

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง